ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2064 ชื่นชมฝ่าบาท
บทที่ 2064 ชื่นชมฝ่าบาท
ทันใดนั้นก็มีคนมาหามฮองเฮาออกไปทันที ถึงแม้ว่าฝ่าบาทจะเป็นห่วงความปลอดภัยของฮองเฮา แต่ว่าตอนนี้เขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องจัดการ!
“เสี่ยวหวาน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใดที่วางยาพิษ?” ไทเฮาถาม “คนผู้นี้คุ้นเคยกับเกสรดอกม่านถัวหลัวเช่นนี้ และยังรู้วิธีการใช้น้ำมันศพมาทำเครื่องหอม จะต้องเข้าใจความร้ายแรงของพิษทั้งสองชนิดนี้เป็นอย่างดีแน่นอน!”
“ไม่ผิด ย่อมต้องเป็นผู้ที่รู้จักสารทั้งสองนี้เป็นอย่างดีแน่นอน ถึงได้คิดใช้วิธีเช่นนี้มาทำร้ายฮองเฮา!” กู้เสี่ยวหวานตอบ “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนี้จิตใจโหดเหี้ยมนัก คิดอยากกำจัดฮองเฮาและองค์ชายในครรภ์มีเจตนาชั่วร้ายนัก!”
“ฮ่า ๆ…”
ทันใดนั้นวังกุ้ยเฟยก็หัวเราะ ไทเฮาได้ยินเสียงหัวเราะที่กำเริบเสิบสานนี้จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “วังกุ้ยเฟย เจ้าทำอะไร?”
“ไทเฮาเพคะ ผู้ร้ายนี้ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ?” วังกุ้ยเฟยชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานพลางยิ้มหยัน “ผู้เดียวที่สามารถมองของสองสิ่งนี้ออกได้ที่นี่ก็มีเพียงกู้เสี่ยวหวาน นางร้องตะโกนจับโจร! นางรู้สรรพคุณของพิษนี้ว่ากลั่นอย่างไร ยังรู้และเข้าใจวิธีการใช้พิษ เรื่องนี้ต้องเป็นนางที่ทำแน่!”
ไม่ผิด ผู้เดียวที่รู้เรื่องน้ำมันศพและเกสรดอกม่านถัวหลัวมีเพียงกู้เสี่ยวหวานเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่หมอหลวงห่าวเหลียนก็ยังไม่รู้จักสองสิ่งนี้ แต่กู้เสี่ยวหวานกลับรู้!
สิ่งต่าง ๆ นี้ส่อเค้าแสดงให้เห็นว่ากู้เสี่ยวหวานก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้น!
“พูดจาเหลวไหล ท่านพี่มีความรู้กว้างขวาง นางรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนชั่วนั้นและช่วยฮองเฮาเอาไว้ แต่เจ้ากลับใส่ร้ายท่านพี่!” ถานอวี้ซูตอบโต้กลับ “ท่านพี่ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้แน่นอน…”
“องค์หญิงอันผิง องค์หญิงอันผิง ท่านโปรดช่วยข้าด้วย ท่านโปรดช่วยข้าด้วย! ปล่อยครอบครัวของข้าไปเถอะ น้ำมันศพที่ท่านเอาให้ข้า ข้าก็เอาใส่ลงในธูปสงบใจแล้ว ฮองเฮาเป็นเช่นนี้อย่างอื่นล้วนไม่เกี่ยวกับข้า ไม่ใช่เรื่องของข้าเลย…” จู่ ๆ ฮวาน่งก็ตะโกนพลางโขกหัวใส่กู้เสี่ยวหวานและร้องขอความเมตตาไม่หยุด พอฟังคำพูดของนางนั้น ดูเหมือนกับว่า…
น้ำมันศพนั่นเป็นกู้เสี่ยวหวานที่ให้นางเอาใส่ในธูปสงบใจ!
วังกุ้ยเฟยกรีดร้อง “เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นผู้ที่มีจิตใจเลวทราม น้ำมันศพนั่นก็เป็นนางที่เอาให้คนใช้ต่ำต้อยผู้นี้ ที่แท้นางจับครอบครัวของนางกำนัลผู้นี้ไปจึงถูกบีบบังคับให้ช่วยทำร้ายความฮองเฮา ฝ่าบาท ไทเฮา พวกท่านต้องแยกแยะให้ชัดเจนนะเพคะ คนดวงหายนะเช่นนี้ถ้าหากให้อยู่ต่อไปแว่นแคว้นนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว!”
วังกุ้ยเฟยตีโพยตีพายอย่างเต็มปากว่ากู้เสี่ยวหวานต้องเป็นผู้ที่วางยาพิษผู้นั้น ฮวาน่งเองก็โขกหัวให้กู้เสี่ยวหวานไม่หยุด แต่ละคำแต่ละประโยคก็บอกว่าเป็นงานที่กู้เสี่ยวหวานให้นางทำ!
เมื่อเห็นฮวาน่งพูดออกมาเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานก็หัวเราะเยาะ “เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้ามาว่าหลังจากที่ข้าเอาน้ำมันศพให้เจ้าแล้ว เจ้าเอาน้ำมันศพไปใส่ลงในธูปสงบใจได้อย่างไร?”
