ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2057 เจ้าคือดาวหายนะ
บทที่ 2057 เจ้าคือดาวหายนะ
พระอาจารย์ฮุ่ยฟางกุมศีรษะ “ไทเฮาเหนียงเหนียง สัตว์ชั่วร้ายนี้แข็งแกร่งเกินไป ความสามารถอย่างข้าไม่สามารถต้านทานได้ ตอนนี้พระอาจารย์ฮุ่ยหย่วนก็กำลังออกเดินทางไปที่ใดสักแห่ง ขณะที่พระอาจารย์ฮุ่ยเหนิงนอนป่วยอยู่บนเตียงและไม่สามารถลุกขึ้นได้ ไม่มีใครในวัดเซียงกั๋วที่สามารถต่อสู้กับสัตว์ร้ายนั้นได้ สิ่งที่กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงพูดในตอนนี้มีเหตุผล ถ้าสามารถเชิญใครสักคนมาได้ ก็น่าจะเป็นนักพรตเต๋าขับไล่วิญญาณ เขาสามารถเปิดแท่นบูชาเพื่อฝึกฝนวิชา และเปิดคัมภีร์เทศนาให้กับคนรากหญ้า ไม่แน่ว่าเขาอาจทำให้สิ่งมีชีวิตนี้ปรากฏขึ้นได้!”
คำพูดของพระอาจารย์ฮุ่ยฟางมีเหตุผล และไทเฮาก็รีบตอบตกลง “เช่นนั้นไปเชิญนักพรตเต๋ามา!”
เนื่องจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจเหล่านี้ และทรงสนับสนุนว่าชาวโลกไม่ควรเชื่อเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีนักพรตเต๋าเพียงผู้เดียวที่สามารถพบได้ในเมืองหลวง!
คนในวังรีบเชิญป้านเยว่เหล่าเต้ามา
ป้านเยว่เหล่าเต้ารู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายใจ หลังจากได้พบฮ่องเต้และไทเฮาก็กล่าวว่า “ฝ่าบาท ไทเฮาเหนียงเหนียง โปรดอนุญาตให้เหล่าเต้าดูรอบ ๆ ก่อน”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปรอบ ๆ เหมือนที่พระอาจารย์ฮุ่ยฟางทำเมื่อครู่
หลังจากดูที่ด้านนอกตำหนัก เขาก็กลับมาในตำหนักอีกครั้งพร้อมความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เหล่าเต้าไม่เคย…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปทางกู้เสี่ยวหวานอีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉียบคม
ป่านเยว่เหล่าเต้าผู้นี้อายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว ดวงตาของเขาก็มีประกายบางอย่าง ซึ่งกู้เสี่ยวหวานสามารถมองเห็นความเฉลียวฉลาดในดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน
เดิมทีกู้เสี่ยวหวานคิดว่านางมองผิด แต่เมื่อนางต้องการดูอีกครั้ง นางก็เห็นว่าป้านเยว่เหล่าเต้าคุกเข่าลงแล้ว เสียงของเขาสั่นคลอน “ฝ่าบาท ไทเฮาเหนียงเหนียง สิ่งชั่วร้ายนี้ทรงพลังจริง ๆ ข้า ต้อง… ต้องกำจัดมันให้เร็วที่สุด มิฉะนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อฮองเฮาเหนียงเหนียงเท่านั้น แต่ยัง…”
ป้านเยว่เหล้าเต้าไม่ได้บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไทเฮาก็ไม่กล้าฟังอีกต่อไป เพราะกลัวว่าผลที่ตามมาจากสิ่งที่เขาพูดจะเหมือนกับที่พระอาจารย์ฮุ่ยฟางพูดเมื่อครู่
ตอนนี้นางเชื่อแล้ว “ข้ายังขอให้ท่านทั้งสองคนเปิดแท่นบูชาโดยเร็วเพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายนั้น!”
พระสงฆ์หนึ่งรูปและนักพรตเต๋าเริ่มเปิดแท่นบูชานอกห้องบรรทมของฮองเฮา
พระอาจารย์ฮุ่ยฟางนั่งหลับตาและพนมมือบนฟูก โดยมีพระหนุ่ม 9 รูปนั่งล้อมเป็นรูปวงกลมรอบตัวเขา พวกเขาอยู่ในอิริยาบถเดียวกับพระอาจารย์ฮุ่ยฟางโดยปิดตาและมือประสานกัน ในขณะที่มีคำพูดราวกับกำลังท่อบทสวดออกจากปาก
ในทางกลับกัน ป้านเยว่เหล่าเต้าที่อยู่ข้าง ๆ มีทุกอย่างตั้งแต่ดาบไม้ท้อ และผ้ายันต์สีเหลือง ซึ่งตอนนี้เขากำลังโบกดาบไม้ท้อ และสวดมนต์ไปด้วย “เทพเจ้าเต๋าและสิ่งชั่วร้ายจงรับฟังข้า ไท่ซั่งเหล่าจวินจงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ปีศาจและวิญญาณร้ายจงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว … โอมมม …”
กู้เสี่ยวหวานดูปรมาจารย์ทั้งสองร่ายคาถา โดยคิดว่าตนเองเคยดูทีวีมามากในชีวิตที่แล้ว และสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่เรื่องแปลก
นางมีความรู้สึกไม่ดีขมุกขมัวอยู่ในใจ และรู้สึกอยู่เสมอว่าทุกสิ่งในตอนนี้ดูเหมือนจะมีใครบางคนจงใจทำ แต่คนผู้นั้นคือใครกัน? ใครต้องการชีวิตฮองเฮาและองค์ชาย? คนผู้นั้นเป็นใครกัน?
