ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2008 พบเจอเรื่องยุ่งเหยิง
บทที่ 2008 พบเจอเรื่องยุ่งเหยิง
ฟางเจิ้งสิงตะโกนสั่งทุกคนในจวนว่าต้องจับโจรให้ได้ เมื่อได้รับการยืนยันจากปากของฟางหลานซินว่าทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจ ลูกสาวของเขาถูกคนอื่นทำให้เป็นมลทิน!
หวงหรูซื่อเหลือบมองหมอหลวงห่าวเหลียนที่มีท่าทีกระวนกระวาย แล้วนางจะไม่เข้าใจความคิดของฟางเจิ้งสิงได้อย่างไร!
เพื่อเป็นการแก้ตัวให้ฟางหลานซินผู้มัวหมอง ตลอดชีวิตนี้ฟางหลานซินไม่สามารถเข้าวังได้อีก ถ้าหากฟางหลานซินถูกใครบางคนทำร้ายจริง ฟางจู๋อวิ๋นยังสามารถเข้าวังได้
แต่ถ้าฟางหลานซินมีความสัมพันธ์กับใครบางคนด้วยความสมัครใจ แม้แต่ฟางจู๋อวิ๋นเองก็เลิกคิดเรื่องนี้ไปได้เลย
ข้อนี้คือสิ่งที่ฟางเจิ้งสิงคิด นั่นคือเหตุผลที่เขาเอาแต่พูดว่าฟางหลานซินถูกทำให้เป็นมลทิน!
หวงหรูซื่อหัวเราะเยาะในใจ ฟางเจิ้งสิงคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆ และเพื่ออนาคตของตนเอง เขาสามารถทำทุกอย่างด้วยตนเองได้!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นแผนของหวงหรูซื่อ ดังนั้นจึงต้องติดตามฟางเจิ้งสิงตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นฟางเจิ้งสิงผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมจะต้องสงสัยตนเองอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หวงหรูซื่อพลันปล่อยน้ำตาออกมาราวกับเห็นลูกสาวของตัวเอง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “หลานซินของข้า นี่มันอะไรกัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่! ใครกันที่ทำร้ายเจ้าจนกลายเป็นแบบนี้
หวงหรูซื่อสะอื้นไห้ ท่าทางโศกเศ้ราทำให้ฟางเจิ้งสิงรู้สึกสะเทือนใจ!
จวนตระกูลฟางคัดเลือกเวรยามผู้มีความสามารถมาสี่คน โจรเหล่านั้นจะเข้ามาทำร้ายคุณหนูในจวนตระกูลฟางได้อย่างไร
อัปยศอดสูยิ่งนัก!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะไล่ตามทั้งหมดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คืออย่าให้ห่าวเหลียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ต้องรีบส่งหมอหลวงห่าวเหลียนออกจากจวนโดยเร็ว!
ตอนนี้เขาเหมือนจะตระหนักได้ว่าทำไมหวงหรูซื่อถึงต้องการเชิญท่านหมอหลวงห่าวเหลียนมา การเชิญเขามาที่นี่นับว่าเป็นเรื่องง่าย แต่หมอหลวงห่าวเหลียนเป็นคนของฮ่องเต้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถขู่หรือเอาผลประโยชน์มาหลอกล่อเขาได้ นี่…
ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่จัดการยากยิ่งนัก!
เมื่อฟางเจิ้งสิงกำลังคิดถึงวิธีการส่งหมอหลวงห่าวเหลียนออกไป ฟางหลานซินก็ตื่นขึ้นมา และส่งเสียงครางในลำคอแผ่วเบา
“พี่หลาง…พี่หลาง…อย่าไป ข้ายังต้องการ…”
พี่หลาง?
พี่หลางคือใคร?
ฟางเจิ้งสิงได้ยินเสียงละเมอเพ้อพกของลูกสาวชัดเจน ขนอ่อนทั่วร่างของเขาลุกชัน!
“หลานซิน เจ้าว่าอะไรนะ? พี่หลาง? พี่หลางคือใคร?” กระทั่งแม้แต่หวงหรูซื่อยังนึกสงสัย
หวงหรูซื่อแสร้งทำเป็นไม่รู้ ใบหน้าของฟางเจิ้งสิงซีดเผือด ส่วนหมอหลวงห่าวเหลียนยืนอยู่ด้านข้างก้มหน้างุด และพูดด้วยความเคารพว่า “ในเมื่อคุณหนูตื่นแล้ว ข้าขอตัวก่อน!”
“ท่านจะยังไปไหนไม่ได้!” ทันใดนั้นฟางเจิ้งสิงก็ตะโกนออกมาโดยไม่ได้คิด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกดดัน
หมอหลวงห่าวเหลียนขมวดคิ้ว พลางคิดกับตนเองว่าเขาต้องการกักขังขุนนางจากราชสำนักหรือ?
ตระกูลฟางนับว่าเป็นครอบครัวที่มีปัญหา ประการแรกเขายกย่องสาวใช้ข้างกายให้สูงกว่าของภรรยาเอกของตน จากนั้นก็หย่าร้างกับภรรยาเอก และแต่งงานใหม่ นอกจากนี้ยังใช้สินสอดของอดีตภรรยาเป็นสินสอดในการสู่ขอภรรยาคนใหม่ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกในเมืองหลวงไปสักพักหนึ่ง!
