ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2055 สิ่งชั่วร้าย
บทที่ 2055 สิ่งชั่วร้าย
ถานอวี้ซูก็สังเกตเห็นเช่นกัน นางกระซิบข้างหูของกู้เสี่ยวหวาน “นางเสแสร้งเป็นแน่ ไม่รู้ว่าในใจนางกำลังคิดอะไรอยู่!”
ในเวลานี้ นางกำนัลเข้ามาพร้อมกับยา “เหนียงเหนียง ได้เวลาเสวยยาแล้ว!”
โอสถน้ำสีเข้มกลิ่นค่อนข้างแรง กู้เสี่ยวหวานได้กลิ่นยาทั้งที่นางยืนอยู่ในระยะไกล โดยที่นางกำนัลทั้งสี่ช่วยกันตรึงฮองเฮาเหลิ่งเอาไว้ เพื่อให้ฮองเฮาได้เสวยยาน้ำ นางกำนัลอีกสองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งประคองพระเศียรของฮองเฮา ส่วนอีกคนหนึ่งโอบพระกฤษฎีของฮองเฮาไว้เพื่อไม่ให้เคลื่อนไหว
นางกำนัลตักยาด้วยช้อนหนึ่งช้อน เป่าสองครั้ง แล้วยื่นไปที่พระโอษฐ์ของฮองเฮาเหลิ่ง แต่ฮองเฮาเหลิ่งปฏิเสธที่จะดื่มมัน และดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง “อย่าทำร้ายข้า อย่าทำข้า…”
นางยังคงดิ้นรน แต่แรงของนางสู้กับนางกำนัลทั้งหกที่ตรึงนางไว้ไม่ได้ ฮองเฮาเหลิ่งถูกกดลงบนเตียงจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
เหล่านางกำนัลบีบคางฮองเฮาเหลิ่ง เพื่อให้พระโอษฐ์เปิดออกเล็กน้อยและป้อนยาให้สองคำ แต่ฮองเฮาไม่ยอมกลืนลง มือเท้าดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ตะโกนว่าวิญญาณร้ายกำลังมา…ยาที่ป้อนเข้าไปก็คายออกมาจนหมด นางกำนัลที่มาถวายยายังคงต้องการที่จะถวายยาต่อไป และยื่นมือไปบีบกรามของฮองเฮา เมื่อเห็นท่าทางหยาบคายของนาง กู้เสี่ยวหวานจึงกลัวว่านางจะทำให้ฮองเฮาได้รับบาดเจ็บ จึงรีบตะโกน “ระวังอย่าให้ฮองเฮาได้รับบาดเจ็บ!”
เมื่อเหล่านางกำนัลได้ยินเสียงเตือนของกู้เสี่ยวหวานต่างก็ต้องมึนงง ซึ่งในขณะนี้ฮองเฮาเหลิ่งยังคงบิดร่างกายของนางพร้อมตะโกนเสียงแหบแห้ง ฮองเฮาบิดร่างกายของนางอย่างแรงจนไปโดนชามในมือของนางกำนัลที่กำลังถือถ้วยโอสถ ยาน้ำในถ้วยจึงถูกคว่ำลงและชามหยกนั้นก็ได้ตกลงพร้อมกับแตกกระจาย และยาสีเข้มก็กระเด็นไปทั่ว
มียาน้ำเปื้อนอยู่ตรงปลายคางของฮองเฮา และกู้เสี่ยวหวานก็ได้สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าที่ปลายคางของฮองเฮามีรอยเล็บที่จิกเข้าเนื้อ กับรอยช้ำที่เริ่มเข้มขึ้น
ในขณะนี้ ฮ่องเต้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พระองค์เปล่งวาจาออกมาด้วยความโกรธ “หมอหลวงหายไปไหน ไปตามตัวหมอหลวงมา”
ทันทีที่พูดจบ หมอหลวงที่อยู่ด้านนอกก็รีบเข้ามาทันที ฮ่องเต้ชี้ไปที่พวกเขาและพูดด้วยความโกรธ “รีบรักษาฮองเฮากับเลือดเนื้อของข้าในครรภ์ของนางเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด!”
นี่คือทายาทคนแรกของฮ่องเต้ และฮองเฮายังเป็นภรรยาที่เขาอภิเษกด้วย เมื่อเห็นความเจ็บปวดและรูปลักษณ์ที่น่าสงสารของแม่และลูกในครรภ์ ฮ่องเต้ก็ยิ่งรู้สึกเศร้า เขาเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องหญิงที่เขารักและลูกของเขาเอง!
