ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2052 สำเร็จลุล่วง
บทที่ 2052 สำเร็จลุล่วง
ซูหมิ่นเห็นกู้ซินเถามีท่าทางหวาดระแวง จึงแสยะยิ้มและพูดว่า “เจ้ากลัวว่าข้าจะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงสินะ!”
เมื่อเห็นว่าซูหมิ่นเกลียดกู้เสี่ยวหวานมาก กู้ซินเถาก็ยิ่งฮึกเหิม “จวิ้นจู่ กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ผ่านอะไรมามากมาย ไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรนางได้ และข้าเองก็ไม่รู้ว่าใครกำลังปกป้องนาง!”
“หึ มาดูกัน ว่าคราวนี้ใครจะปกป้องนางได้!” ซูหมิ่นพูดอย่างเย็นชา
ถ้ามีคนบอกว่านางเป็นดาวหายนะ และจะทำลายรากฐานของต้าชิง ทั้งจะส่งผลกระทบต่อรัชทายาทในท้องของฮองเฮา แล้วใครจะกล้าปกป้องคนเช่นนี้!
หลังจากที่ซูหมิ่นส่งกู้ซินเถาไปแล้ว นางก็ขึ้นไปในรถม้าและตรงไปที่วังหลวงทันที
โดยที่กู้ซินเถาก็กลับบ้านด้วยใบหน้าพึงพอใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซุนซื่อรีบถามอย่างกระวนกระวายว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
กู้ซินเถามองไปที่ซุนซื่อที่ดูเป็นกังวลและถามอย่างงงงวย “ท่านแม่หมายถึงเรื่องใด ที่ถามข้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาไม่ตอบคำถามของนาง ซุนซื่อก็กระวนกระวาย “ซินเถา เป็นอย่างไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง บอกข้าเร็ว ๆ!”
กู้ซินเถาที่เพิ่งกลับถึงบ้านในเช้าวันนี้ เมื่อคืนนางไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน กู้จือเหวินบอกว่านางมีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำจึงไม่ได้กลับมาตอนกลางคืน ส่วนกู้ฉวนลู่เองก็กลับมาถึงบ้านในกลางดึกเช่นเดียวกัน โดยที่ร่างกายมีแต่กลิ่นเหล้าคลุ้ง!
อาจเป็นเพราะดื่มกับลูกค้ามากเกินไป
ซุนซื่อเป็นกังวลตลอดทั้งคืน และเป็นการยากที่จะบอกเรื่องนี้กับคนอื่น ดังนั้นนางจึงนั่งอยู่ที่นั่นจนเกือบรุ่งสาง
ในที่สุดหลังจากเห็นกู้ซินเถากลับมา ซุนซื่อก็ไม่รีรอที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ แต่กู้ซินเถาบอกเพียงว่ามีคนของหมิงตูจวิ้นจู่มาตามหานาง จากนั้นนางก็รีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและออกไปทันที ซุนซื่อจึงไม่อยากรบกวนและถามนางต่อ!
เมื่อเห็นใบหน้าที่พึงพอใจของกู้ซินเถา ซุนซื่อก็พอจะคาดเดาได้ แต่นางก็ยังกังวลเล็กน้อย และยังต้องการให้กู้ซินเถาริเริ่มที่จะตอบ!
กู้ซินเถานั่งจิบชา ด้วยรสขมของชานี้นางจึงขมวดคิ้วและบ้วนชาออกทันที พร้อมกับถามอย่างไม่พอใจว่า “นี่คือชาอะไร ชาของเสี่ยวซื่อจื่ออยู่ที่ใด”
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาเกิดความไม่พอใจ ซุนซื่อจึงมองไปที่กู้ซินเถาอย่างเกรง ๆ และตอบด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “พี่…ท่านพี่ของเจ้านำไปมอบให้ผู้อื่นแล้ว!”
“นำไปมอบให้ใคร?” กู้ซินเถาขมวดคิ้วและถาม
“ตอนนี้ท่านพี่ของเจ้ามีเรื่องที่ต้องไปทำที่กรมคลังไม่ใช่หรือ เขาบอกว่าจะนำของบางอย่างไปให้ผู้ใหญ่เหล่านั้น แล้วในอนาคตเขาก็จะได้ดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นเมื่ออยู่ที่กรมคลัง!” ซึ่งซุนซื่อก็ไม่ได้รู้อะไรมาก
กู้ซินเถาเย้ยหยันและพูดว่า “หึ เสี่ยวซื่อจื่อแนะนำเขาเข้าไป แต่ยังจำเป็นต้องประจบประแจงคนอื่นอยู่อีก? คนเหล่านั้นมีดีอะไรให้ประจบประแจงหรือ!”
ซุนซื่อก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้เท่าไหร่ นางยืนอยู่อย่างนั้นและไม่รู้ว่าต้องอธิบายอย่างไร “ข้า…ข้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ท่านพี่ของเจ้า…อยากเข้าไปในกรมคลัง เขาบอกว่าตอนนี้เสี่ยวซื่อจื่อจัดการให้แล้ว แต่เขาก็รู้สึกเกรงใจอยู่ตลอด ก็เลยคิดว่าเขาอาจจะต้องพึ่งพาตัวเอง แล้ว…หลังจากที่ท่านพี่ของเจ้าได้เข้ารับราชการ มันจะดีมาก ดีต่อเจ้า…ดีต่อต่อครอบครัวของเรา!”
กู้ซินเถาไม่ดื่มชาอีกต่อไป ถ้านางยังคงเถียง ท่านแม่คงจะบอกว่านางเป็นน้องสาวที่โง่เขลา แม้แต่ชากล่องเดียวนางก็ยังหวง!