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกไม่สบายใจ จึงหาข้ออ้างเพื่อขอตัวออกมาว่าขาของนางอ่อนแรงเล็กน้อย จากนั้นก็กลับไปที่ห้องบรรทมของฮองเฮาเหนียงเหนียง
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ข้างนอก ห้องบรรทมของฮองเฮายังคงปิดแน่น กระถางธูปเคลือบทองขนาดเล็กยังคงเผาไหม้ ตัวธูปปล่อยควันสีเขียวออกมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่ากำลังจะมอดไหม้ แต่เหตุใดกลิ่นถึงแรงขึ้น ใครเป็นคนเพิ่มเครื่องหอมในนั้น?
“เครื่องหอมนี้ทำจากสิ่งใด?” กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าหลังจากสูดกลิ่นเครื่องหอมนี้ไปสองสามครั้ง นางก็รู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ได้ และทำให้อารมณ์ของนางสงบลง
“ทูลองค์หญิง กำยานนี้เป็นสิ่งที่ฮองเฮาใช้อยู่เสมอ โดยบอกว่าหากนางไม่จุดกำยานนี้ จะรู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ ดังนั้นจึงไม่เคยให้ขาด จุดกำยานทั้งกลางวันและกลางคืน!” นางกำนัลที่อยู่ถัดจากฮองเฮาตอบอย่างเร่งรีบหลังจากได้รับข้อสงสัยของกู้เสี่ยวหวาน
อันเสินเซียง กำยานระงับประสาท? กู้เสี่ยวหวานมองไปที่เครื่องหอมนั้นด้วยความงุนงง และเห็นว่ามีผงแป้งโรยอยู่ด้านนอกของกระถางธูปปิดทอง จึงรีบเปิดมัน แต่รู้สึกว่าด้านนอกของธูปมันเยิ้ม ราวกับว่ามันแช่น้ำมันมาสักพัก
ทิงอินและทิงเหยียนคอยเฝ้าอยู่ข้างแท่นบรรทมของฮองเฮาตลอดเวลา และมองฮองเฮาด้วยความทุกข์ใจ ได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมตาเป็นครั้งคราว กู้เสี่ยวหวานแอบห่อผงที่โรยรอบกระถางธูปปิดทองด้วยผ้าเช็ดหน้าและซ่อนไว้ในอก
แต่เมื่อครู่ที่ดมมีกลิ่นแปลก ๆ ไม่ว่ามันจะเป็นกลิ่นอะไรก็ตาม แต่มันทำให้คนไม่สบาย!
กู้เสี่ยวหวานคิดอะไรบางอย่างในใจ นางตกใจมากเมื่อคิดว่าสิ่งนี้มาปรากฏในพระราชวังได้อย่างไร
และในเวลานี้ นางกำนัลฮวาเหลียนผู้ซึ่งบีบคางของฮองเฮาและถวายยาให้ฮองเฮาในตอนนั้น ก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมถ้วยโอสถในมือของนาง
“ท่านอาทิงอิน ท่านอาทิงเหยียน ถึงเวลาที่ฮองเฮาจะต้องเสวยโอสถแล้ว!” นางกำนัลผู้นั้นเข้ามาพร้อมถาดอย่างระมัดระวัง ทิงอินและทิงเหยียน รีบเช็ดมุมตาด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วประคองฮองเฮาเหนียงเหนียงขึ้นนั่งเพื่อถวายยา นางรับใช้คนหนึ่งถือถ้วยโอสถ ส่วนอีกคนก็รับหน้าที่ถวายยาให้ฮองเฮา
หลังจากที่นำยาเข้ามาถวาย นางกำนัลก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความเคารพทิงอินและทิงเหยียน แต่เนื่องจากนางทั้งสองไม่สามารถถวายยาให้กับฮองเฮาได้สำเร็จและมีความทุลักทุเล จึงมีความกังวลเป็นอย่างมาก และมองไปที่นางกำนัลข้าง ๆ พร้อมกับส่งเสียงตำหนิ “ยังไม่รีบมาช่วยกันอีก!”
นางกำนัลรีบพุ่งตัวไป และเช่นเคยนางบีบคางของฮองเฮาด้วยมือทั้งสองข้าง และฮองเฮาเหลิ่งก็เปิดปากออก จากนั้นยาน้ำสีเข้มก็ได้ไหลลงคอไปในที่สุด
เสียงบทสวดและการปฏิบัติภายนอกเริ่มเร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงก็เร่งมากขึ้น ซึ่งในขณะที่กู้เสี่ยวหวานกำลังเฝ้าดูฮองเฮารับยาอย่างจริงจัง ทันใดนั้นดวงตาของฮองเฮาเหลิ่งก็เปิดขึ้น จากนั้นเธอก็แผดเสียงร้องออกมา ฮองเฮากรีดร้องเสียงดังและรุนแรง “วิญญาณร้าย…วิญญาณร้าย…”
ประตูห้องบรรทมถูกเปิดออกกว้างจากด้านนอก พระอาจารย์ฮุ่ยฟางและป้านเยว่เหล่าเต้ารีบเข้ามาในเวลานี้ พร้อมตะโกนอย่างเดือดดาล “หายนะ เร็วเข้า!”
มือของพระอาจารย์ฮุ่ยฟางและดาบของป้านเยว่เหล่าเต้าชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานในเวลาเดียวกัน ทำให้คนที่ตามมาติด ๆ หน้าซีดด้วยความตกใจ!