ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1935 องค์หญิงอันผิง
บทที่ 1935 องค์หญิงอันผิง
ห่าวอิ๋งสับสนและกระสับกระส่ายอยู่ครู่หนึ่ง โดยคิดว่าเป็นหมิงอ๋องที่ต้องการนำข้อความมาบอกต่อ เมื่อนึกถึงสิ่งที่มารดาพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเสียใจที่พูดสิ่งเหล่านี้ออกไปกลางห้องโถง หากแต่มันก็แปลกประหลาดเล็กน้อย นางไม่ได้เอ่ยถึงหมิงตูจวิ้นจู่เลยสักหน่อย หมิงอ๋องต้องการพูดอะไรกับนางกัน?
“ท่านอ๋อง…ท่านอ๋องต้องการบอกอะไร…กับข้า?” เสียงของห่าวอิ๋งสั่นเครือเล็กน้อย
“ท่านอ๋องกล่าวว่าหลังจากฟังคำพูดของฮูหยินวังแล้ว เขารู้สึกเสียใจต่อความเจ็บปวดของฮูหยินวังที่สูญเสียลูกชายไป นอกจากนี้เขาจะตามหาฆาตกรที่ฆ่านายน้อยและแก้แค้นแทนฮูหยินวังด้วย!”
ตามหาฆาตกรที่ฆ่านายน้อย?
นี่คือ… สิ่งที่ท่านอ๋องพูดหรือ?
สีหน้าของวังกุ้ยเฟยเปลี่ยนไปทันที
เกิดอะไรขึ้นกับหมิงอ๋องกัน?
เล็บสีแดงสดของนางจิกลงไปในเนื้อ หมิงอ๋องหมายถึงอะไรกันแน่?
ใบหน้าของห่าวอิ๋งบิดเบียวน่าเกลียดมาก ตามหาฆาตกรหรือ? หมิงตูจวิ้นจู่คือฆาตกร!
วังหยินได้บีบข้อมือของนางจนแน่นแล้ว กำลังเตือนนางว่าถ้านางยังพูด สิ่งที่เขากอบกุมอยู่นี้อาจจะไม่ใช่มือนางอีกต่อไป!
ความประหลาดใจของห่าวอิ๋งหายไปในชั่วพริบตา และนางพยายามยับยั้งสีหน้าประหลาดใจบนใบหน้า “ข้า…ขอบพระทัย…ท่านอ๋อง!”
ลูกสาวของเขาเป็นฆาตกร แต่เขากลับบอกว่าจะตามหาฆาตกร นี่…หมายความว่าอย่างไรกันแน่!
และหลังจากที่ขันทีน้อยพูดจบ ก็หันไปคำนับกู้เสี่ยวหวาน “อันผิงจวิ้นจู่ ท่านอ๋อง… ฝากข้อความถึงท่าน!”
ฝากข้อความถึงตัวเอง?
กู้เสี่ยวหวานคิดว่านี้คงเป็นเจตนามุ่งร้ายของหมิงตูจวิ้นจู่ หมิงอ๋องคงเกลียดนางมากและอยากทำให้นางเสียหน้าสินะ
จากนั้นก็ได้ยินขันทีตัวน้อยพูด “ท่านอ๋องบอกว่า อันผิงจวิ้นจู่สามารถพูดในสิ่งที่นางรักได้อย่างจริงใจ ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็ตาม มันเป็นตัวอย่างสำหรับชาวต้าชิงต้องเอาเป็นตัวอย่าง ทั้งยังมอบของขวัญพิเศษ ไข่มุกทะเลใต้สิบเม็ด ทองคำห้าร้อยตำลึงเงิน ผ้าไหมหนึ่งร้อยผืน และเครื่องประดับศีรษะยี่สิบชุด!”
เมื่อทุกคนได้ยินก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ!
หมิงอ๋องให้ของขวัญแก่กู้เสี่ยวหวานหรือ? ทั้งยังบอกว่านางเป็นที่สตรีของต้าชิงควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เช่นนี้ถือเป็นการยกย่องกู้เสี่ยวหวานหรือไม่?
จากนั้นก็ได้ยินขันทีน้อยพูดว่า “ท่านอ๋องบอกว่าของขวัญจะถูกส่งไปที่รถม้าของจวิ้นจู่ด้านนอกประตูวัง!”
ส่งไปถึงรถม้างั้นหรือ หมายความว่าพวกเขาสามารถมองเห็นสิ่งของเหล่านั้นได้ใช่หรือไม่?
นั่นก็หมายความว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นของจริง ไม่ใช่ของปลอม?
ทุกคนรู้สึกว่าหมิงอ๋องคนนี้ต้องถูกกู้เสี่ยวหวานทำให้โกรธจนแทบเสียสติ
ประการแรกร้านอาหารถูกบีบคั้นโดยร้านจิ่นฝูจนไม่สามารถกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ทั้งคราวนี้ยังได้ยินมาว่าหมิงตูจวิ้นจู่ถูกฮ่องเต้สั่งควบคุมพฤติกรรมเป็นเวลาสามเดือนและปรับลดเงินเดือนเป็นเวลาสองปี อีกทั้งงานเลี้ยงครั้งนี้ก็ไม่ได้ด้วย ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่กู้เสี่ยวหวานถูกส่งตัวเข้าคุก!
ทุกคนต่างรับรู้กันทั่วว่าหมิงอ๋องโกรธมาก และคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าในอนาคตอันผิงจวิ้นจู่จะต้องมีช่วงเวลาอันยากลำบากแน่นอน!
จากนั้นก็ได้ยินไทเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงพลัง “ยังจำเป็นต้องพูดอะไรอีกหรือ ไม่ว่าอันผิงจวิ้นจู่จะเป็นเช่นไร เราก็ไม่ต้องการให้เจ้าเอ่ยถึงสิ่งนี้อีก!”
ทุกคนคอยืดคอยาว สายตามองไปที่ห้องโถงรอคำพูดของไทเฮาอย่างตื่นเต้น!
ไทเฮาจับมือกู้เสี่ยวหวานแน่น แววตาฉายชัดให้เห็นถึงความสุข “เสี่ยวหวาน เจ้าเป็นเด็กดี เราพบเจอคนมามากมาย สามารถมองเห็นได้ด้วยตาตนเองว่าบุคคลนั้นดีหรือไม่ดี! แต่หลายวันมานี้เด็กดีของเราคนนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม!”
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื้นตันใจกับคำพูดของไทเฮายิ่งนัก “ไทเฮาเหนียงเหนียง เสี่ยวหวานไม่ได้พบเจอความอยากลำบากใด ข้าขอบพระทัยสำหรับความความห่วงใยจากไทเฮา!”
ไทเฮาพอใจยิ่งนัก และตบมือของกู้เสี่ยวหวานแผ่วเบา “เราชอบเจ้ามาก!”
ฮองเฮาด้านข้างใช้ผ้าเช็ดริมฝีปากแผ่วเบา “เสด็จแม่ หากเสี่ยวหวานทำให้ท่านมีความสุขมากเช่นนี้ เหตุใดถึงไม่รับนางเป็นลูกสาวบุญธรรมล่ะเพคะ? องค์หญิงลี่หัวจะได้มีเพื่อนด้วย!”
ครั้นไทเฮาได้ยินดังนั้น ดวงหน้าสวยตามวัยพลันคลี่ยิ้มออกมา! แต่ทุกสายตากลับจับจ้องไปยังฮ่องเต้ เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้หมายถึงอะไร…
“เสด็จแม่ คำแนะนำของฮองเฮายอดเยี่ยมยิ่งนัก ข้ามองไปที่เสี่ยวหวานก็มีความสุขมาก หากข้าจะรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรมล่ะ ท่านจะว่าอย่างไรบ้าง?”
ว่าอย่างไรนะ?
ตกหลุมรัก หากแต่ไม่ได้รับนางเข้ามาในฐานะนางสนม แต่กลับรับเข้ามาในฐานะนน้องสาวบุญธรรม
เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮ่องเต้จะชอบอันผิงจวิ้นจู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ?
ไทเฮายิ้มและมอบคำสั่งทันที “ประกาศคำสั่งของอายเจียไปให้โลกรู้ อายเจียรับอุปการะอันผิงจวิ้นจู่เป็นลูกสาวบุญธรรม และแต่งตั้งนางเป็นองค์หญิงอันผิง!”
ทุกคนต่างตื่นตกใจ นี่…
แม้แต่กู้เสี่ยวหวานก็ตกใจเช่นกัน
ไม่ใช่แค่ทุกคน แต่แม้แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงมีอาการตกตะลึง ไทเฮารับนางเป็นลูกสาวบุญธรรมหรือ?
นี่…นางตกตะลึงและลืมแม้แต่จะขอบคุณ ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างมองความงุนงงของกู้เสี่ยวหวานแล้วยิ้มออกมา “องค์หญิงอันผิง เหตุใดเจ้ายังไม่รับทำความเคารพไทเฮาเหนียงเหนียงอีกล่ะ?”
ถานอวี้ซูมีความสุขอย่างยิ่ง องค์หญิงลี่หัวก็เดินไปยังที่นั่งของกู้เสี่ยวหวาน ดึงแขนนางขึ้นและพูดว่า “เสี่ยวหวาน ทำไมเจ้าไม่มาขอบคุณท่านแม่ล่ะ?”
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่องค์หญิงลี่หัว ฮองเฮาเหนียงเหนียง ฮ่องเต้จากนั้นก็มองไปที่ไทเฮาเหนียงเหนียงผู้ใจดี และรู้สึกว่าตัวเอง…
เหมือนกำลังฝันอยู่!
นางรีบคุกเข่าลงทันที “เสี่ยวหวาน… ขอบพระทัยไทเฮาเหนียงเหนียง…”
“เป็นลูกสาวบุญธรรมแล้ว ในอนาคตเจ้าจะต้องเรียกไทเฮาว่าเสด็จแม่แบบที่ข้าเรียก!” องค์หญิงลี่หัวกะพริบตาอย่างซุกซนและพูดว่า “นี่คือท่านพี่ฮ่องเต้ นี่คือท่านพี่สะใภ้!”
เล็บของวังกุ้ยเฟยจิกเข้าไปในเนื้อ! วังกุ้ยเฟยกัดฟันด้วยความเจ็บปวด หากแต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร!
ฝูงชนเห็นเพียงกู้เสี่ยวหวานคุกเข่าอยู่บนพื้นเพื่อขอบคุณสำหรับความเมตตาอันยิ่งใหญ่ ก็ไม่อาจพูดคำใดออกมาได้
ในอนาคตกู้เสี่ยวหวานจะเป็นลูกสาวบุญธรรมของไทเฮาและน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ?