ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2059 มีสิ่งแปลกปลอม
บทที่ 2059 มีสิ่งแปลกปลอม
ป้านเยว่เหล่าเต้าดวงตาเบิกกว้าง พระอาจารย์ฮุ่ยฟางที่อยู่ด้านข้างรีบพูดว่า “ฮู้กั๋วจวิ้นจู่ คำพูดนี้ไม่ถูกต้อง ดาวหายนะที่มีวิญญาณชั่วร้ายอยู่ในร่าง แม้ว่าตอนนี้นางจะยังไม่ทำอะไรท่าน ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตมันจะไม่เกิดขึ้น อย่างเช่นฮองเฮาเหนียงเหนียงที่ปลอดภัยดีมาโดยตลอด แต่เมื่อทรงมีพระครรภ์ ร่างกายก็อ่อนแอลงมาก เป็นโอกาสเหมาะที่ดาวหายนะมีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากมัน ถ้าไม่กำจัดมัน ข้าเกรงว่ามันจะเป็นอันตรายต่อฮองเฮา!”
ถานอวี้ซูต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่วังกุ้ยเฟยก็แทรกขึ้นมา “ฮู้กั๋วจวิ้นจู่ ท่านเพิกเฉยต่อชีวิตของฮองเฮาและองค์ชายเพียงเพื่อปกป้องกู้เสี่ยวหวานหรือ ฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน มีสถานะสูงส่ง ท่านต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตของฮองเฮาเหนียงเหนียง แม้ว่าจะต้องให้ข้าขูดกระดูกและแลเนื้อข้าก็ไม่ลังเล ยิ่งกว่านั้น ดวงดาวหายนะผู้เดียวจะทำร้ายฮองเฮา หากท่านเลือกปกป้องนาง ถือว่าท่านกำลังเดิมพันกับแผ่นดินนี้และชีวิตของฮองเฮาเหนียงเหนียง เจตนาคืออะไรหรือ ฮองเฮาทรงรักและปฏิบัติต่อท่านเหมือนคนในครอบครัว”
“ข้า…” ถานอวี้ซูรู้สึกกังวล เพราะนางไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาหักล้างกับวังกุ้ยเฟย
กู้เสี่ยวหวานลูบหลังถานอวี้ซูและพูดเบา ๆ ว่า “อวี้ซู เจ้ากลับไปก่อน…”
“ท่านพี่…” ถานอวี้ซูปฏิเสธและพูดออกมาอย่างเป็นทุกข์
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เป็นอะไร!” กู้เสี่ยวหวานแอบกระซิบข้างหูของถานอวี้ซู หลังจากพูดเสร็จ นางก็เห็นสีหน้าของถานอวี้ซูเปลี่ยนไปอย่างมาก นางทั้งดีใจและงงงวย ถานอวี้ซูยิ้มและพยักหน้าอย่างหนัก จากนั้นก็ปล่อยมือของกู้เสี่ยวหวานและจากไปอย่างไม่เต็มใจ
นางเป็นดาวหายนะหรือ เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นว่าพระสงฆ์เริ่มล้อมรอบตัวนางและเริ่มท่องบทสวดบางอย่าง ในขณะที่ป้านเยว่เหล่าเต้าเทน้ำมนต์ที่ผ่านการพิธีลงที่เท้าของกู้เสี่ยวหวาน!
กู้เสี่ยวหวานไม่เกรงกลัว นางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น โดยที่สีหน้าของนางก็ยังคงเรียบเฉยและเย็นชาอยู่อย่างนั้น ในขณะที่นางเผชิญกับอันตรายนางก็ยังไม่มีความหวาดหวั่น
“ทูลฝ่าบาท ไทเฮาเหนียงเหนียง ถ้าเสี่ยวหวานเป็นดาวแห่งความชั่วร้าย และเป็นเหตุให้ฮองเฮาทรงประชวร เสี่ยวหวานก็สมควรตาย หากการทำเช่นนั้นสามารถรักษาชีวิตของฮองเฮาเอาไว้ได้!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างมั่นใจ
วังกุ้ยเฟยเย้ยหยัน “เจ้าคือดาวแห่งวิญญาณชั่วร้าย ไม่เพียงแต่เจ้าจะต้องตายเท่านั้น แต่เจ้าจะถูกบดขยี้จนแหลก และจะไม่มีวันเกิดใหม่ตลอดไป!”
