ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2048 ครรภ์แรกของเจ้านี้คือองค์หญิง
บทที่ 2048 ครรภ์แรกของเจ้านี้คือองค์หญิง
วังกุ้ยเฟยไม่รอให้กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปากพูด จึงพูดต่อว่า “เหตุใดหมิงตูจวิ้นจู่จึงพูดถึงองค์หญิงอันผิงเช่นนี้? ตอนนี้นางเป็นกงจู่แล้วเป็นที่ชื่นชอบของฝ่าบาทและไทเฮา เจ้าน่ะ…นิสัยอารมณ์เช่นนี้ต้องแก้ไขให้ดี ๆ นะ อย่าตรงไปตรงมาเกินไปเด็ดขาด ล่วงเกินคนเข้าไม่รู้ด้วยแล้วนะ!”
ซูหมิ่นตื่นตระหนกเล็กน้อย “เพคะ หมิงตูทราบแล้ว ต่อไปจะเปลี่ยนแปลงนิสัยแน่นอน!”
ดูเหมือนว่าจะฟังคำของวังกุ้ยเฟยมาก
วังกุ้ยเฟยและซูหมิ่นพูดคุยกันเกี่ยวกับงานเลี้ยงในวันนี้ โดยไม่ได้สนใจฮองเฮาที่นั่งอยู่เบื้องบนเลย
ถานอวี้ซูทนต่อไปไม่ได้แล้ว ฮองเฮากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้เอ่ยอะไร พระสนมกลับส่งเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ช่างไม่รู้จักวางระดับความสำคัญ!
ถ้าหากไม่ใช่ว่ากู้เสี่ยวหวานดึงนางเอาไว้ เกรงว่าถานอวี้ซูจะรีบพุ่งไปข้างหน้าเยาะเย้ยถางถางไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานรู้นิสัยนี้ของถานอวี้ซู ถ้าหากพุ่งตรงไปข้างหน้า เกรงว่าคำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำจะต้องทำให้ซูหมิ่นโกรธจนหน้าเขียวคล้ำแน่ จึงรีบดึงนางเอาไว้และเอ่ยปากพูดเองว่า “วันนี้ฮองเฮาเชิญทุกคนมาชมดอกบัว ดอกบัวนี้งดงามนัก ทิวทัศน์เช่นนี้หาได้ยาก มีเพียงแค่ในพระราชวังเท่านั้นที่จะมี! ความงามของดอกบัว ยิ่งต้องใช้สายตามองจึงจะค้นพบความงดงาม!”
กู้เสี่ยวหวานพูดกับดอกบัวที่อยู่เต็มสระด้วยน้ำเสียงปานกลาง แต่กลับทำให้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงได้ยินเข้าพอดี
วังกุ้ยเฟยและซูหมิ่นได้ยินประโยคนี้ จึงเงยหน้าขึ้นมองกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ตรงข้าม ทั้งสองมองหน้าสบตากัน นี่คือกำลังไม่พอใจพวกนางที่เอะเอะเสียงดังจนรบกวนผู้อื่นชื่นชมดอกบัว!
วังกุ้ยเฟย “องค์หญิงอันผิงมาจากชนบท ดอกบัวเช่นนี้เมื่อก่อนนั้นไม่ใช่ว่าสามารถพบเห็นได้ทุกที่หรอกหรือ?”
ไม่รู้ว่าฮองเฮาเหลิ่งกำลังคิดสิ่งใดอยู่ ทันใดนั้นก็มองไปที่วังกุ้ยเฟยที่ยกตนข่ม “กุ้ยเฟย องค์หญิงอันผิงพูดได้ถูกต้อง ดอกบัวต้องใช้สายตาดูไม่ใช่ใช้ปากดู! ดอกบัวที่ข้าปลูกนี้จะนำมาพูดเปรียบเทียบกันกับดอกบัวที่นางเคยเห็นเมื่อก่อนได้อย่างไร!”