ไทเฮาที่เอาแต่เงียบก็มองไปที่ฮองเฮาอย่างเป็นทุกข์ นางก็ยังเคลื่อนปลายนิ้วไปที่ลูกประคำแต่ละลูกไม่หยุด
หมอหลวงเหล่านั้นเห็นพระอาการของฮองเฮาแล้วปรึกษากันก็ยังไม่แน่ใจถึงสาเหตุ “ฝ่าบาท ไทเฮาเหนียงเหนียง ฮองเฮาเหนียงเหนียงทรงพระประชวรหนัก และนี่เป็นยาที่ถูกต้องแล้ว…”
“สั่งยาถูกหรือไม่ หากสั่งยาถูก ทำไมพระอาการของฮองเฮาถึงแย่ลง เป็นเพราะหมอต้มตุ๋นไม่เก่งเรื่องยาหรือจงใจหลอกข้า ถ้าฮองเฮาของข้าเป็นอะไรไป นั่นก็จะเป็นวันตายของโคตรเง่าพวกเจ้าด้วยเช่นกัน!” ฮ่องเต้พูดอย่างดุเดือด เขามีความทุกข์และความโศกเศร้าในดวงตาที่ไม่อาจเพิกเฉยได้
ทั่วทั้งตำหนักเหลือเพียงเสียงของหมอหลวง “ฝ่าบาท อาการประชวรของเหนียงเหนียง…พระอาการประชวรนี้…”
ไม่มีใครกล้าบอกว่าไม่ดี ถึงไม่ดี ก็ไม่กล้าพูด
ในบรรดาหมอหลวงนั้น ยังมีหมอหลวงห่าวที่กู้เสี่ยวหวานคุ้นเคยเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเขาเคยรักษาแม่ทัพถานเย่สิง และแม่ของฟางเพ่ยหยา ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ข้างฮองเฮา และเขาก็ตกอยู่ในความคิดอีกครั้ง
ฮ่องเต้เชื่อในท่านหมอหลวงห่าวจริง ๆ เมื่อเห็นว่าเขาเงียบ จึงรีบถามว่า “หมอหลวงห่าว ท่านคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง”
หมอหลวงห่าวส่ายศีรษะ “ฝ่าบาท โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าไม่กล่าเอ่ยออกไปจริง ๆ ว่าเหนียงเหนียงทรงประชวรด้วยโรคอะไร ชีพจรและอาการของพระนาง ข้าคิดว่ามันเป็นภวังค์ หรือเกิดจากความกดดันหรือภาวะซึมเศร้ามากเกินไป เมื่อเสวยยานี้ และพักฟื้นระยะหนึ่ง ก็จะหาย แต่ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงไม่ดีขึ้นหลังจากดื่มยา แต่กลับแย่ลง!”
หมอหลวงห่าวได้รับความไว้วางใจอย่างลึกซึ้งจากฮ่องเต้มาโดยตลอด และตอนนี้เมื่อฮ่องเต้ได้ยินว่าหมอหลวงห่าวยังกล่าวว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจึงรักษาไม่ได้สักที เขาจึงโกรธมาก “ใครก็ได้เข้ามาลากหมอต้มตุ๋นพวกนี้ออกไปและโบยพวกเขาสามสิบครั้ง! โทษฐานที่ช่วยรักษาฮองเฮาไม่ได้!”
หมอหลวงห่าวก้มศีรษะลงและนิ่งเงียบ เมื่อหมอหลวงคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของพวกเขาก็แข็งทื่อและหมอบคลาน “ได้โปรดอภัยให้กระหม่อมด้วย ฝ่าบาท…”
ฮ่องเต้ทรงกริ้วอยู่ในขณะนี้ และองค์ไทเฮาก็ถอนหายใจ “ฝ่าบาท ฮองเฮายังบรรทมอยู่บนเตียง เจ้าไว้ชีวิตคนเหล่านี้ก่อนเถิด ยังไม่สายเกินไปที่จะโบยพวกเขาทีหลัง ไว้ชีวิตพวกเขาก่อน! ถ้าโบยเขาจนตาย ใครจะรักษาฮองเฮา ลองคิดดูอีกทีเถิด”
หมอหลวงกลุ่มนี้เป็นเป็นหมอหลวงเก่าแก่ หากได้รับโทษโดยการโบยถึงสามสิบครั้ง พวกเขาอาจถึงแก่ชีวิต หรือไม่ก็ต้องนอนติดเตียงไปตลอดชีวิต!
ไทเฮาไม่กังวลเรื่องเหล่านี้ สิ่งที่นางกังวลคือ ถ้าหมอหลวงเหล่านี้ตายไป ใครจะรักษาฮองเฮา!
ฮ่องเต้ยังคงเงียบราวกับว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของไทเฮา ตอนนี้หมอหลวงห่าวเหลียนได้ถวายยาให้ฮองเฮา และนางก็ได้หลับไป
ฮองเฮาบรรทมอยู่บนแท่นบรรทมด้วยสีหน้าไม่สู้ดี นางดูเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต ทำให้ผู้คนที่มองดูรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
“ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องช่วยฮ่องเฮาและองค์ชายในครรภ์ให้ได้!” ฮ่องเต้พูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
องค์หญิงลี่หัวสะอื้นไห้อย่างโศกเศร้า ดวงตาของกู้เสี่ยวหวาน และถานอวี้ซูก็แดงขึ้นเช่นกัน และพวกนางก็เช็ดมุมตาด้วยผ้าเช็ดหน้า
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เว้นแต่เสียงครืน ๆ ของการชนประคำของไทเฮาเป็นระยะ ๆ
ทันใดนั้น มีเสียงพูดว่า “ฝ่าบาท ข้าเกรงว่าอาการป่วยของฮองเฮาเหนียงเหนียงจะไม่ใช่โรค อาจจะเป็น…ข้าเกรงว่าจะเป็น…”
หมอหลวงคนหนึ่งซึ่งหมอบอยู่บนพื้นลังเลใจที่จะพูด
“เจ้ากลัวอะไร อ้ำอึ้งอยู่ได้ มีอะไรก็ว่ามา!” ฮ่องเต้ตะคอก
หมอหลวงกลืนน้ำลายและพูดต่อ “ข้าเกรงว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงจะเจอสิ่งชั่วร้าย เป็นเหตุให้การถวายยาไม่เป็นผล และพระอาการก็เลยไม่ดีขึ้น!”
สิ่งชั่วร้าย!
เมื่อได้ยินคำนี้ สายประคำที่ขดอยู่ในพระหัตถ์ของไทเฮาก็หยุดลงทันที
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกจากฮองเฮาที่ส่งเสียงออกมาเป็นครั้งคราว