ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1899 อาหนาน
บทที่ 1899 อาหนาน
เจี่ยงหนานซางไปหาหากู้เสี่ยวหวานทีละก้าว ตอนนี้โรงศาลที่มีอำนาจสูงสุดจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เจี่ยงหนานซาง
เมื่อครู่เจี่ยงหนานซางฆ่าคนสามคนโดยไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหว ทุกคนต่างคิดว่านี่คือสัตว์ประหลาด ใครจะกล้าก้าวไปข้างหน้ากัน!
หมิ่นเสวียซือเห็นว่างบรรยากาโรงศาลอยู่ในความโกลาหล จึงตะโกนด้วยความโกรธว่า “ใครก็ได้ มาพาตัวเขาออกไป มาพาออกไป!”
เจ้าหน้าที่กรูเข้ามาล้อมรอบเจี่ยงหนานซางไว้ ภายในมือถือมีอาวุธครบมือ แต่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปมากกว่านี้ พวกเขากลัวว่าหากเข้าใกล้อีกฝ่าย พวกตนเองจะตายโดยไม่รู้สาเหตุ!
เกิดความโกลาหลในโรงศาล และบางคนไม่กล้าอยู่ต่อเพราะกลัวว่าความโหดเหี้ยมของเจี่ยงหนานซางจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา ดังนั้นจึงวิ่งหนีอุตลุด
แต่ยังมีคนที่กล้าหาญกว่าก้าวเข้าไปด้วยความตื่นเต้นและประหม่า! พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่สามารถฆ่าคนโดยไม่ต้องขยับมือ นี่คือปรมาจารย์!
คดีฆาตกรรมของกู้เสี่ยวหวานล่าช้าเช่นนี้ จะทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าวังหยินและห่าวอิ๋งจะโกรธเคืองแค่ไหน แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูก การเอาชีวิตรอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
ชายหนุ่มตรงหน้าเขาคนนี้ฆ่าคน แต่เขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย ชีวิตคนทั้งคนราวกับผักปลา บอกว่าให้ตายก็ตายได้เลย!
แต่พวกเขายังหวาดกลัวความตาย ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามหมิ่นเสวียซือและถอยกลับไปที่ด้านหลัง
ในขณะนี้มันกลายเป็นฉากที่น่าอาย
เจี่ยงหนานซางและกู้เสี่ยวหวานอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ ทั้งสองต่างจ้องเขม็งอีกฝ่ายไม่ละสายตา
แม้ว่าห่าวอิ๋งและวังหยินจะกลัว แต่พวกเขาก็อยากจะดูเรื่องตื่นเต้น คงจะดีมากถ้าชายคนนี้ฆ่ากู้เสี่ยวหวาน!
ถือได้ว่าเป็นการแก้แค้นให้กับลูกของพวกเขา!
กู้เสี่ยวหวานยื่นมือออกไปปกป้องกู้เสี่ยวอี้และถานอวี้ซูด้านหลังนาง ทั้งสองคนไม่ยอมปล่อยใครไป และยืนเผชิญหน้ากัน!
เจี่ยงหนานซางรู้ว่าตราบใดที่เขาขยับมือเพียงเล็กน้อย คนที่อยู่ข้างหน้าเขาจะตายทันที และงานของเขาจะสำเร็จทันที
เจี่ยงหนานซางโน้มตัวไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็ลดเสียงลง และพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ข้าจะฆ่าหนึ่งในนั้นเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า ตกลงไหม? ไม่เช่นนั้น ข้าก็ต้องฆ่าเจ้า!”
ไม่เคยมีใครได้รับโอกาสแบบนี้ เขาไม่เคยปล่อยให้เป้าหมายของตนเองรอดไปได้
ริมฝีปากของกู้เสี่ยวหวานถูกขบจนซีด และเอ่ยเน้นทีละคำ “ฝันไปเถอะ!”
กู้เสี่ยวอี้ร้องไห้ “ท่านพี่ ให้เขาฆ่าข้า ให้เขาฆ่าข้า!”
ถานอวี้ซูก็ร้องไห้ “ท่านพี่ ให้เขาฆ่าข้า!”
ทั้งสองคนพยายามดิ้นรนเพื่อช่วยชีวิตตน และมอบชีวิตตนเองให้เจี่ยงหนานซาง ร่างกายของกู้เสี่ยวหวานเหมือนรูปปั้น ไม่ว่าพวกนางจะดิ้นรนหนักแค่ไหนนางก็ไม่ขยับ
ไม่มีใครทำร้ายครอบครัวของนางได้
“ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าก่อน!” เจี่ยงหนานซางยื่นมือและชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานไม่กลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตราย นางแค่จ้องไปที่เจี่ยงหนานซางและปกป้องน้องสาวสองคนไว้ด้านหลัง
เมื่อเห็นว่านางไม่เคลื่อนไหว ทันใดนั้นเจี่ยงหนานซางก็ก้าวไปข้างหน้า เหยียดแขนยาวของเขาออกและโอบกอดกู้เสี่ยวหวานไว้ในอ้อมแขน เขายิ้มและกระซิบข้างหูของนาง “เจ้าน่าสนใจจริง ๆ แต่ข้าไม่ชอบคนที่น่าสนใจเกินไป…เดิมทีข้าตั้งใจจะเล่นสักสองวัน แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว! ข้าไม่ชอบคนสร้างปัญหาเอามาก ๆ!”
