ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1945 คนที่ชมทิวทัศน์จากที่สูง
บทที่ 1945 คนที่ชมทิวทัศน์จากที่สูง
คนเย่อหยิ่งอย่างซูหลินจะแบกรับการกระทำเฉยเมยเช่นนี้ได้อย่าง เขาจึงกล่าวเคล้ารอยยิ้มขนาดมองไปที่กู้ซินเถา
เมื่อได้ยินเสียงของซูหลิน นางจึงหันกลับมาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หากแต่ยังเว้นระยะไว้ “ซื่อจื่อ ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่นั่งมองออกไปข้างนอกแล้วรู้สึกบางอย่างเท่านั้น!”
“แม่นางกู้ รู้สึกอย่างไรหรือ” ซูหลินถามด้วยความสนใจหลังจากได้ยินสิ่งนี้
กู้ซินเถายิ้มจาง “ชีวิตก็เหมือนกับตึกนี้ บางคนอยู่บนที่สูง บางคนต่ำต้อยเหมือนเศษฝุ่น และบางคนเกิดอยู่ด้านล่างและไม่อาจปีนป่ายขึ้นมาได้ โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจึงมองไม่เห็นทัศนียภาพอันงดงามจากที่สูงแห่งนี้!”
“แม่นางกู้ ดูเหมือนจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้ง?” หลังจากที่ซูหลินได้ยินคำพูดของกู้ซินเถา เขาก็หันศีรษะไปมองที่ชั้นล่าง
เพียงแต่เขาคุ้นเคยกับการยืนอยู่บนก้อนเมฆ และคุ้นเคยกับการชมทิวทัศน์จากที่สูงแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นความแตกต่างใด ๆ!
ในขณะนี้ เถ้าแก่เซี่ยวนำลูกจ้างในร้านยกชามาพร้อมของว่างหน้าตาน่ารับประทาน ซึ่งกู้ซินเถาไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน!
“ซื่อจื่อ แม่นางกู้ นี่คือของว่างที่ดีที่สุดในโรงน้ำชาของเรา พ่อครัวของเราเคยทำงานที่ห้องเครื่องในวังมาก่อน ของว่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนในวังกินบ่อย แม่นางกู้ลองดูหน่อยเถอะ”
เถ้าแก่เซี่ยวแนะนำเครื่องดื่มและของว่างอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะถูกซูหลินไล่ออกไป
เขาหยิบขนมหลิงหลงขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ส่งให้กู้ซินเถา “ขนมนี้ทำมาจากดอกท้อสดใหม่จากต้นท้อในเดือนสาม นำมาบดและต้มเพื่อทำน้ำราดดอกท้อซึ่งมีรสหวานและหอม เจ้าลองชิมดู…”
กู้ซินเถาเอื้อมมือไปหยิบมันมาชิมเล็กน้อย และน้ำราดดอกท้อก็อบอวลไปทั้งปาก รสชาติละเอียดอ่อนมากแม้เก็บดอกท้อมานานแล้วก็ยังรักษาความสดใหม่ไว้ได้ เป็นไปได้ว่าขนมชิ้นนี้จะมีค่ามาก!
“เป็นอย่างไร อร่อยไหมหรือไม่” ซูหลินมองกู้ซินเถา
กู้ซินเถามองไปที่ขนมที่เหลืออยู่ในมือ ก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้า “อร่อย ข้าไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย!”
ทำตัวเหมือนยังไม่เคยเห็นโลกมาก่อน!
เมื่อเห็นว่านางชื่นชอบ ซูหลินก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอร่อยเจ้าก็กินเยอะ ๆ เถอะ ถ้าแม่นางกู้ไม่ว่าอะไร คราวหน้าข้าจะพาเจ้ามาที่นี่อีก!”
เมื่อกู้ซินเถาได้ยินเขาบอกว่าเขาจะพานางมาอีก ประกายแห่งความปีติยินดีแวบเข้ามาในหัวใจ หากแต่ก็ยังพูดอย่างใจเย็น “ขอบคุณซื่อจื่อ แต่…”
“แต่อะไร?” เมื่อเห็นความลังเลของนาง ซูหลินจึงรีบถามอย่างร้อนรน
“ท่านแม่ของข้าเข้มงวดมาก ข้ากลัวว่าหลังจากกลับไป ท่านแม่จะซักข้าจนขาวสะอาด!” กู้ซินเถายิ้มอย่างอึดอัดใจ ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ เมื่อเทียบกับชุดสีเหลืองทำให้ใบหน้านั้นดูโดดเด่น!
หัวใจของซูหลินสั่นไหว และพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าท่านป้าเข้มงวด คราวหน้าก่อนที่ข้าจะชวนแม่นาง ข้าจะบอกท่านลุงและท่านป้าล่วงหน้าอย่างแน่นอน ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องกังวลใจ มาเถอะ สิ่งนี้ก็อร่อยเหมือนกัน เจ้าลองดู…”
ซูหลินหยิบอีกชิ้นหนึ่งแล้วส่งให้กู้ซินเถา ตอนนี้กู้ซินเถาวางขนมดอกท้อที่กินไปได้ครึ่งชิ้นลง แล้วเอื้อมมือไปหยิบขนมอีกชิ้นจากมือของซูหลิน!