วังกุ้ยเฟยถูกคำพูดของฮองเฮาเหลิ่งทำให้เอ่ยไม่ออก ตอนนี้เสียหน้าต่อธารกำนัล สีหน้าจึงดูไม่ดีนัก แต่เพียงชั่วพริบตาสีหน้าของวังกุ้ยเฟยก็กลับมาเป็นปกติ นางยิ้มแล้วพลางสัมผัสเล็บสีแดงที่ทาบนมือของตัวเอง “คำพูดของฮองเฮานั้นถูกต้องอย่างยิ่ง ดอกบัวที่องค์หญิงอันผิงเคยเห็นที่ชนบทเมื่อก่อนนั้น จะนำมาพูดเปรียบเทียบกับตอนนี้ได้อย่างไร เพียงแค่คนที่ปลูกดอกบัวนั้นต่างกัน ดอกบัวที่ปลูกออกมามักจะเหมือนกันใช่หรือไม่? หรือว่าดอกบัวยังสามารถกลายเป็นดอกโบตั๋นได้!”
ฮองเฮาเหลิ่งมองกระโปรงชั้นในที่วังกุ้ยเฟยสวมใส่ ด้านในปักด้วยดอกโบตั๋นดอกใหญ่ กลีบของดอกโบตั๋นถูกปักด้วยดิ้นไหมทองจนเป็นวงกลม เปล่งประกายสะดุดตายามอยู่ใต้แสงอาทิตย์!
กู้เสี่ยวหวานมองตามสายตาของฮองเฮาเหลิ่ง วังกุ้ยเฟยมองฮองเฮาเหลิ่งด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ตรงมุมปากตลอด ตรงกันข้ามกับฮองเฮาเหลิ่งที่ใบหน้าเรียบเฉยอยู่ตลอด
ดอกโบตั๋นนั้นงดงามมีเสน่ห์ ดอกบัวในสระนั้นสง่างามบริสุทธิ์แต่กลับขาดเสน่ห์ จึงมีเพียงดอกโบตั๋นเท่านั้นที่งดงามยามถึงฤดูที่ดอกไม้เบ่งบาน
ดอกโบตั๋นเป็นราชาแห่งดอกไม้ และเป็นสัญลักษณ์ของมารดาแผ่นดิน
วังกุ้ยเฟยสวมกระโปรงดอกโบตั๋นที่มีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่สามารถสวมใส่ได้ สีดอกไม้ของกระโปรงก็เป็นสีแดงสดด้วย!
สีแดงสดนั้น ตั้งแต่สมัยโบราณมามีเพียงแค่ภรรยาหลวงเท่านั้นที่สามารถสวมได้! ส่วนภรรยารองอย่างอนุ สีแดงที่สุดก็สวมได้เพียงแค่สีแดงกุหลาบเท่านั้น!
ถึงแม้ว่าวังกุ้ยเฟยจะมีสถานะเป็นกุ้ยเฟย แต่ต่อหน้าฮองเฮาแล้วตลอดชีวิตนางก็เป็นเพียงภรรยาน้อยเท่านั้น!
ส่วนวังกุ้ยเฟยเหมือนกับจะไม่ได้ตระหนักเลยว่าตัวเองได้ล่วงเกินศักดิ์ศรีของฮองเฮา เหมือนกับว่านางนั้นไม่เกรงกลัว จึงไม่ตื่นตระหนกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ชุดที่สวมใส่มาวันนี้ก็ดูเหมือนจะจงใจ!
กู้เสี่ยวหวานตกใจมาก! พอมองฮองเฮาเหลิ่งก็เห็นฮองเฮาเหลิ่งกินขนมชิ้นหนึ่งในมือ จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดมุมปากแล้วยิ้มให้คุณหนูทุกคนพลางกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์แล้ว นั่งนานเข้าก็เมื่อยล้านัก คุณหนูทุกท่านชื่นชมดอกบัวกันต่อไปเถอะ!”
วังกุ้ยเฟยก็ลุกขึ้นยืนย่อคำนับและกล่าวว่า “ตอนนี้ฮองเฮาตั้งครรภ์แล้ว เรื่องพวกนี้ต่อไปก็ให้หม่อมฉันเป็นผู้จัดการก็พอ! ถ้าหากไม่ระวังเผลอทำให้ร่างกายของท่านเหนื่อยล้าจนส่งผลกระทบต่อองค์หญิงในท้องของท่านก็คงไม่ดีแล้ว!”
