ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2053 กู้จี้ซาวเข่า
บทที่ 2053 กู้จี้ซาวเข่า
หลิงซี “นางมีความสามารถ หากคุณหนูไม่ต้องการให้หญิงผู้นั้นเข้ามาในจวน นางก็จะไม่สามารถเข้ามาได้!”
ซ่งชิงซือยิ้ม น้ำเสียงและการแสดงออกของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา “หึหึ ข้าไม่สนใจหญิงสาวในอดีตเหล่านั้น แต่ตอนนี้ข้ากำลังจะแต่งงานกับเสี่ยวซื่อจื่อ และกู้ซินเถาผู้นี้ต้องการมาแย่งชิงคนรักที่กำลังจะเข้าพิธีกับข้า หึหึ…กล้าหาญยิ่งนัก! ไม่รู้ว่าร่างกายอันสกปรกและชื่อเสียงอันฉาวโฉ่นี้ของนางหลุดออกไป เสี่ยวซื่อจื่อยังจะพานางเข้าจวนอีกหรือไม่”
หลิงซี “คุณหนู ท่านหมายความว่าอย่างไร…”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่ สำหรับหญิงสาวแบบนี้ แค่พูดที่ว่าเสี่ยวซื่อจื่อมีความต้องการทางกาย แล้วส่งคนไปรับนาง ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่นางก็พร้อมที่จะไป! เรื่องแบบนี้นางจะปฏิเสธไม่มาได้หรือ?” ซ่งชิงซือพูดอย่างดุร้าย นางแค่นเสียงหัวเราะและพูดว่า “หญิงสาวแบบนี้จัดการได้ไม่ยากหรอก!”
ซ่งชิงซือยิ้มอย่างดุร้าย สีหน้าแววตาของนางก็แสดงให้เห็นถึงเล่ห์เหลี่ยมที่มี
หากเป็นคนอื่นคงไม่ง่ายต่อการจัดการ แต่สำหรับกู้ซินเถาผู้นี้ มันไม่ยากเลย!
ตระกูลกู้เหมือนกันแท้ ๆ คนหนึ่งไม่มีสมองแต่อีกคนกลับฉลาดหลักแหลม!
หากไม่ใช่เพราะนางไม่ถูกกันกับหมิงตูจวิ้นจู่ที่มาแย่งชิงความโดดเด่นของนางไป การที่ได้ผู้ที่เก่งกาจเช่นนี้มาเป็นมือขวา มันคงช่วยได้มาก! แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว!
สองสามวันมานี้กู้เสี่ยวหวานไปที่ร้านจิ่นฝูค่อนข้างบ่อย ร้านจิ่นฝูเปิดในเมืองหลวงมาสองสามปีแล้ว แม้ว่าจะพยายามออกรายการอาหารใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ แต่เนื่องจากร้านนี้เปิดมาเป็นเวลานาน ก็มีบ้างที่ลูกค้าจะรู้สึกเบื่อ
ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงวางแผนที่จะปิดกิจการสักระยะหนึ่ง ประการแรกคือเพื่อวางแผนสูตรอาหารใหม่สักสองสามอย่าง และประการที่สองคือการตกแต่งร้านอาหารใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างออกไป!
หลี่ฝานเองก็เห็นด้วยกับกู้เสี่ยวหวาน แต่เขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับปรุงร้านใหม่ ร้านจิ่นฝูไม่ได้ปิดทำการมานานมากแล้ว จริง ๆ เขาก็แอบเกรงว่าเมื่อเปิดกิจการอีกครั้งจะไม่รุ่งเรืองเหมือนเก่า
“ข้าก็เห็นด้วยกับการปิดเพื่อปรับปรุงร้านใหม่ แต่…เสี่ยวหวาน ข้าเกรงว่าลูกค้าเหล่านี้จะหายไปหลังจากที่เราปิดไปนาน!” หลี่ฝานพูดอย่างกังวล
“ข้ารู้ กู้เสี่ยวหวานยิ้มและพูดว่า “แต่ข้าก็มีแผนสำรองเอาไว้แล้วเช่นเดียวกัน!”
