ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1980 วิธีทำลายการต่อต้าน
บทที่ 1980 วิธีทำลายการต่อต้าน
“ท่านพี่ พี่หนิงอันรูปโฉมงดงาม อีกทั้งตอนนี้เขายังเป็นจอหงวน มีนิสัยสงบนิ่ง บุรุษที่เพียบพร้อมเช่นนี้ หากว่าข้าไม่มีหนิงผิงอยู่ในใจ เกรงว่าคงต้องตาเขาเป็นแน่!” ถานอวี้ซูเอ่ย
ถานอวี้ซูไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้มาก่อน เมื่อนางเอ่ยคำพูดดังกล่าวกู้เสี่ยวหวานพลันรู้สึกตัวว่ากู้หนิงอันเองก็โตแล้ว เขาควรมีหญิงสาวที่อยู่ในใจ
“แล้วดูเหมือนว่าหนิงอันจะไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น?” กู้เสี่ยวหวานคาดเดา
“ในความคิดของข้า ข้าเกรงว่ามันจะไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น!” ถานอวี้ซูส่ายหน้า “ปฏิกิริยาของพี่หนิงอันในตอนนั้นเหมือนกับปฏิบัติต่อสหายธรรมดาคนหนึ่ง ข้าเกรงว่าเขาคงไม่มีแม้แต่ความหมายลึกซึ้งอะไร”
“ข้าเกรงว่าเพ่ยหยาจะไม่เต็มใจเข้าวัง!” กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจ “แล้วข้าควรทำอย่างไรดีล่ะ?”
ถานอวี้ซูรู้สึกเสียใจไม่น้อย “ท่านพี่ ท่านบอกว่าเพ่ยหยาไม่ต้องการเข้าวัง และนางก็ชื่นชมพี่หนิงอัน ถ้าพี่หนิงอันมีความคิดเช่นเดียวกันนั้นก็คงจะดี เราสามคนจะได้อยู่ด้วยกัน! เฮ้อ น่าเสียดายจริง ๆ!”
น่าเสียดายสำหรับกู้เสี่ยวหวาน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความตั้งใจของกู้หนิงอัน นางจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งงานของน้องชายเด็ดขาด!
ทุกคนจะได้พบกับคนรักของตัวเอง นางไม่สามารถควบคุมมันได้!
“เราต้องมาดูกันต่อไป!” กู้เสี่ยวหวานพูด “เพ่ยหยากำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าและข้าไม่อาจล่วงรู้ได้ ข้าจะถามหนิงอันว่าเขามีความคิดอย่างไร ถ้าเขาไม่คิดอะไรก็ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ! แล้วเราก็แกล้งทำเป็นไม่รู้!”
ถานอวี้ซูพยักหน้าอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”
หลังจากคุยเรื่องของฟางเพ่ยหยาแล้ว นางก็ขอตัวกลับก่อน จากนั้นบรรยากาศของสวนชิงก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
หลังจากกู้เสี่ยวหวานอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ นางก็รู้สึกตาสว่าง หลังจากคาดคะเนแล้วเวลานี้กู้หนิงอันคงยังไม่นอน ดังนั้นจึงสวมเสื้อคลุมแล้วไปยังลานของกู้หนิงอัน
กู้หนิงอันกำลังอ่านหนังสืออยู่ เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานกำลังเดินเข้ามาหาตน เขาก็รีบวางหนังสือในมือลง ทั้งสองพี่น้องคุยกับเงียบ ๆ อยู่ในห้อง
“ช่วงนี้เรื่องของกรมคลังเป็นอย่างไรบ้าง เรียบร้อยดีหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานถามหลังจากจิบน้ำร้อนที่อาจั่วรินให้
“ไม่เลวเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นนโยบายใหม่ เมื่อนำไปใช้ จะเกิดกระแสต่อต้าน และมีปัญหามากมายตามมา” กู้หนิงอันพยักหน้า
กู้เสี่ยวหวานส่งเสียงตอบรับ “การจัดการทะเบียนบ้านนี้ค่อนข้างดี หากนโยบายใหม่นี้สามารถนำมาใช้ได้จริง การจัดการประชากรในเมืองหลวงและต้าชิงจะง่ายขึ้นมาก!”
กู้เสี่ยวหวานจำได้ว่าตนเองเคยพูดคุยเรื่องนี้กับพี่เย่จือครั้งหนึ่ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าฮ่องเต้จะมีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน และสามารถหาวิธีการจัดการคนของเขาได้!
“ใช่ เราทุกคนรู้ดีถึงความสะดวกที่นี่ แต่…เรื่องนี้ถูกต่อต้าน คนในกรมยังระดมสมอง แต่ก็ยังคิดวิธีอื่นนอกจากเอกสารผู้มาตั้งถิ่นฐานใหม่ไม่ออก!” กู้หนิงอันพูดอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกของกู้หนิงอัน กู้เสี่ยวหวานก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ต้องมีเส้นทางให้รถม้าไปถึงภูเขา เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้นโยบายใหม่ก็จะมีการต่อต้านมากมาย! อย่างไรก็ตาม ข้ามีความเห็น เจ้าอยากฟังดูไหม?”