ขันทีฉียืนอยู่ข้างหลังจักรพรรดิ มองดูกู้เสี่ยวหวานด้วยความเศร้าโศกลึก ๆ ในดวงตาของเขา
ถานอวี้ซูและองค์หญิงลี่หัวเริ่มร้องไห้ เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวานพวกนางแทบไม่เชื่อและไม่กล้าขอความเมตตาต่อฮองเฮาที่ยังคงประทับอยู่บนแท่นบรรทม… แต่หากว่านั่นเป็นการช่วยฮองเฮาเหนียงเหนียงได้จริง ๆ…
วังกุ้ยเฟย “เร็วเข้า รีบนำตัวนางผู้นี้ออกไปโดยเร็ว!”
ขันทีฉีก็รีบเข้ามา กู้เสี่ยวหวานไม่รู้สึกกลัว และมองไปที่ท่าทางประหม่าของวังกุ้ยเฟยพร้อมแสยะยิ้ม กู้เสี่ยวหวานกล่าวออกมาว่า “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ก่อนที่เสี่ยวหวานจะถูกคุมตัวไป มีบางอย่างที่ข้าไม่รู้ และอยากจะถามกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง!”
“อะไร?”
วังกุ้ยเฟยไม่คาดคิดว่าครั้งนี้กู้เสี่ยวหวานยังคงมีท่าทีสงบนิ่ง จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่นางก็ต้องรักษาท่าทีและกล่าวว่า “พวกเจ้ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบพานางออกไป เพื่อไม่ให้ฮ่องเต้และฮองเฮาที่ประทับอยู่ที่นี่ได้รับอันตราย!”
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ผู้ที่ได้รับคำสั่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ทูลฮ่องเต้ ก่อนที่เสี่ยวหวานจะจากไป มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ชัดเจน เมื่อเรื่องนี้ชัดเจนแล้ว เสี่ยวหวานจะไม่เสียใจกับโทษที่เสี่ยวหวานได้รับ!”
ฮ่องเต้หลับตาและพยักหน้า “เจ้าว่ามา!”
กู้เสี่ยวหวานหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาอย่างค่อย ๆ และเปิดมันอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มอบให้หมอหลวงห่าวเหลียนซึ่งอยู่ข้างนาง “ท่านหมอหลวงห่าวเหลียน ท่านเป็นหมอหลวงคนเดียวที่ข้าสามารถไว้วางใจในวังแห่งนี้ ได้โปรดช่วยดูให้ที นี่มันคืออะไรหรือ”
วังกุ้ยเฟยเหลือบมองมันและพูดด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “นั่นคือเครื่องหอมที่มีวางอยู่ทั่ววัง มีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ!”
“มันคือเครื่องหอมหรือ ข้าเห็นผงนี้มันหกอยู่ในบริเวณที่จุดเครื่องหอมของฮองเฮาเมื่อครู่!”
ทิงเหยียนก็มองดูและพูดว่า “นี่คือเครื่องหอมที่ทำให้ผ่อนคลายของฮองเฮา! นางกำนัลคงประมาททำมันเลอะเทอะออกมาตอนที่กำลังถวายเครื่องหอม!”
