ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2061 ข้าทำทุกอย่างเพื่อฮองเฮา
บทที่ 2061 ข้าทำทุกอย่างเพื่อฮองเฮา
วังกุ้ยเฟยเย้ยหยันในใจ กู้เสี่ยวหวานมีหลักฐานอะไรที่แสดงว่ามีคนวางแผนทำร้ายฮองเฮา? เป็นไปได้อย่างไร!
กู้เสี่ยวหวานค้อมตัวลง “เสี่ยวหวานขอบพระทัยฮ่องเต้และไทเฮา!”
จากนั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานเดินอย่างรวดเร็วไปที่กระถางเครื่องหอมเคลือบทองขนาดเล็ก และหยิบผงที่อยู่ข้างในออกมา “ท่านหมอหลวงห่าว ช่วยข้าดูผงเครื่องหอมนี้หน่อย…”
หมองหลวงห่าวเหลียนมองไปที่ฮ่องเต้ ก็พบว่าเขาพยักหน้าอนุญาต จากนั้นเขาก็เดินมาหากู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว หยิบผงเครื่องหอมขึ้นมาและพูดว่า “เครื่องหอมนี้เหมือนกับของเมื่อครู่ และมีน้ำมันอยู่ในนั้น….”
กู้เสี่ยวหวานถามว่า “รบกวนท่านหมอหลวงห่าวลองสูดดมกลิ่นเครื่องหอมที่อยู่ตรงหน้า ว่ามันมีอะไรผิดปกติไปหรือไม่?”
หมอหลวงห่าวเหลียนสูดดมและขมวดคิ้ว “กลิ่นนี้…ทำไมมันมีกลิ่นแปลก ๆ นี้ได้ เครื่องหอมนี้มีกลิ่นหอม แต่มันก็เหมือนกลิ่นบางอย่าง เป็นกลิ่น…”
“ท่านเคยได้กลิ่นแบบนี้ไหม” กู้เสี่ยวหวานถามต่อไป
หมองหลวงห่าวเหลียนส่ายหัวและกวักมือเรียกหมอหลวงท่านอื่นเข้ามา หลังจากที่หมอหลวงได้ดมกลิ่นนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นกลิ่นที่ไม่น่าสูดดม
“สิ่งนี้คืออะไร?”
“ไม่รู้สิ มันมีกลิ่นแปลก ๆ ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน!”
เมื่อเห็นว่าหมอหลวงไม่รู้ว่ามันคืออะไร วังกุ้ยเฟยก็ยิ้มและพูดว่า “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าถามหมอหลวงสองสามคนเกี่ยวกับอันเสินเซียง พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร อันเสินเซียงนี้กลิ่นคล้ายกันไปหมด เจ้าจะมัวถ่วงเวลาอะไรอยู่หรือ!”
“ข้าไม่ได้ถ่วงเวลาให้ยืดเยื้อ แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เครื่องหอมที่กล่าวว่าทำให้ผ่อนคลายนี้แตกต่างจากเครื่องหอมทั่วไป!”
กู้เสี่ยวหวานอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“ทูลฝ่าบาท ข้าพูดเรื่องเครื่องหอมได้เพียงแค่นี้ แล้วก็มีหลักฐานบนพระวรกายของฮองเฮาด้วย!”
“ไร้สาระ ฝ่าบาท ท่านห้ามให้นางเข้าใกล้ฮองเฮาเด็ดขาด ยิ่งเข้าใกล้ฮองเฮามากเท่าไร ความเจ็บป่วยของฮองเฮาก็จะยิ่งแย่ลงเท่านั้น” พระอาจารย์ฮุ่ยฟางพูดอย่างเร่งรีบหลังจากได้ยินเรื่องนี้
กู้เสี่ยวหวาน “เอาล่ะ ในเมื่อข้าเข้าใกล้ฮองเฮาไม่ได้ ก็เหมือนเดิม ท่านอาทิงอิน ท่านอาทิงเหยียน ได้โปรดปลดคอเสื้อของฮองเฮาด้วย!”
“เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าต้องการที่จะใส่ร้ายฮองเฮาในที่สาธารณะหรืออย่างไร?”
วังกุ้ยเฟยตะโกนทันที “ฮองเฮาสูงศักดิ์ จะปล่อยให้เจ้ามากระทำการหยาบคายได้อย่างไร…ฝ่าบาท…”
วังกุ้ยเฟยยังพูดไม่จบ แต่ก็ได้ยินฮ่องเต้ตรัสว่า “เจ้าทั้งสอง ปลดคอเสื้อของฮองเฮาออก!”
หลังจากที่ทิงเหยียนและทิงอินปลดกระดุมเสื้อของฮองเฮาแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็พูดอีกครั้ง “ท่านอาทั้งสอง ช่วยดันคางของฮองเฮาเหนียงเหนียงขึ้นหน่อย…”
ทั้งสองทำตามสิ่งที่นางบอกทันที ทันใดนั้นรอยดำคล้ำที่ถูกบีบก็ปรากฏให้เห็นทันที “นี่คืออะไร ทำไมใต้คางของฮองเฮาถึงเป็นเช่นนี้” ทิงเหยียนและทิงอินอุทาน เมื่อเห็นเช่นนี้ฮ่องเต้และไทเฮาก็โกรธเช่นกัน “ข้ารับใช้ผู้นี้กล้าหาญมาก นางกล้าที่จะทำร้ายร่างกายฮองเฮา ไปนำตัวนางกำนัลผู้นั้นมาที่นี่!”
“มีคนกระโดดลงไปในบ่อน้ำ…”
จู่ ๆ ก็มีเสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังมาจากข้างนอก “ฮวาเหลียนกระโดดลงไปในบ่อน้ำ!”
ฮวาเหลียนเป็นคนบีบคางของฮองเฮาในขณะที่ทำการถวายโอสถ! ฮวาน่งตะโกนอย่างตื่นตกใจ ทำให้ทุกคนนั้นตื่นตระหนก
วังกุ้ยเฟยที่คุกเข่าอยู่ที่นั่นมีสีหน้าตื่นตระหนก!
ฮวาเหลียนตายแล้ว ไม่มีหลักฐานจริง ๆ!
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ฮวาน่งที่เกือบจะเป็นลมแล้วถามด้วยความเย้ยหยัน “เจ้าแน่ใจหรือว่าฮวาเหลียนกระโดดลงไปด้วยตัวเอง”
ฮวาน่งพยักหน้า “ทูลฮ่องเต้ ไทเฮาเหนียงเหนียง ข้า…ข้า…ข้าเห็นฮวาเหลียนกระโดดลงไปด้วยตาของข้าเอง!”
“เจ้าเห็นคนกระโดดลงไปในบ่อน้ำด้วยตาของเจ้าเอง แต่เจ้าไม่ได้หยุดนาง เจ้าเองก็ถือได้ว่าเป็นฆาตกรเช่นกัน!” กู้เสี่ยวหวานขู่
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าอย่าสร้างความร้าวฉานจะดีกว่า เจ้าจะให้นางช่วยฮวาเหลียนอย่างไร กระโดดลงไปช่วยนางหรือ!” วังกุ้ยเฟยตะโกนอย่างโกรธจัด
“แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอาการประชวรของฮองเฮาอย่างไร!”
เสียงตะโกนโกรธของวังกุ้ยเฟยไม่ได้ทำให้กู้เสี่ยวหวานโกรธ กู้เสี่ยวหวานหัวเราะและพูดว่า “วังกุ้ยเฟยเห็นอกเห็นใจคนรับใช้ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นผู้ที่ทำให้ฮองเฮาได้รับบาดเจ็บ! ฮวาเหลียนผู้นี้มีความคิดชั่วร้าย ใช้เล็บของนางบีบจนกรามของฮองเฮาได้เลือด ท่านว่าจิตใจต่ำทรามเช่นนี้ ควรทำงานรับใช้ในวังต่อไปหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่สมควรอยู่ต่อ หรือว่าที่นางต้องกระโดลงไปในบ่อน้ำเป็นเพราะนางได้ยินว่าเจ้ากำลังจะสอบปากคำนาง นางจึงกระโดดลงไป เพราะเจ้ายืนยันว่าคนร้ายเป็นนางไม่ใช่หรือ!”