“อะไรนะ เจ้ามีแผนสำรองหรือ” หลี่ฝานรีบถามเมื่อเขาได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานมีแผนการบางอย่าง
“เจ้ามีแผนอะไรหรือ”
“ข้าซื้อร้านขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของเมืองเอาไว้ ก็เหลือแค่การตกแต่งเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากปิดร้านที่นี่ลงเพื่อทำการซ่อมแซม อีกด้านหนึ่งก็สามารถเปิดกิจการได้พอดี!” กู้เสี่ยวหวานกล่าว
“แต่ว่า ถ้าทั้งสองร้านเหมือนกัน ถึงเวลานั้นถ้าเปิดชนกันก็คงไม่ดี!” หลี่ฝานกล่าวอย่างเป็นกังวล
“ไม่ มันไม่เหมือนกันตั้งแต่แรก!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านลุง ท่านตามข้ามาดู แล้วท่านจะรู้!”
เมื่อพวกเขามาถึงทางใต้ของเมือง กู้เสี่ยวหวานพาหลี่ฝานเข้าไปในร้านที่ยังไม่ได้ติดแผ่นป้าย นี่เป็นร้านที่ใหญ่มาก และการตกแต่งภายในก็เรียบง่าย มีโต๊ะและเก้าอี้ พื้นที่บางส่วนถูกแบ่งเป็นห้องรับรองส่วนตัว กั้นด้วยฉากกั้นง่าย ๆ เมื่อหลี่ฝานเห็นเขาก็ต้องแปลกใจเล็กน้อย “เสี่ยวหวาน นี่คือ…”
“จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นร้านกู้จี้ซาวเข่าของเรา!” กู้เสี่ยวหวานพาหลี่ฝานไปที่ครัวด้านหลัง และเห็นว่ามีเตาสามเตาอยู่ข้างในและชั้นวางจำนวนมาก ด้านบนเป็นตะแกรงเหล็ก และด้านล่างเป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีไว้เพื่ออะไร อีกทั้งยังมีห้องฟืนอยู่ข้าง ๆ และมีถ่านจำนวนมากอยู่ในนั้น
“ซาวเข่า? มันทำยังไงหรือ?” หลี่ฝานสงสัยเล็กน้อย
เมื่อกู้เสี่ยวหวานลงมือทำการปิ้งย่างให้หลี่ฝานกินเป็นการส่วนตัว หลี่ฝานก็เห็นด้วยทันที “ตกลง กู้จี้ซาวเข่านี่แหละ!”
กู้เสี่ยวหวาน “ข้าได้ฝึกคนเอาไว้สองคน พวกเขาจะรับผิดชอบการย่าง และพ่อครั้วทั้งสองจะรับผิดชอบการทำอาหาร เพราะเนื่องจากร้านของเราคือซาวเข่า ดังนั้นจะทำการปิ้งย่างเป็นหลัก แต่ข้าก็คิดว่ามันอาจจะต้องมีการทำอาหารบางเมนูเช่นเดียวกัน ระหว่างรอร้านจิ่นฝูปรับปรุงเสร็จ ข้าก็จะให้พ่อครัวสองคนอยู่ที่นี่เป็นคนทำอาหารเหล่านั้นไปก่อน ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?”
หลี่ฝานที่กำลังกินซาวเข่าที่ทำโดยกู้เสี่ยวหวาน รสชาตินี้ทำให้ดวงตาของเขาเป็นประกาย ซึ่งจากที่กู้เสี่ยวหวานเสนอมา เขาไม่มีอะไรที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงตอบว่า “ข้าไม่มีปัญหา มะรืนนี้สามารถเปิดกิจการร้านนี้ได้เลย!”