กู้เสี่ยวหวานฟังคำพูดของท่านอาทิงเหยียนและพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาทิงเหยียน นางกำนัลในห้องบรรทมของฮองเฮาล้วนได้รับการฝึกฝนให้รับใช้ที่นี่เป็นอย่างดี สตรีในราชสำนักทุกคนต้องมือเท้าสะอาด และทำสิ่งต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนเครื่องหอมเท่านั้น ยังทำมันหกออกมา เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยหรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น นางก็รีบพูดอย่างจริงจัง “ไม่เคย นางกำนัลฮวาน่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการถวายเครื่องหอม โดยปกติแล้วนางจะเป็นคนเข้ามาเปลี่ยนเครื่องหอมทุกวัน และระมัดระวังมือและเท้าของนางเสมอ และไม่เคยทำผงเครื่องหอมนี้หกเลย!”
“แปลกจริงเชียว การเปลี่ยนผงเครื่งหอมในวันนี้ก็เหมือนกับในอดีต ทำไมวันนี้ถึงประมาทและทำผงเครื่องหอมหกออกมาข้างนอกได้? และมีจำนวนค่อนข้างมาก แม้แต่แท่นวางก็สกปรกโดยไม่ได้รับการทำความสะอาด!” กู้เสี่ยวหวานถามออกไป โดยสีหน้าของนางสงบนิ่งอยู่เสมอ และยังคงกำผงนั้นไว้ในมือ “กลิ่นนี้หอมดี ท่านอาลองสูดดมดูสิ”
ฮ่องเต้และไทเฮารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานสงบนิ่งและคอยถามเกี่ยวกับผงกำยานนี้ “เสี่ยวหวาน มันมีอะไรผิดปกติหรือ?”
วังกุ้ยเฟยตะคอกกลับและพูดว่า “มันจะมีปัญหาอะไรได้ มันเป็นเพียงเครื่องหอมผ่อนคลายที่ฮองเฮาใช้ในวันธรรมดาทั่วไป ข้าคุ้นเคยกับกลิ่นนี้เป็นอย่างดี และข้าก็สั่งมามากมายเพื่อใช้ในวังด้วย!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้เสี่ยวหวานก็มองไปที่นาง พร้อมกับพยักหน้าและพูดว่า “สิ่งนี้คืออันเสินเซียง หรือยากล่อมประสาท!”
วังกุ้ยเฟยเย้ยหยันและพูดว่า “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าพูดอะไรอีก เจ้ากำลังถ่วงเวลาสินะ ดวงดาวหายนะอย่างเจ้าคิดว่าจะมีใครช่วยเจ้าได้หรือ”
วังกุ้ยเฟยเย้ยหยัน เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังคงพูดอยู่ นางก็คิดว่านางต้องทำการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับสัตว์ร้ายที่ติดอยู่ในตัวนาง
“เจ้าคือดวงดาวแห่งปีศาจร้าย เจ้าทำร้ายได้แม้กระทั่งพ่อแม่ของตัวเอง และตอนนี้เจ้าเข้ามาอยู่ในวัง และต้องการทำร้ายฮองเฮา ในอนาคตเจ้าก็จะลงมือทำลายทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ฮ่องเต้แห่งต้าชิง ดวงดาวแห่งปีศาจร้ายอย่างเจ้า ขังเจ้าเอาไว้เฉย ๆ ก็ไม่เป็นผลดีต่อต้าชิง รีบลงมือจัดการนางผู้นี้ซะ!”
“ไม่สิ…”
“ช้าก่อน!”
สองเสียงตะโกนแทบจะพร้อมกัน “กลิ่นนี้ผิดปกติ!”
หมอหลวงห่าวเหลียนและทิงเหยียนพูดพร้อมกันด้วยความประหลาดใจอย่างมาก “มีสิ่งอื่นอยู่ในเครื่องหอมนี้ด้วย!”
ฮ่องเต้ตกตะลึงและเดินลงจากที่นั่ง “เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องหอมนี้”
หมอหลวงห่าวเหลียนยื่นมือออกมาและพูดว่า “กลิ่นหอมนี้ใช้สำหรับการระงับประสาทหรือการผ่อนคลาย แต่มันค่อนข้างมันเยิ้ม ดูเหมือนว่า…”