ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1997 ประทานพระราชโองการให้ซูจือเยว่แต่งงาน
บทที่ 1997 ประทานพระราชโองการให้ซูจือเยว่แต่งงาน
หลายชิ่งตะโกนอย่างโศกเศร้า ในคืนที่เงียบสงบนี้ ดูเหมือนจะเลวร้ายเป็นพิเศษ “ถ้าหากนายน้อยของข้าตาย ข้าจะต้องตามหากู้เสี่ยวหวานอย่างสุดชีวิต นายน้อยข้าโดดเด่นในหมู่คน ถ้าไม่ใช่เพราะกู้เสี่ยวหวาน นายน้อยข้าจะมีสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายจนกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร! ฮือฮือ….”
อาโม่ขมวดคิ้ว ท่าทางของหลายชิ่งสติดูวิปลาสเช่นนี้ ทำให้เขาไม่สามารถลงมือได้แล้ว!
เขาเองก็ทำเพื่อเจ้านายเช่นกัน! ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่สามารถฆ่าคนได้ง่าย ๆ!
เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะต้องให้นายท่านตัดสินใจแล้วจริง ๆ!
อาโม่ออกจากเรือนนั้นแล้ว ทะยานกายไปไม่กี่ครั้งก็หายลับไปในความมืด
ตำหนักของฉินเย่จือนั้นอยู่ไม่ไกล อาโม่ทะยานไปไม่กี่ครั้งก็มาถึงแล้ว
อาโย่วเห็นอาโม่มาก็แปลกใจเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าเจ้าคอยติดตามรับใช้คุณหนูหรอกรึ? เหตุใดตอนนี้จึงมาที่นี่? หรือว่าเกิดอะไรขึ้น?”
อาโม่พยักหน้า “มีบางอย่างเกิดขึ้นจริง ข้าเองก็ยากจะตัดสินใจ ได้แต่ให้นายท่านเป็นผู้ตัดสินแล้ว! นายท่านกำลังพักผ่อนอยู่รึ?”
“จะเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร ตอนที่เจ้าอยู่มีวันไหนบ้างที่นายท่านไม่ได้ยุ่งจนกระทั่งไก่ขัน เจ้าเข้าไปเถอะ!” อาโย่วพูดอย่างจนใจ
พวกเขาที่คอยปรนนิบัติรับใช้ยังสามารถงีบหลับพักผ่อนอยู่ด้านนอกได้ แต่ว่านายท่าน….
ได้ยินอาโม่และอาจั่วบอกว่านายท่านอยู่กับคุณหนูนั้นหลับสบายเพียงใดก็ไม่รู้ เฮ้อ ไม่รู้ว่าสองคนนี้จะแต่งงานกันได้เมื่อใด พวกเขาก้าวก่ายนายท่านไม่ได้ แต่ว่าคุณหนูสามารถก้าวก่ายได้!
นายท่านแข็งใจได้ที่ข้ารับใช้เช่นพวกเขาอดหลับอดนอนอยู่เป็นเพื่อน แต่ไม่อาจแข็งใจที่คุณหนูจะอยู่เป็นเพื่อนได้!
พอแต่งงานกันแล้วอย่างไรก็ต้องดีไม่น้อย!
หลังจากอาโม่เข้าไปแล้ว ฉินเย่จือก็เงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ “เจ้ามาได้อย่างไร?”
อาโม่คุกเข่าลงและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งตอนบ่ายและตอนกลางคืนอย่างไม่มีตกหล่นว่า “หลายชิ่งนั้นก็คือผู้ที่มาสอดแนมสำรวจสวนชิงในคืนนั้น!”
“ช่างกล้าหาญนัก!” ฉินเย่จือฟังแล้วก็ตบโต๊ะขึ้นมา “ไม่รู้ว่าสวนชิงของข้านั้นกลายเป็นที่ที่คนเหล่านี้อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปตั้งแต่เมื่อใด!”
สวนชิงนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของคนในดวงใจนายท่าน หลายชิ่งนั้นกล้าหาญมากจริง ๆ มาครั้งแรกไม่พอยังมาครั้งที่สองอีกด้วย และยิ่งคาดไม่ถึงว่าจะพูดจาโผงผาง ไร้ยางอายว่าจะเอาชีวิตของคุณหนู นายท่านฟังแล้วจะไม่โกรธได้อย่างไร!
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ใด?” ฉินเย่จือถาม
“ถูกขังอยู่ในเรือนทางตะวันตกเฉียงเหนือ!” อาโม่ตอบ
“ทำลายศิลปะการต่อสู้ของเขาให้ข้า และโยนเขากลับไปที่จวนตระกูลซู!” ฉินเย่จือพูดอย่างเย็นชา รอบกายแผ่กลิ่นอายอันเย็นเยียบ
“ขอรับ!” อาโม่ลุกขึ้นและรู้สึกว่ายังไม่เหมาะสมอยู่เล็กน้อย “นายท่าน เช่นนั้นทางซูจือเยว่… คุณหนูถูกลอบทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่แท้ก็เพราะซูจือเยว่นั้นชมชอบคุณหนู จึงถูกหมิงตูจวิ้นจู่ค้นพบเข้า! เช่นนั้นที่หมิงตูจวิ้นจู่ชมชอบซูจือเยว่ก็ได้แพร่กระจายในเมืองหลวงมานานแล้ว นางพบว่าซูจือเยว่ชมชอบคุณหนูเข้า จึงยิ่งพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทรมานคุณหนู”
“เช่นนั้นตอนนี้ซูจือเยว่ก็ถึงวัยที่ควรจะแต่งงานแล้ว เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง เจ้ากลับไปเถอะ ดูแลนางให้ดี!” ฉินเย่จือโบกมือให้อาโม่ออกไปได้แล้ว!
พอนึกถึงซูจือเยว่และนึกถึงหมิงตูจวิ้นจู่ แต่ละคนนั้นต่างก็พุ่งเป้าไปที่หญิงสาวของตัวเอง จิตใจของฉินเย่จือนั้นสงบนิ่งมั่นคง มองดูแสงจันทร์ที่สว่างไสวอยู่ด้านนอก จากนั้นมองนกพิราบสีดำที่มุดหัวเข้าไปในปีกเพื่อพักผ่อน ความโกรธในใจจึงสงบลงได้ไม่น้อย
เมื่อรู้ว่ามีคนมองตัวเองอยู่ หัวของนกพิราบดำก็ยื่นออกมาจากปีก แล้วร้องกู่กู่กู่กู่ออกมาหลายครั้ง ดวงตาที่ดำราวกับอัญมณีจ้องมองไปที่ฉินเย่จือสองสามรอบ ช่างกลมโตและดำขลับเหมือนใครบางคนมาก ความโกรธในใจของฉินเย่จือจึงหายไปจนหมด
สามารถจัดการปัญหาทั้งหมดได้!
แล้วจะยอมปล่อยให้ผู้อื่นอยากได้สมบัติของเขาได้อย่างไร! ไม่คิดว่าซูจือเยว่จะเก็บความคิดเช่นนี้ไว้ และยังปล่อยให้หวานเอ๋อร์กล่าวโทษตัวเองในใจ เช่นนั้นเขาก็เก็บไว้ไม่ได้แล้ว!
ดูเหมือนว่าจะต้องหาเจ้าสาวให้เขาแล้ว!
ฉินเย่จือผลักสาส์นรายงานบนโต๊ะออกไป และเริ่มเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษ!
ไข่มุกราตรีทำให้ทุกอย่างในห้องสว่างราวกับเป็นตอนกลางวัน!
กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น และก็ไม่รู้ว่าห้องของตัวเองถูกฉินเย่จือให้คนแอบสร้างกลไกลับเอาไว้นานแล้ว โดยปกติกลไกนั้นจะปิดและไม่เปิดใช้งาน อีกทั้งยังไม่ทำร้ายกู้เสี่ยวหวาน
แต่ว่าถ้าหากมีผู้บุกรุก ขอเพียงแค่กลไกเริ่มทำงาน ผู้ที่ต้องการเข้าใกล้ห้องของกู้เสี่ยวหวานนั้นจะถูกควบคุมโดยกลไก!
ทักษะของหลายชิ่งนั้นไม่เลว คืนนั้นที่มาสำรวจก็ไม่ยอมพัวพันกับอาจั่วและอาโม่มากจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นในเมืองหลวงนี้ตระกูลซูเองก็มีบ้านอยู่ไม่น้อย จึงสุ่มหาที่อยู่อาศัยและก็หลบซ่อนตัวไป ถ้าหากเป็นการเผชิญหน้ากันโดยตรงก็จะไม่สามารถรับสองกระบวนท่าของอาโม่ได้เลย!
“คุณหนู ในวังหลวงมีพระราชโองการแล้ว ได้ยินว่าให้ซูจือเยว่และหมิงตูจวิ้นจู่แต่งงานกัน!” อาจั่วกล่าว
กู้เสี่ยวหวานส่งเสียงอ๋อแล้วก็ปล่อยผ่านไป ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!
ซูจือเยว่แต่งงานกับหมิงตูจวิ้นจู่นั้นไม่ใช่เรื่องของนาง คนแปลกหน้าทั้งสองมีชีวิตดีหรือไม่ดีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางมากนัก!
เมื่ออาจั่วเห็นว่าคุณหนูนั้นเฉยเมยไม่สนใจ ก้อนหินในใจนี้ก็หล่นลงมา
จึงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ นายท่านนั้นยังจัดการเรื่องนี้ได้ค่อนข้างเร็ว อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณหนูมากนัก เห็นคุณหนูไม่สนใจก็พอ!
หวังแค่ว่าเรื่องที่น่ารำคาญเหล่านั้น จะไม่มาหาคุณหนูอีก
คุณหนูช่างเป็นคนที่ดีนัก หลายปีที่ผ่านมานายท่านเห็นนางเติบโตขึ้น ตอนนี้เลือดเนื้อของทั้งสองได้หลอมรวมเข้าด้วยกันแล้ว คุณหนูให้ความสำคัญกับความยุติธรรม ทั้งยังอ่อนโยนและใจดี หน้าตาก็งดงาม มีสายตาตั้งเท่าใดที่คอยจ้องมองคุณหนูจนนายท่านกลัว!
อย่างไรก็ตามคุณหนูได้พบเจอคนเช่นนายท่านในโลกนี้ทั้งยังชอบพอกัน!
หวังแค่ว่าสองคนนี้ได้แต่งงานกันเมื่อใดก็รีบให้กำเนิดนายน้อยออกมาก็พอ!
จวนตระกูลซูในตอนนี้กำลังร้อนรนเป็นบ้าแล้ว
ในตอนเช้าที่ประตูจวนเปิดก็พบหลายชิ่งหมดสติ ซูจือเยว่ก็ไม่ได้กลับจวนมาหลายวันแล้ว คนตระกูลซูมาดูหลายชิ่งที่หมดสติด้วยความกระวนกระวายใจ อยากถามว่าซูจือเยว่นั้นอยู่ที่ใดก็ไม่สามารถถามได้ ในขณะที่กำลังร้อนใจอยู่นั้นก็มีพระราชโองการพระราชทานงานมงคลสมรสมาจากวังหลวง!
นายน้อยที่ได้รับพระราชโองการนั้นไม่อยู่ที่จวน ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นซูเผยอันที่รับราชโองการ!
จากนั้นก็ตามหาคนจนทั่วเมืองหลวง แต่ทว่ากลับไม่กล้าเคลื่อนไหวใหญ่โตมากนัก จึงได้แต่แอบตามหาคนอย่างเงียบ ๆ