กู้หนิงอันจะพูดคุยกับกู้เสี่ยวหวานเรื่องนโยบายใหม่เป็นครั้งคราว แต่เขากลับไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะแสดงความคิดเห็นของตนเองออกมา จึงรีบผุดลุกขึ้นและพูดด้วยความเคารพว่า “ท่านพี่ โปรดบอกข้าด้วย!”
ผู้คนจากกรมคลังรวมตัวกันเป็นครั้งคราวเพื่อหารือเกี่ยวกับความคิดเห็นของแต่ละตน และกู้หนิงอันก็ไม่ได้คาดหวังว่าพี่สาวของตนจะแสดงความเห็นนี้ออกมา ตอนนี้เขาเหมือนคนที่ใกล้จมน้ำเมื่อเห็นว่าฟางลอยมาตามน้ำมาก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตได้
เมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมของกู้หนิงอัน กู้เสี่ยวหวานก็รู้ว่าเรื่องคงยุ่งยากจริง ๆ!
กู้เสี่ยวหวานกล่าวต่อ “การดำเนินการตามนโยบายใหม่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการจัดการคนเหล่านี้! จากมุมมองของคนเหล่านี้ เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมนโยบายใหม่จึงยากที่จะดำเนินการ?”
กู้หนิงอันส่ายหน้า “คิดเกี่ยวกับมันจากมุมมองของพวกเขาหรือ? ข้ามักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการจัดการของศาลาว่าการ!”
กู้เสี่ยวหวานยังส่ายหน้า “ข้าได้ยินมาว่านโยบายคือขอให้ประชาชนนำสมาชิกครอบครัว โฉนดบ้าน และโฉนดที่ดินมาที่กรมกคลังเพื่อลงทะเบียนและทำทะเบียนบ้าน หลังจากทำทะเบียนบ้านเสร็จต้องนำไปให้ศาลาว่าการประทับตรา และเมื่อได้ตราประทับของศาลาว่าการแล้วก็ต้องให้ชาวบ้านไปส่งที่กรมคลังเพื่อเก็บรักษา และสุดท้ายให้ชาวบ้านนำทะเบียนบ้านกลับไป ยิ่งกว่านั้นยังมีข้อกำหนดว่าหลังจากครึ่งปีต้องไปที่ศาลาว่าการเพื่อรับตรารับรองว่าไม่ได้ก่ออาชญากรรมใด ๆ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันการเป็นพลเมืองดีไม่ใช่หรือ?”
กู้หนิงอันพยักหน้า “นี่คือการป้องกันไม่ให้ทะเบียนบ้านถูกปลอมแปลง กระบวนการนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้นในอนาคต!”
ทะเบียนบ้านมีสองฉบับ เล่มหนึ่งเป็นเล่มเสริมที่ประชาชนต้องพกติดตัว ในอนาคตประกอบด้วยข้อมูลทั้งหมดของเขาได้แก่ ที่อยู่ครอบครัว จำนวนคนในครอบครัว จำนวนของที่ดิน และอื่น ๆ
อีกเล่มเป็นสมุดซึ่งจัดการโดยส่วนศาลาว่าการและกรมคลัง
ขั้นตอนซับซ้อนเล็กน้อย ไม่เพียงแต่กรมคลังเท่านั้นที่ทนไม่ได้ แต่แม้แต่ทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองก็ยังทนไม่ไหว!
จนถึงขณะนี้ มีคนมาที่กรมคลังและศาลาว่าการน้อยมากเพื่อจัดการทะเบียนหลักและทะเบียนเสริม ไม่ว่าพวกเขาจะระดมพลอย่างไรคนเหล่านี้ก็ไม่ยอมมา ทำให้งานของเขาเดินมาถึงทางตัน!
“ถ้าเจ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา เจ้าคิดว่ากระบวนการนี้ซับซ้อนเกินไปหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานถาม
“จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างจะยุ่งยาก การให้ชาวเมืองเทียวไปเทียวมาหลายครั้ง!” กู้หนิงอันพยักหน้า
“แล้วเจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าจะปรับปรุงอย่างไร? ไม่ใช่ให้คนอื่นปรับตัวเข้าหาเจ้า แต่ให้เจ้าปรับตัวเข้าหาพวกเขาแทน”
“ปรับตัวเข้ากับชาวบ้านหรือ?” เมื่อกู้หนิงอันได้ยินคำกล่าวนี้ เขาก็ผงะไปเล็กน้อย
“ดินแดนนี้ไม่ใช่ดินแดนของฮ่องเต้ แต่เป็นดินแดนของประชาชน! ฮ่องเต้มักจะพูดถึงสองประโยคนี้อยู่บ่อย ๆ เจ้าเคยได้ยินหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
กู้หนิงอันพยักหน้า แม้ว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันยังเด็ก แต่เขาก็ห่วงใยชาวประชาชนและอาณาจักรเป็นอย่างดี “ข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้ที่ดี!”