ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1994 โอ้อวด
บทที่ 1994 โอ้อวด
คำพูดของกู้ซินเถาแฝงไปด้วยความหมายที่ไม่สามารถอธิบายได้ กู้เสี่ยวหวานยิ้มหยันในใจ แต่กลับพูดอย่างปกติว่า “ข้าเห็นในตำราโบราณเอง!”
ที่แท้ก็เป็นแค่สิ่งที่นางเห็น สีหน้ากู้ซินเถาจึงมีความผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พอใจ “เช่นนั้นเจ้าก็แค่อ่านดู ก็สามารถรู้ได้มากมายขนาดนี้แล้ว เจ้าช่างยอดเยี่ยมเสียจริง! ยังนึกว่าเจ้าฟังผู้ใดพูดมาเสียอีก!”
ดูเหมือนกู้ซินเถาจะสนใจมากว่าแท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่ที่บอกความรู้เรื่องชาหลงจิ่งให้กู้เสี่ยวหวาน แต่กู้เสี่ยวหวานบอกเพียงแค่ว่าตัวเองเห็นในตำราโบราณ กู้ซินเถาเองก็ทำอะไรไม่ได้
“ในเมื่อน้องสาวไม่บอก เช่นนั้นพี่สาวก็ไม่ดึงดันรบเร้า” กู้ซินเถายิ้มพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าใจ “ข้ารู้ว่าเมื่อก่อนข้าได้ทำเรื่องที่ผิดมากมายให้น้องสาวไม่สบายใจ เพียงแต่ตอนนี้ข้าเองก็แค่อยากจะถามเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย! ในเมื่อน้องสาวมีความรู้เรื่องชาหลงจิ่งอย่างลึกซึ้ง เช่นนั้นน้องสาวก็เอากลับไปสองห่อเถอะ! สิ่งชุน เจ้าไปเตือนเสี่ยวเอ้อร์ว่าให้ห่อเพิ่มอีกห่อ!”
นอกจากเศร้าใจแล้วก็ดูเหมือนจะประจบเอาใจด้วย กู้เสี่ยวหวานฟังแล้วก็ไม่รู้สึกรำคาญ “ข้าดื่มแค่ชาที่จวนของข้าเท่านั้น แม้ว่าชื่อเสียงจะไม่เป็นที่รู้จักแต่ก็เป็นความชื่นชอบของข้า น้ำใจของพี่สาวข้ารับเอาไว้แล้ว แต่ว่าไม่อาจรับอีกได้!”
“ไม่เป็นอะไร! เสี่ยวหวาน ใบชานี้ดีนักเจ้าก็ดื่มให้เยอะหน่อย เกี่ยวอะไรด้วยกัน!”
“ดีก็ดีจริง แต่ว่าราคานี้กลับไม่ถูกนัก เมื่อครู่นี้เจ้าเพิ่งบอกว่าชาผู่เอ๋อร์หนึ่งหม้อก็ต้องเสียเงินเป็นร้อยตำลึง อีกทั้งยังได้ยินว่าชาผู่เอ๋อร์และชาหลงจิ่งต่างก็เป็นชาชั้นดีในโรงชาอู่อวิ๋น ชาหลงจิ่งหนึ่งห่อนั้นเกรงว่าจะมีค่าใช้จ่ายตั้งหนึ่งพันตำลึงแล้ว พี่สาวเพิ่งมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน กลัวว่าเงินจะขาดมือมากไป จึงไม่อยากให้พี่สาวใช้จ่ายสิ้นเปลือง!”
กู้ซินเถาไม่สนใจ “แค่พันตำลึงเท่านั้น ข้ายังสามารถจ่ายได้ พวกเรานั้นยากที่จะได้ออกมาด้วยกันสักครั้ง น้ำใจของพี่สาวนี้เจ้าก็อย่าได้ปฏิเสธเลย! ไม่อย่างนั้นในใจข้าก็จะเสียใจ!”
กู้เสี่ยวหวานเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่พูดตกลง
ถานอวี้ซูมองการตกแต่งในห้องชาส่วนตัวนี้รอบ ๆ และพูดอย่างเหน็บแนมว่า “ไม่คิดว่าเจ้ามาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน ก็สามารถดื่มชาในโรงน้ำชาระดับสูงเช่นนี้ได้ เจ้าช่างมีความสามารถนัก!”