เมื่อเห็นนางยื่นมือออกมา ซูหลินก็ดึงมือกลับ กู้ซินเถาเงยหน้าขึ้นมองซูหลินอย่างสงสัย และเห็นซูหลินลุกขึ้นยืน เอนตัวมาทางกู้ซินเถา!
กู้ซินเถารู้สึกกระวนกระวายอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของซูหลินขยับเข้ามาใกล้มาขึ้นเรื่อย ๆ
หัวใจของนางกำลังเต้นแรงและจนรู้สึกเหมือนจะมันจะกระดอนออกจากอก แต่นี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ประกายแห่งแรงบันดาลใจแวบเข้ามาในความคิดของนาง นางรีบก้าวถอยหลัง ร่องรอยความระแวดระวังแวบเข้ามาในดวงตาของนาง “ซื่อจื่อกำลังจะทำอะไร?”
เมื่อรู้สึกถึงความระแวดระวังในดวงตาของกู้ซินเถา ซูหลินยิ้มและพูดว่า “อย่าขยับ…”
หลังจากพูดจบ มือข้างหนึ่งก็จับไหล่ของกู้ซินเถาแน่น มองท่าทางกระวนกระวายของกู้ซินเถา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความระแวดระวังอย่างมาก “ซื่อจื่อ ท่าน…”
ก่อนที่นางจะพูดจบ ซูหลินยื่นมืออีกข้างออกไปสัมผัสปากของกู้ซินเถา นางรู้สึกว่ามีปลายนิ้วอุ่น ๆ เคลื่อนผ่าน และซูหลินก็เอนตัวกลับไป “ดูสิ เลอะปากหมดแล้ว!”
ใบหน้าของกู้ซินเถาแดงก่ำด้วยความเขินอาย หวังว่านางจะหาหลุมบนพื้นและมุดลงไป แต่ซูหลินกลับพูดเคล้ารอยยิ้ม “นานแล้วที่ข้าไม่เห็นผู้หญิงนิสัยเช่นเจ้ามาก่อน เจ้ากินได้เหมือนแมวเลย ช่างน่ารักจริง ๆ!”
ด้วยคำชมของซูหลินทำเอากู้ซินเถาหน้าแดง “ข้าทำให้ซื่อจื่อเห็นเรื่องน่าอายเสียแล้ว! ซินเถาเติบโตในชนบทตั้งแต่ยังเด็ก และนี่เป็นครั้งแรกที่ซินเถาได้กินขนมแสนอร่อยแบบนี้!”
ซูหลินพยักหน้า “เจ้าช่างแตกต่างจากน้องสาวของเจ้า!”
“ซื่อจื่อหมายถึงอันผิงจวิ้นจู่หรือ?”
ซูหลินวางถ้วยชาในมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ? ตอนนี้นางไม่ใช่อันผิงจวิ้นจู่อีกต่อไป!”
กู้ซินเถาตกตะลึง “ท่านพูดอะไร? ท่านบอกว่าน้องสาวของข้าไม่ใช่อันผิงจวิ้นจู่แล้วหรือ แล้วตอนนี้นางเป็นอย่างไร? เหตุการณ์ครั้งก่อนก็ไม่เกี่ยวกับนางไม่ใช่เรอะ ทำไม…”
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถากังวลเกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวาน ซูหลินจึงกล่าวว่า “เจ้าคงกังวลเกี่ยวกับน้องสาวของเจ้า ตอนนี้นางไม่ใช่อันผิงจวิ้นจู่ แต่เป็นองค์หญิงอันผิง!”
“อะไรนะ?” ท่าทางตกใจของกู้ซินเถาครั้งนี้มากกว่าครั้งก่อน และแม้แต่เสียงของนางก็ดังกว่าเดิมมาก!
ซูหลินเห็นสีหน้าตกใจของกู้ซินเถาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อะไรกัน? เจ้าไม่ดีใจกับน้องสาวของเจ้าหรือ?”
กู้ซินเถารีบระงับความตกใจทันที และพยายามฝืนยิ้ม “มีความสุขสิ ทำไมข้าจะไม่มีความสุข!” กู้ซินเถาพูด “มันยากสำหรับนาง ตอนนี้นางประสบความสำเร็จแล้ว! ทำไมข้าถึงจะไม่ยินดีกับนางล่ะ!”
หลังจากพูดจบ นางเอียงศีรษะและมองไปข้างนอก พยายามปรับน้ำเสียงให้นิ่งสงบ “ตอนนี้ นางคือผู้ที่สามารถนั่งในตำแหน่งนี้และชมทิวทัศน์นี้ได้!”
กู้ซินเถาเกลียดกู้เสี่ยวหวานมาก แต่ในขณะนี้นางไม่กล้าที่จะแสดงออก นางกำฝ่ามือแน่น และกลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถระงับอารมณ์ได้!