วังกุ้ยเฟยมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างเย็นชา “เจ้ามีหลักฐานไม่ใช่หรือ? หลักฐานของเจ้าอยู่ที่ใด? เจ้ายังคงประวิงเวลาครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าคิดจะเอาชีวิตฮองเฮากับองค์ชายหรืออย่างไร?”
กู้เสี่ยวหวานโบกมือของนาง “ไม่ ข้าแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ขณะที่ข้ากำลังจะเผชิญหน้ากับนาง นางก็มาเสียชีวิตลง มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่นางตาย!”
ฮวาเหลียนตายแล้ว เพราะนางทำไม่ดีต่อฮองเฮาเหนียงเหนียง นางเลยชิงฆ่าตัวตายเพื่อหนีโทษที่ควรได้รับ และพอมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็กลายเป็นกู้เสี่ยวหวานเป็นคนโยนความผิดให้กับนางและเป็นต้นเหตุให้นางตาย!
คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คิดมาอย่างรอบคอบจริง ๆ!
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร มันก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อกู้เสี่ยวหวาน!
“ท่านหมอหลวงห่าว เชิญท่านมาดูร่องรอยการบาดเจ็บของฮองเฮาว่าท่านเห็นอะไรหรือไม่” กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจวังกุ้ยเฟย และถามหมอหลวงห่าวเหลียนโดยตรง “บาดแผลนี้เล็กมาก…”
“ถูกต้อง บาดแผลเล็กมาก บางทีนางกำนัลอาจบีบจนเลือดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ และตอนนี้ฮองเฮาก็คลุ้มคลั่งไปแล้ว นางประมาทเป็นอย่างมาก!” วังกุ้ยเฟยกล่าว
“การที่เข้ามาเป็นนางกำนัล แม้มันจะเกิดความผิดพลาดหรือความไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่น่าสามารถทำลายร่างกายของฮองเฮาได้ วังกุ้ยเฟยท่านคิดถึงฮองเฮาอยู่เสมอ แต่เหตุใดเมื่อฮองเฮาเกิดมีบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บ วังกุ้ยเฟยกลับพยายามพูดแก้ต่างให้นางกำนัลผู้นั้นหรือ?” กู้เสี่ยวหวานเย้ยหยันเมื่อเห็นว่าวังกุ้ยเฟยพูดแก้ตัวให้ฮวาเหลียนที่ตายแล้วอยู่เสมอ
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ฮ่องเต้และไทเฮาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขามองไปที่วังกุ้ยเฟยด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นฮ่องเต้และไทเฮามองมาที่นาง วังกุ้ยเฟยก็รีบอธิบาย “ทูลฝ่าบาท ไทเฮาเหนียงเหนียง ข้าวังกุ้ยเฟย…ข้าแค่คิดว่ากู้เสี่ยวหวานอาจจะพูดจาไปเรื่อยเพื่อต้องการประวิงเวลา แต่ไม่ได้อยากหาตัวคนร้ายตัวจริง มันก็จะพาลให้เสียเวลา ในขณะนี้ฮองเฮาทรงอ่อนแอมาก ข้า…ข้า… รู้สึกทุกข์ใจ แต่กู้เสี่ยวหวานรู้ได้อย่างไรหรือว่านางกำนัลผู้นั้นเป็นคนลงมือทำจริง ๆ หรือแค่หาเรื่องมาใส่ร้ายนาง ข้าขอความเมตตาจากฝ่าบาทด้วย ข้าทำทุกอย่างเพื่อฮองเฮาจริง ๆ!”