“ช่างมันเถอะ ในอนาคตท่านพี่ไม่จำเป็นต้องประจบประแจงคนอื่นอีกต่อไป เสี่ยวซื่อจื่อตกลงรับข้าเป็นเช่อเฟยแล้ว! จะไม่มีผู้ใดกล้าที่จะรุกรานเขาอีก!” กู้ซินเถากล่าวอย่างมีชัยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม!
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” เมื่อซุนซื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของนางที่ซีดเซียวเนื่องจากอดหลับอดนอนทั้งคืนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที นางมองไปที่กู้ซินเถาอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน “เจ้าพูดว่า…เสี่ยวซื่อจื่อยอมรับเจ้าแล้วหรือ?”
กู้ซินเถายิ้มอย่างมีชัย “ท่านแม่ หลายปีมานี้ มีสิ่งที่ข้าอยากได้แล้วไม่สามารถคว้ามันไว้ได้ด้วยหรือ”
ซุนซื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และพูดอย่างตื่นเต้น “ใช่ ใช่ ซินเถาของข้าเก่งมาก แล้ว…แล้ว…เสี่ยวซื่อจื่อมองไม่ออกหรือ?”
“ไม่!” กู้ซินเถาพูดห้วน ๆ “ในตอนนั้นเขาดื่มเข้าไปมาก แม้ว่าเขายังพอมีสติอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังสับสนเล็กน้อย เราสองคนก็เลย…หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า เสี่ยวซื่อจื่อก็สัญญากับข้าว่า รอแต่งตั้งเจิ้งเฟยเสียก่อน ก็จะพาข้าย้ายเข้าไปในจวน!”
เมื่อซุนซื่อได้ยินดังนั้น นางจึงประสานมือเข้าด้วยกันและขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
“ซินเถา ข้าต้องรีบจุดธูปแจ้งเรื่องนี้แก่บรรพบุรุษของเราแล้ว!” กู้ซินเถารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางที่ชื่นชมจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ของซุนซื่อ หลังจากนางจุดธูปเพื่อขอบคุณและบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์! ว่าตอนนี้มันสำเร็จลุล่วงแล้ว ตอนนี้นางได้เป็นสตรีของเสี่ยวซื่อจื่อแล้ว!
“แล้วซื่อจื่อเจิ้งเฟยเป็นใคร” ซุนซื่อถาม และแววตาของนางก็เต็มไปด้วยความอิจฉา!
“เสี่ยวซื่อจื่อไม่ได้บอก แต่เขาบอกพูดว่าถ้าภายในครึ่งปีเขาไม่สามารถแต่งงานกับเจิ้งเฟยได้ เขาจะพาข้าเข้าจวนก่อน และหลังจากแต่งเจิ้งเฟยแล้ว เขาก็จะเชิดชูข้าในฐานะเช่อเฟย!”
กู้ซินเถารู้ดีว่าตอนนี้ซูหลินไม่สามารถแยกจากนางไปไหนได้ ดังนั้นนางจึงรู้สึกภาคภูมิอยู่ในใจ
“ดีดีดี!” ซุนซื่อตื่นเต้นมาก นางเดินวนไปมาอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรหรือทำอะไรก่อน แต่เมื่อกู้ซินเถาเห็นว่านางทำตัวขวางหูขวางตาไปหมด นางก็พูดด้วยความรำคาญ “ท่านออกไปก่อนไป!”
น้ำเสียงของนางเหมือนกำลังขับไล่สาวใช้ แต่ซุนซื่อไม่ได้สังเกตเห็นถึงความแตกต่าง นางจึงตอบรับแล้วเดินออกไป!
หลังจากเดินออกไปข้างนอก ซุนซื่อรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อคิดว่ากู้ซินเถาได้จัดการเรื่องนี้อย่างเรียบร้อยและราบรื่น จากนี้ไป นางจะได้เป็นแม่ยายของเสี่ยวซื่อจื่อ และได้เสี่ยวซื่อจื่อมาเป็นลูกเขย สวรรค์…
ซุนซื่อคิดเรื่องนี้วนไปวนมา ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่านางกำลังเมามาย!
ซ่งชิงซือได้ยินข่าวที่กู้ซินเถามาพักค้างคืนกับเสี่ยวซื่อจื่อที่โรงน้ำชาอู๋อวิ๋นอย่างรวดเร็ว นางเยาะเย้ยและพูดว่า “ข้าไม่เคยคิดเลยว่ากู้ซินเถาจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เพื่อที่จะเข้าไปในจวนตระกูลวัง ก็ยอมมีสัมพันธ์ก่อนแต่งงานอย่างหน้าไม่อาย!”
หลิงซีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “คุณหนู การแต่งงานของท่านกับซื่อจื่อกำลังจะจัดขึ้น ทว่าซื่อจื่อยังคงหาเศษหาเลยอยู่ข้างนอก นี่ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยหรือ”
“นางชินกับวิถีของเขาอยู่แล้ว พอเห็นสาวงาม เขาก็อยากได้มาครอบครองเป็นเรื่องธรรมดา มีหญิงสาวหลายคนที่เคยเป็นหมอนข้างกายเขา แต่ก่อนหน้านี้เขาก็แค่หยอกล้อและไม่ได้จริงจัง คิดไม่ถึงว่ากู้ซินเถาผู้นี้จะทำได้ ให้เขาสัญญากับนางว่าจะพานางเข้าไปอยู่ในจวนและแต่งตั้งเป็นเช่อเฟย! กู้ซินเถาผู้นี้ช่างมีความสามารถ!” ซ่งชิงซือกล่าว