หมอหลวงห่าวเหลียนรู้ว่าฐานะของตนอาจทำให้ตระกูลฟางหวาดระแวง
ทว่า…อย่างไรฐานะของเขาก็ยังดีกว่าหมอชาวบ้านทั่วไปที่ไร้ซึ่งหลักประกันยืนยัน หากหมอพวกนั้นมาและได้รับรู้เรื่องราวนี้แล้วหายตัวไปจะทำอย่างไร!
และเนื่องจากเขาเป็นขุนนางของราชสำนักและเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ หากฟางเจิ้งสิงต้องการฆ่าปิดปากตนเอง เขาก็คงต้องชั่งใจอีกครั้ง!
อย่างไรก็ตาม หลังจากบังเอิญเห็นความลับในบ้านของคนอื่น เกรงว่าฟางเจิ้งสิงจะไม่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นในชีวิตนี้!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หมอหลวงห่าวเหลียนพลันรู้สึกหวาดระเวงขึ้นมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ใต้เท้าฟางเรียกรั้งให้ข้าอยู่ต่อเพราะมีเรื่องใดหรือไม่? ช่วงนี้พระวรกายของไทเฮาค่อนข้างอ่อนแอ จึงรับสั่งให้ข้าเข้าวังแต่เช้าเพื่อตรวจดูอาการ! ตอนนี้เองก็ดึกมากแล้ว ข้าต้องกลับไปพักผ่อนเพื่อพรุ่งนี้จะได้ไม่เป็นการล่าช้า!”
หลังจากได้ยินสิ่งที่หมอหลวงห่าวเหลียนพูด ความคิดจะฆ่าปิดปากอีกฝ่ายที่เกิดขึ้นชั่ววูบก็หายไปทันที
เขาเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าสงสัยของหมอหลวงห่าวเหลียนและขมวดคิ้วเล็กน้อย! ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง การรั้งให้เขาอยู่ที่นี่ต่อเป็นการทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมา
เดิมทีเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้ หมอหลวงห่าวเหลียนเป็นท่านหมอประจำราชวงศ์และเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ แม้ว่าความคิดเรื่องการสังหารจะเกิดขึ้นชั่วครู่ แต่เขาก็รู้ว่าคำเชิญของตนได้ส่งไปยังตระกูลห่าว หากหมอห่าวเหลียนหายตัวไปไม่กลับบ้าน เกรงว่าพรุ่งนี้องครักษ์ของฮ่องเต้จะย่ำเท้าเข้ามาในจวนหลังนี้!
“หมอห่าว เรื่องเกี่ยวกับลูกสาวของข้า…” ฟางเจิ้งสิงทำตัวน่าสงสารหากแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยการข่มขู่ “เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในจวนตระกูลฟาง นางคือลูกสาวของข้า ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายชื่อเสียงของลูกสาวข้าคงต้องพังป่นปี้! ไม่เพียงแค่เด็กคนนี้ แต่อนาคตของลูกสาวอีกสองคนของข้าก็จะพังทลายลงเช่นกัน!”
ฟางเจิ้งสิงร้องไห้พลางด่าทอคนผู้นั้น และบอกว่าฟางหลานซินต้องเป็นมลทินเพราะการกระทำของโจร ปฏิเสธสิ่งที่ฟางหลานซินพูดเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
หมอหลวงห่าวเหลียนเป็นคนฉลาด เขาจะไม่เข้าใจความหมายของฟางเจิ้งสิงได้อย่างไร!
เขาพยักหน้าอย่างร้อนรนและพูดว่า “วันนี้ข้าจะทำเป็นว่าไม่เคยมาที่จวนตระกูลฟาง! ข้าขอตัวลา!”
หลังจากพูดจบก็หมุนกายเดินออกไปโดยไม่รอให้ฟางเจิ้งสิงพูด แม้ว่าฟางเจิ้งสิงจะรำคาญ แต่ท่าทางของเขาก็สงบลง
หมอหลวงห่าวเหลียนกำลังพูดว่าในวันนี้จะแสร้งทำเป็นว่าไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรเลย แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้มาที่นี่ เป็นการรับประกันว่าเขาจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้!
หัวใจที่กระวนกระวายของฟางเจิ้งสิงสงบลง และเมื่อท่านหมอหลวงห่าวเหลียนจากไป เขาก็ได้ยินเสียงที่สิ้นหวังจากด้านหลัง “พี่หลาง ข้ายังต้องการ…”
ความกังวลและความกลัวของฟางเจิ้งสิงกลายเป็นความดุร้ายและน่าสะพรึงกลัว
เขาหันหลังกลับมา ก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือเข้าไปในม่าน คว้าฟางหลานซินที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าไว้
ฟางหลานซินหมดสติเนื่องจากความเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้นางพักอยู่และถูกฟางเจิ้งสิงดึงอย่างแรงจนนางตกลงจากเตียงก็ได้สติขึ้น