ทุกคนต่างยกยอฮองเฮาว่าหากครรภ์แรกนี้เป็นองค์ชายก็คงดี อย่างไรเสียเมื่อกำเนิดออกมาก็เป็นบุตรคนโต เป็นรัชทายาทในอนาคตและเป็นเจ้าแผ่นดินในอนาคต
แต่ว่าวังกุ้ยเฟยผู้นี้กลับพูดออกมาตรง ๆ ว่าในครรภ์นี้เป็นองค์หญิง เดิมทีฮองเฮาเหลิ่งกำลังหมุนตัวไป จึงหมุนตัวกลับมาในทันที “อ้อ? กุ้ยเฟยรู้ได้อย่างไรว่าในครรภ์นี้ของข้าจะต้องเป็นองค์หญิงแน่นอน?”
ฮองเฮาเหลิ่งมองวังกุ้ยเฟยด้วยสายตาที่แผดเผา ริมฝีปากสีแดงสดถูกเม้มแน่น ความเกลียดชังภายในดวงตาซ่อนเอาไว้อย่างลึกซึ้ง
เด็กที่อยู่ในท้องนี้เป็นลูกคนแรกของนาง จะเป็นชายหรือหญิงนั้นมันไม่สำคัญสำหรับนาง แต่ถ้าหากสามารถได้ผู้ชายได้ นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากยิ่งขึ้นไปอีก!
หลายคนบอกว่าครรภ์นี้เป็นองค์ชาย นางเองก็รู้ว่าผู้อื่นกำลังให้ความหวังกับตัวเอง
เพียงแต่การให้ความหวังนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ? ถ้าหากผิดหวังให้กำเนิดองค์หญิงออกมา เช่นนั้นก็ขอให้องค์หญิงปลอดภัยแข็งแรงก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่หรือ?
เพียงแต่วังกุ้ยเฟยผู้นี้กลับพูดออกมาตรง ๆ ว่าครรภ์แรกนี้เป็นองค์หญิง อีกทั้งยังบอกอีกว่าเด็กคนนี้อาจเกิดเรื่องขึ้น นี่เท่ากับเอามีดแทงร่างกายของฮองเฮา กำจัดความหวังและการรอคอยทั้งหมดก่อนหน้านี้ของนาง
แม้ว่าจะเป็นองค์หญิง ฮองเฮาเหลิ่งก็มีความสุข!
นั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนาง จะยอมให้นางได้รับความเสียหายแม้แต่นิดเดียวได้อย่างไร? จะยอมให้ลูกของตัวเองโดนใส่ร้ายตั้งแต่ยังไม่ทันเกิดได้อย่างไร!
มือของฮองเฮาเหลิ่งที่ประสานอยู่ตรงหน้าอกนั้นสั่นเทาเล็กน้อย ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางพยายามอดและพยายามที่จะรักษาหน้าตาของตัวเองเอาไว้ เกรงว่าในตอนนี้คงแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะใช้สายตาที่คมกริบฉีกกระชากสตรีตรงหน้าเป็นชิ้น ๆ
วังกุ้ยเฟยดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ซ่านมาจากรอบตัวของฮองเฮาเหลิ่งเลยแม้แต่น้อย ยังคงจ้องมองท้องที่นูนของฮองเฮาเหลิ่งอย่างละเอียด และกล่าวอย่างมีเหตุผลว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นฮองเฮาทานขนมไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่เครื่องเคียงที่เผ็ดนั้นกลับทานจนหมดเกลี้ยง ดังคำว่าที่ชายเปรี้ยวหญิงเผ็ด หม่อมฉันจึงเดาว่าครรภ์แรกของฮองเฮาจะต้องเป็นองค์หญิงน้อยสมดังปรารถนาแน่นอน!”
วังกุ้ยเฟยปิดปากหัวเราะคิกคักด้วยใบหน้าดีใจ ราวกับตื่นเต้นที่ฮองเฮาเหลิ่งจะได้องค์หญิงน้อย “นี่จะเป็นองค์หญิงองค์แรกในต้าชิงและเป็นองค์หญิงใหญ่ที่สูงศักดิ์ไม่มีอะไรเทียบได้จริงๆ!”