เมื่อร้านจิ่นฝูประกาศว่ากำลังจะมีการตกแต่งใหม่ ร้านกู้จี้ซาวเข่าก็ได้ทำการเปิดกิจการขึ้นทันที
ทางตอนใต้ของเมืองเป็นสถานที่ห่างไกล ดังนั้นในสองวันมานี้ กู้เสี่ยวหวานส่งคนไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อส่งแผ่นพับให้กับผู้คน ซึ่งกู้เสี่ยวหวานเป็นคนวาดภาพซาวเช่าด้วยตัวเอง ผู้คนที่ได้เห็นต่างก็ต้องนำลายสอ
หลังจากออกไปแจกจ่ายแผ่นพับเป็นเวลาล่วงหน้าสองวัน ร้านกู้จี้ซาวเข่าก็เปิดขึ้น และด้านนอกร้านก็เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัด ซึ่งจากที่ผู้คนได้รับแผ่นพับ ต่างก็มีคนมาจองที่นั่งเอาไว้ล่วงหน้า และมีการจองที่นั่งจนเต็มยาวออกไปหลายวันแล้ว
ผู้ที่ไม่ได้ที่นั่ง ต่างพากันน้ำลายสอเมื่อได้กลิ่นหอมของปิ้งย่างที่โชยออกมาจากภายในร้าน
กู้จี้ซาวเข่ากลายเป็นที่นิยมในเมืองหลวงทันที
และหลี่ฝานยังคงรับหน้าที่เป็นเจ้าของร้านที่นี่เช่นเคย แต่เมื่อมองดูชื่อบนแผ่นป้ายด้านนอก ทุกคนเข้าใจโดยปริยายว่านี่เป็นทรัพย์สินของกู้เสี่ยวหวาน
หลังจากคิดถึงสถานะปัจจุบันของกู้เสี่ยวหวาน และเห็นว่านางทำเงินได้เท่าไหร่ นางเปิดร้านอะไร มีรายได้เท่าไหร่ ก็มีผู้คนมากมายต่างอิจฉานาง!
ผู้ที่เคยดูถูกกู้เสี่ยวหวานไว้ในตอนแรก ตอนนี้พวกเขาเห็นสถานะอันสูงส่งของนางและการหาเงินได้มากมายของนาง หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา!
จะหาหญิงสูงศักดิ์ที่สามารถทำเงินได้มากมายเช่นนี้ได้ที่ไหนอีก?
แต่ก็มีคนไม่น้อย ที่คันไม้คันมืออยากจะโจมตีและสร้างปัญหาให้กู้เสี่ยวหวานอีกครั้ง!
เรื่องราวฉาวโฉ่ที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้นทั้งนั้น ถึงแม้กู้เสี่ยวหวานจะประกาศว่านางมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้าคนรักของนาง ผู้คนต่างก็คิดว่านางนำเรื่องนี้มาแก้ต่างให้ตัวเอง! ทว่ากว่าที่นางจะได้มีสถานะเป็นองค์หญิงผู้สูงส่ง และหาเงินได้มากมายขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่นางจะได้มา!
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ร้านกู้จี้เปิดทำการ โชคดีที่กู้เสี่ยวหวานได้อยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามหรือสี่วัน อย่างไรก็ตามพ่อครัวที่ผ่านการฝึกอบรมยังเป็นมือใหม่ เมื่อพวกเขาพบเจอปัญหาก็สามารถถามนางได้โดยตรง!
หลี่ฝานทำธุรกิจเก่ง แม้ว่าเขาจะย้ายไปอยู่ในที่ที่ค่อนข้างห่างไกล แต่เขาก็จัดการธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองได้ในทันที มีการทำปิ้งย่างและอาหารเป็นจาน ซึ่งร้านอาหารนี้ได้เต็มไปด้วยลูกค้าทุกวัน
ในขณะเดียวกันถานอวี้ซูได้แจ้งข่าวมาว่าฮองเฮาประชวรหนัก และเสวยอะไรไม่ค่อยได้ น้ำหนักจึงลดลงมาก อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก!