ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2028 ยุแยง
บทที่ 2028 ยุแยง
“ลูกรู้เจ้าค่ะ! ในเมื่อท่านแม่ไม่กังวลมากนัก เพ่ยหยาเองก็จะได้สบายใจ” การที่ฟางเพ่ยหยาเอ่ยคำว่า ‘ท่านแม่’ ออกมาทำให้ใบหน้าของหวงหรูซื่อซีดลงด้วยความโกรธ!
นางอายุมากกว่าฟางเพ่ยหยาเพียงไม่กี่ปี แต่ตอนนี้นางกำลังเรียนรู้กฎและรอวันที่จะเข้าวัง ด้วยรูปลักษณ์งดงามของนาง สถานะและรากฐานของตระกูลฟาง นางจะสามารถอยู่ในวังได้ราวกับปลาได้น้ำ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้หวงหรูซื่อก็ยิ่งรู้สึกอิจฉามากขึ้น เปลวไฟแห่งความอิจฉาริษยาในใจลุกโหมกระหน่ำราวกับถูกสาดด้วยน้ำมัน
นางจ้องฟางเพ่ยหยาด้วยความโกรธ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าฟางเพ่ยหยาเองก็มองมาที่นางตลอดเวลา ทุกสายตาของนางตกอยู่ในสายตาของฟางเพ่ยหยาตลอด
เมื่อหวงหรูซื่อถูกจับได้ ฟางเพ่ยหยาก็ยกยิ้มมีความสุขมากขึ้น
จากนั้นนางก็รู้ว่าฟางเพ่ยหยากำลังจงใจยั่วยุตัวเอง!
หวงหรูซื่อรู้สึกตกใจและความกลัวก็เกิดขึ้นในใจ
ตระกูลฟางปฏิบัติต่อหลูเหวินซินแบบนั้นมาก่อน เป็นไปได้ไหมว่าฟางเพ่ยหยาสามารถเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้เพื่อที่จะสามารถเข้าวังได้ หรือนางเลือกที่จะกลับมาในเวลานี้เพราะมีแผนการในใจ!
ชื่อเสียงฟางหลานซินและฟางจู๋อวิ๋ถูกทำลายจนป่นปี้ ฟางเจิ้งสิงจึงไปรับฟางเพ่ยหยากลับมาเรียนรู้กฎ เตรียมส่งนางไปคัดตัวเข้าวัง แต่ตามนิสัยของฟางเพ่ยหยา นางจะกลับมาอย่างเชื่อฟังอย่างนั้นหรือ?
หลูเหวินซินเกือบเอาชีวิตไม่รอด คนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะอยู่ในสภาพใกล้ตายได้อย่างไร?
หวงหรูซื่อกระวนกระวายเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มของฟางเพ่ยหยาในตอนนี้ นางรู้สึกว่าจุดประสงค์ที่ฟางเพ่ยหยาเดินทางมาครั้งนี้จัดการไม่ง่าย
หวงหรูซื่อพยายามไม่สนใจคำพูดของฟางเพ่ยหยา ไม่ว่านางจะพูดอะไรตัวเองก็ตกลงตามนั้น นางแสร้งทำเป็นนิ่งสงบเหมือนภรรยาเอกผู้เชื่อฟัง!
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น ชายที่ก้มศีรษะยืนถัดจากฟางเพ่ยหยาได้ดึงดูดความสนใจของหวงหรูซื่อ “เพ่ยหยา หมอที่เจ้าพามา เหตุใดยังไม่กลับไปสักทีเล่า!”
ฟางเพ่ยหยามองไปทางหมอที่กุมมือเรียบร้อยอยู่ด้านข้าง จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้ หลิวอี๋เหนียงยังเจ็บท้องอยู่ไม่ใช่หรือ มีหมออยู่ในจวน มีอะไรก็จะได้ไม่ต้องไปตามหมอมาให้ยุ่งยาก!”
ฟางเจิ้งสิงมองไปหมอคนนั้น แต่อีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้างุดจึงไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็ตอบรับอย่างเห็นด้วย “เพ่ยหยาเจ้าโตแล้ว และเจ้าคิดเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ ข้าปลื้มใจมาก!”
ฟางเพ่ยหยายิ้ม “ข้าเรียนรู้สิ่งนี้จากท่านพ่อ ต้องหาทางออกเผื่อไว้ให้ตัวเองไม่ใช่หรือ! ถ้าข้าไม่มีทางออก ข้าเกรงว่าข้าก็คงไม่มีชีวิตรอด!”
ฟางเจิ้งอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “ถ้าเจ้าคิดได้เช่นนี้พ่อก็ภูมิใจ! หลังจากเจ้าแต่งงาน ตอนอยู่บ้านของสามี เจ้าจะต้องหาทางออกให้กับตัวเองในทุกสิ่งและเจ้าจะต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์มานำทาง!”
ฟางเจิ้งสิงอวดอ้างว่าตัวเองเป็นคนสอนเรื่องนี้ ฟางเพ่ยหยารีบก้มศีรษะราวกับลูกสาวที่เชื่อฟัง “ข้ารู้ หากข้าได้เข้าวังเมื่อไรจะจำคำพูดของท่านพ่อไว้เสมอ กฎในวังเคร่งมากไม่ต่างไปจากนอกวัง ทุกที่ ทุกเวลา ข้าจะไม่มีวันลืม!”
ในที่สุดนางก็พูดเรื่องเข้าวังขึ้นมา
หวงหรูซื่อกำมือแน่น แน่นอนว่าฟางเจิ้งสิงวางแผนที่จะส่งลูกสาวของเขาเพื่อรับการคัดเลือก!
หวงหรูซื่อกำมือแน่นขึ้นเรื่อย ๆ และใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ฟางเจิ้งสิงไม่คาดคิดว่าเพ่ยหยาจะพูดเรื่องนี้เร็วขนาดนี้ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองหวงหรูซื่อ
ฟางเพ่ยหยาพูดถึงเรื่องการเข้าวัง หวงหรูซื่อก็กัดฟันของตัวเองและพูดด้วยท่าทาง ‘ประหลาดใจ’ “เจ้าจะเข้าวังหรือ?”
“ใช่ ท่านแม่ไม่รู้หรือ?” ใบหน้าของฟางเพ่ยหยาเต็มไปด้วยความสงสัย “ท่านแม่ไม่รู้หรือว่าท่านพ่อมารับข้าในครั้งนี้เพื่อให้ข้าเรียนรู้มารยาทและกฎเพิ่มเติม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าวัง!”
หวงหรูซื่อขมวดคิ้วเข้าหากัน “โอ้ จริง…จริงหรือ? ในเมื่อเจ้าต้องการเข้าวัง เจ้าควรจะตั้งใจเรียน!”
หวงหรูซื่อแอบมองไปที่ฟางเจิ้งสิง และเห็นว่าในขณะนี้เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองนางเลย ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกผิดที่ปิดบังนางเลย
ฟางเพ่ยหยาพูดกับตัวเองว่า “ตอนแรกที่ข้าเข้ามาในจวน ข้าได้ยินมาว่าน้องสาวทั้งสองเรียนรู้กฎจากท่านแม่ จริงสิ ท่านแม่เกือบจะได้เข้าวังแล้ว ดังนั้นจึงต้องรู้มารยาทและกฎมากมาย น้องสาวทั้งสองเองก็ต้องเก่งอย่างแน่นอนเพราะพวกนางได้เรียนกับท่านแม่! แต่เพ่ยหยารู้ว่าท่านแม่ยุ่งแค่ไหน ไม่เช่นนั้นเพ่ยหยาก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เรียนรู้กฎและมารยาทกับท่านแม่ด้วย! ”
ฟางเพ่ยหยาบอกว่าจะเข้าไปในพระราชวังทำให้หวงหรูซื่อโกรธ
“หรูซื่อ ข้ากลัวว่าเจ้าจะยุ่ง ข้าจึงจ้างอาจารย์มาสอนเพ่ยหยา! ช่วงนั้นเจ้าทำงานหนักเพื่อสอนหลานซินและจู๋อวิ๋นมามากพอแล้ว!” ฟางเจิ้งสิงปฏิเสธเด็ดขาดที่จะพูดถึงเรื่องการเข้าวัง และในดวงตาของเขาก็ลุกลี้ลุกลนราวกับว่าเขาไม่คิดว่าฟางเพ่ยหยาจะพูดถึงการเข้าวัง
แต่เขาไม่รู้สึกเสียใจกับหวงหรูซื่อเลย! เพราะตอนนี้นางเป็นภรรยาของตัวเองแล้ว นางจะมีความคิดนี้ได้อย่างไร!
ฟางเพ่ยหยาแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยและพูดทันที “ท่านแม่ไม่รู้หรือว่าพระราชโองการที่จะร่างขึ้นจะถูกประกาศออกมาในอีกไม่ช้า ท่านพ่อของข้าได้ทราบข่าวแล้ว ดังนั้นจึงให้น้องสาวทั้งสองเรียนรู้มารยาท ไทเฮาตรัสว่าฮ่องเต้โตแล้วและยังไม่มีรัชทายาท สนมข้างกายเองก็มีน้อย ไทเฮาจึงอยากจะเพิ่มนางสนมให้ฮ่องเต้! ท่านแม่รอมาหลายปีแต่ครึ่งปีให้หลัง… เฮ่อ ช่างน่าเสียดาย…”
เมื่อฟางเจิ้งสิงได้ยินคำพูดของฟางเพ่ยหยา เขาก็รู้สึกโกรธเคืองและต้องการตำหนิฟางเพ่ยหยาทันที แต่เขาไม่รู้ว่านางจะพูดบางอย่างอีกครั้ง “แต่ท่านแม่ไม่ได้เสียเปรียบอะไร ท่านพ่อของข้าเป็นขุนนางระดับสองที่มีเกียรติ ท่านพ่อเป็นที่ชื่นชอบของราชสำนักและอยู่ในช่วงรุ่งเรืองของชีวิต ที่จวนก็มีสาวใช้ข้างห้องเพียงคนเดียวและท่านพ่อเป็นชายชราที่มีภรรยาสาว แม้ว่าท่านแม่จะทำอะไรในจวนท่านพ่อก็ไม่เคยตำหนิ! ชีวิตที่สะดวกสบายเช่นนี้ไม่ดีกว่าการเข้าวังหรือ?”
หลังจากที่ฟางเพ่ยหยาพูดคำเหล่านี้ ความโกรธของฟางเจิ้งสิงก็หายไป!
เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่หวงหรูซื่อ เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของหวงหรูซื่อ ไฟในใจของเขาก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
สิ่งที่ฟางเพ่ยหยาพูดนั้นถูกต้อง มีอะไรให้นางไม่พอใจอีก!