เขาจับแขนหญิงสาวและออกแรงเล็กน้อย
แรงที่ถูกส่งมาทำให้ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานซีดลงทันที และนางพยายามอย่างยิ่งที่จะหลบหนีจากการคุมขังของเขา
ไม่ใช่ว่านางไม่กลัวความตาย นางกลัว!
ทุกคนมองไปที่กู้เสี่ยวหวานในอ้อมแขนของเจี่ยงหนานซาง และทันใดนั้นใบหน้าของนางก็ซีดลง บางคนตกใจและบางคนก็ตื่นเต้น!
แน่นอนว่าเขากำลังจะฆ่าคนอีกครั้ง!
ห่าวอิ๋งตื่นเต้นมากและตะโกน “ฆ่านางเลย ฆ่านางเลย!”
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานถูกเจี่ยงหนานซางจับตัวไว้ หมิ่นเสวียซือจึงรีบตะโกนว่า “รีบปล่อยนาง นี่คืออาชญากรคนสำคัญของราชสำนัก เจ้าจะมาแย่งตัวนางไปได้อย่างไร”
เจี่ยงหนานซางหันกลับมา เขาโอบแขนรอบเอวของกู้เสี่ยวหวานและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นข้าจะฆ่านางล่ะ?”
เขาเย้ยหยัน สภาพแวดล้อมเงียบสงัดจนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกลงบนพื้น เขายื่นมือขวาออกไปวางไว้บนศีรษะของกู้เสี่ยวหวาน พร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา!
กู้เสี่ยวอี้และถานอวี้ซูส่งเสียงร้องเสียดแทงหัวใจ “ไม่นะ!”
กู้เสี่ยวหวานถูกเจี่ยงหนานซางจับได้และรู้ว่าเขาโหดร้าย เมื่อมองไปที่ถานอวี้ซูและกู้เสี่ยวอี้ที่กำลังร้องไห้และกรีดร้อง กู้เสี่ยวหวานก็ฝืนยิ้ม
มือของเจี่ยงหนานซางอยู่บนศีรษะของนาง และนางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง จากนั้นเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางก็ถูกดึงออกจากร่างกาย
สติของนางพร่ามัวมากขึ้นเรื่อย ๆ และความทรงจำในอดีตก็เลื่อนผ่านความคิดของนางทีละเรื่องราวกับภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น
นางไปนัดบอด โดนระเบิดจนตาย มาที่นี่และกลายเป็นพี่สาวของน้องทั้งสามคน! ตลอดมาจนถึงปัจจุบันดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสงบลงแล้วและทุกอย่างก็ดูเหมือนจะล้มล้างและเริ่มต้นใหม่
น้องชายน้องสาวอีกสามคน ท่านพี่เย่จือและคนอื่น ๆ ตามมารุมล้อมรอบตัวนาง
ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือก่อนหน้านี้ นางดูเหมือนจะมีความทรงจำบางอย่างที่ขาดหายไป แต่นางก็หามันไม่พบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางจำได้เพียงว่ามีใครบางคนกำลังตะโกนว่า…
อาหนาน!
จากนั้นร่างกายของคนคนนั้นก็แข็งทื่อ
แต่ในขณะนี้ เสียงแส้ในอากาศทำให้กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเพียงว่าร่างกายของตัวเองถูกบางสิ่งรัดเอาไว้ จากนั้นก็ถูกดึงออกมาด้วยแรงอันแข็งแกร่ง และกู้เสี่ยวหวานก็ตกอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง
นางไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลืมตา นางได้เพียงกลิ่นที่คุ้นเคยและเสียงสั่นเครือที่คุ้นเคย “หวานเอ๋อร์…”
กู้เสี่ยวหวานหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของชายคนนั้น
เจี่ยงหนานซางมองไปที่แขนอันว่างเปล่าของตัวเอง ใบหน้าของเขาดุร้าย ปลายนิ้วของเขาดูเหมือนจะสั่นเทา และชี้ไปที่ชายที่อยู่ตรงข้าม ทุกคำและทุกประโยคเต็มไปด้วยความเย็นชา “ให้นางกับข้า!”
กู้เสี่ยวอี้และถานอวี้ซูมองชายนิรนามที่ออกมาอย่างกะทันหันด้วยความประหลาดใจ ชายคนนี้สูง และดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่นางรู้จักดี แต่ใบหน้าของเขา…
อาจั่วและอาโม่ตามหลังเขามา เมื่อพวกเขาเห็นกู้เสี่ยวอี้และถานอวี้ซูจึงรีบปกป้องพวกนางไว้ด้านหลัง “เป็นพี่ใหญ่ฉิน!”
ฉินเย่จือกลับมาแล้ว!