มีความสามารถ นี่คือความสามารถอะไรกัน กู้ซินเถาฟังแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ เพียงแต่จวิ้นจู่พูดเช่นนี้แล้ว กู้ซินเถาก็รู้ว่าตัวเองไม่อาจซักถามได้ จึงได้แต่ยิ้มพลางพูดว่า “จวิ้นจู่พูดได้ขบขันแล้ว นี่นับว่าเป็นความสามารถอะไรกัน นี่เป็นเพียงแค่เงินเก็บบางส่วนที่ท่านพ่อข้าเหน็ดเหนื่อยสะสมมาหลายปี และไม่อยากทำผิดต่อลูกสาวก็เท่านั้น!”
นี่หมายความว่านางสามารถนั่งอยู่ตรงนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณกู้ฉวนลู่แล้ว
กู้เสี่ยวหวานมองดูชาผู่เอ๋อร์ที่บรรจุใส่อยู่ในหม้อลายครามอันงดงาม จากนั้นมองไปที่ของว่างที่บรรจุใส่อยู่ในจานกระเบื้องเคลือบสีขาวที่ละเอียดอ่อนมีฝีมือ ในของว่างนั้นมีแยมดอกท้อที่สอดไส้ นางกลับเคยกินมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นดอกท้อสดใหม่ที่เก็บมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และต้มจนเป็นแยมดอกท้อสำหรับใส่ไส้อยู่ในของว่าง
ดอกท้อนั้นหาได้ง่ายในเดือนสาม แต่ว่าการกินขนมดอกท้อที่ใส่ไส้จานหนึ่งในวันที่ร้อนอบอ้าวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย!
แค่เก็บมาก็ต้องสิ้นเปลืองแรงไปไม่น้อย
นางไม่รู้ว่ากู้ซินเถาสามารถดื่มชาหนึ่งหม้อร้อยตำลึง และสามารถกินขนมสอดไส้ร้อยตำลึงนี้ได้ดั่งที่กู้ซินเถาพูดไว้ทั้งหมด จริงหรือไม่ว่ากู้ฉวนลู่รักเอ็นดูนาง!
นางรู้เพียงแค่ว่าถ้าหากกู้ฉวนลู่มีเงิน ก็จะต้องเก็บเงินไว้ให้กู้จือเหวินใช้สอยอย่างแน่นอน อย่างกู้ซินเถาที่ใช้จ่ายเงินเหมือนน้ำที่ไหลเช่นนี้ ตามนิสัยที่ขี้เหนียวของกู้ฉวนลู่แล้ว ช่างเป็นไปไม่ได้เลยจริง ๆ!
“โรงน้ำชาแห่งนี้ ข้ากลับเคยได้ยินมาว่าซื่อจื่อน้อยหมิงอ๋องเป็นแขกสูงศักดิ์ของโรงน้ำชาแห่งนี้ ซินเถา เจ้ามาที่นี่บ่อย เคยเห็นซื่อจื่อน้อยซูหลินหรือไม่?” จู่ ๆ ถานอวี้ซูก็ถาม
สีหน้าที่มีความสุขของกู้ซินเถากลับหายวับไปทันที และพูดอย่างประหม่าเป็นอย่างยิ่งว่า “ยังไม่เคยพบเห็น ซื่อจื่อน้อยมีชื่อเสียงฐานะโดดเด่นในหมู่คน คนธรรมดาสามัญเช่นข้าจะสามารถพบเห็นได้อย่างไรกัน!”
ในคำพูดนั้นมีความเคารพชื่นชมมาก
ระหว่างนั้นทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก็เห็นสิ่งชุนเดินเข้ามา ในมือนั้นกำลังถือห่อของที่ต่างกันซึ่งบรรจุไว้อย่างปราณีตเป็นพิเศษ “คุณหนูของมาแล้วเจ้าค่ะ!”
“ดีเลย เอาให้สาวใช้ของเสี่ยวหวานเถอะ!”
กู้ซินเถาพยักหน้าอย่างพอใจ สิ่งชุนมอบให้อาจั่วแล้ว อาจั่วก็มองกู้เสี่ยวหวานแล้วเก็บลงไป
เมื่อรับของแล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงพูดว่า “เช่นนั้นก็ขอบคุณพี่สาวมากแล้ว! ชาที่ดีขนาดนี้ข้าไม่เคยดื่มมาก่อนเลย!”
ความสุขบนใบหน้าของกู้ซินเถานั้นเกินคำบรรยาย และยิ่งมีความลำพองใจเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน “ถ้าหากน้องสาวชอบก็รอเจ้าดื่มอันนี้หมดแล้ว ข้าจะส่งไปให้เจ้าใหม่!”
ทั้งสองพูดคุยกันราวกับว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นพิเศษอย่างไรอย่างนั้น!
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานดื่มชาไปสองถ้วยและกินขนมไปหนึ่งชิ้นแล้ว ก็ไม่ได้กินอะไรอีก! นางไม่ค่อยชอบชาผู่เอ๋อร์มากนักด้วยรู้สึกว่ารสชาตินี้เข้มข้นมากเกินไป ขนมนั้นก็หวานเลี่ยนมากเกินไป จึงหันหน้าไปมองทิวทัศน์ด้านนอก!
พอนั่งอยู่ชั้นบนนี้ เพียงแค่มองจากหน้าต่างลงไปก็จะสามารถมองเห็นกลุ่มคนที่เดินขวักไขว่อยู่ด้านนอกและเสียงที่คึกคักจอแจของคน ที่นี่สูงเกินไปดูเหมือนจะสูงจนไม่สามารถทนความหนาวเย็นได้เล็กน้อย!
“เสี่ยวหวานคิดว่าทิวทัศน์ของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง?” กู้ซินเถาเห็นกู้เสี่ยวหวานเองก็มองออกไปด้านนอก จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “ข้าชอบที่นี่มากที่สุดแล้ว สามารถดื่มชาพลางมองทิวทัศน์ด้านนอกไปด้วย ในใจยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่ามีความสุขมากเพียงใดแล้ว!”
“อันที่จริงก็ชอบมาก!”
กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา
นั่งอยู่ตรงนี้สามารถมองคนทั่วไปจากข้างบนลงไปข้างล่าง ทำให้คนรู้สึกลำพองใจที่ได้ยืนอยู่บนที่สูง กู้ซินเถาช่างยอมลงทุนมากเสียจริง!
หรือว่าเป็นซื่อจื่อน้อยท่านนั้นที่ยอมลงทุน!
ถานอวี้ซูเองก็หมดความสนใจเช่นกัน นั่งไปสักครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “พี่สาว พวกเรากลับกันเถอะ! ท่านปู่ให้ข้ากลับไปเร็วหน่อย ท่านเองก็ไปด้วยกันกับข้าดีหรือไม่?”
นั่นย่อมต้องดีมากอยู่แล้ว! กู้เสี่ยวหวานเองก็ไม่ต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อ ตอนนี้มองสีหน้าท่าทางของกู้ซินเถาทะลุปรุโปร่งแล้ว ตนเองก็ไม่อยากจะไกล่เกลี่ยกับนาง คิดแต่จะออกห่างจากคนเช่นนี้ให้เร็วที่สุดดีกว่า!
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า สีหน้าของกู้ซินเถาจึงแข็งทื่อเล็กน้อย “จะไปกันแล้วหรือ?”
“อืม ที่จวนอวี้ซูยังมีธุระอยู่พวกเราต้องไปก่อนแล้ว พี่สาวก็นั่งอยู่ต่ออีกสักพักเถอะ ชาและขนมที่นี่ไม่อาจสิ้นเปลืองได้โดยเด็ดขาด!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม
กู้ซินเถาพยักหน้าและรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปกันเถอะ ข้าไม่รั้งพวกเจ้าไว้แล้ว!”
กู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูจากไปพร้อมกัน กู้ซินเถามองพวกนางจากไปด้วยรอยยิ้มที่ประดับไว้บนใบหน้าตลอดเวลา แต่เมื่อตอนที่ทั้งสองหายลับไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็หายวับในทันที!