ฮวาน่งได้ฟังก็รีบพูดว่า “ฝ่าบาท ไทเฮา องค์หญิงอันผิงพะ…พูดว่า…นางชื่นชมฝ่าบาท อิจฉาฝ่าบาท ริษยาฮองเฮาที่มีครรภ์มังกรของฝ่าบาทแล้ว…”
ฝ่าบาทได้ยินก็ตกใจมาก รีบมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน ก็เห็นว่ามุมปากนางมีรอยยิ้มบาง ๆ และมองฮวาน่งอย่างเรียบเฉย
ดวงหน้าของนางงดงามดุจภาพวาด เพียงแค่วาดคิ้วกลับงดงามราวเทพเซียนเดินออกมาจากภาพวาด ดวงตาของนางสดใสเป็นประกายราวกับแก้ว ตอนนี้นางก้มหน้าลงเล็กน้อย ขนตาที่หนาดำก็แผ่กระจายอยู่รอบดวงตา ยิ่งทำให้ดวงตาดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น!
กู้เสี่ยวหวานเข้าวังอย่างเร่งรีบในวันนี้ ทั้งร่างจึงสวมเพียงแค่ชุดสีเหลืองอ่อนที่มักจะใส่นอกวัง เอวที่เรียวบางนั้นใช้แรงโอบเพียงครั้งเดียวก็สามารถหักออกได้!
รอยยิ้มของนางนั้นงดงาม มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนได้อาบสายลมอันอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ราวกับว่าเพียงแค่มองไปที่รอยยิ้มนั้น ความเหนื่อยล้าทั่วทั้งกายก็เหมือนถูกปัดกวาดออกไปจนหมดและทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวา!
ฝ่าบาทมองสองครั้งแล้วก็ตกใจมากขึ้น รู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นราวกับจะกระโดดออกมาจากอก ราวกับนางรู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมอง กู้เสี่ยวหวานจึงเงยหน้าขึ้น ฝ่าบาทเห็นเช่นนั้นจึงรีบละสายตาออกไปและไม่กล้ามองอีก!
ส่วนรอยยิ้มจาง ๆ นั้นก็ราวกับจะสลักลึกลงไปในหัวใจของเขาแล้ว
กู้เสี่ยวหวานได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย นางขัดจังหวะคำพูดของนางกำนัลและตะโกนเสียงดังว่า “เหลวไหลไร้สาระ ฝ่าบาทเป็นผู้ปกครองแผ่นดินที่ทุกคนต่างชื่นชม เสี่ยวหวานเป็นน้องสาวบุญธรรมปฏิบัติต่อฝ่าบาทเหมือนเป็นพี่ชายแท้ ๆ ฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดิน ในใจเสี่ยวหวานจึงยิ่งชื่นชมมาก แล้วจะทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้ออกมาได้อย่างไรกัน!”
เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดว่าปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนพี่ชายแท้ ๆ ฝ่าบาทก็เงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็วทันที จากนั้นก็หันหน้าเบี่ยงไปอย่างรวดเร็ว ไทเฮาที่อยู่ด้านข้างมองเพียงแค่แวบเดียวก็ตกใจมากอย่างยิ่งจนลูกประคำที่นับอยู่ในมือหยุดลงทันที!
“เหอะ ผู้ใดจะรู้! คนที่อยู่นอกวังกำลังลือว่าเจ้าเหยียบไหล่ของบุรุษปีนป่ายขึ้นไปทีละขั้น กู้เสี่ยวหวานเจ้าเป็นสตรีสำส่อนใจง่าย เจ้าเข้าใกล้ฝ่าบาทจะไม่มีความคิดอย่างอื่นต่อฝ่าบาทได้หรือ? ถ้าหากไม่ใช่ไทเฮารับเจ้ามาเป็นบุตรสาวบุญธรรม เกรงว่าเจ้าจะเอานิสัยสำส่อนใจง่ายนี้คอยจ้องหาโอกาสใกล้ชิดฝ่าบาทไปนานแล้วสินะ?”
วังกุ้ยเฟยพูดถึงกู้เสี่ยหวานจนสุดจะเหลือทนได้ กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วแน่น ไทเฮาก็ยิ่งโกรธมาก “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไทเฮา หม่อมฉันพูดไม่ผิดนะเพคะ! ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานนั้นแย่มากเพียงใด ท่านไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ว่าหม่อมฉันได้ยินมาว่ากู้เสี่ยวหวานมีความสัมพันธ์กับข้ารับใช้คนหนึ่งในจวนตัวเอง และยังได้ใช้ชีวิตส่วนตัวกับคนผู้นั้น แต่ต่อมาหลังจากที่นางมาถึงเมืองหลวงข้ารับใช้ผู้นั้นก็หายไป คนอื่น ๆ ต่างบอกว่านางวางแผนประทุษร้ายคนผู้นั้นแล้ว แต่กู้เสี่ยวหวานกลับยังพูดเต็มปากเต็มคำว่านางรักเพียงแค่คนผู้นั้น แต่ว่าคนผู้นั้นไปไหนแล้วเล่า? ไทเฮาเพคะ หญิงสาวตัวเล็ก ๆ คนเดียวยังไม่ได้แต่งงานก็เทียวพูดกับคนอื่นไปทั่วว่าตัวเองมีคนที่ชอบพอแล้ว สตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้จะมาเป็นองค์หญิงของต้าชิงเราได้อย่างไร หวังว่าไทเฮาจะตรวจสอบให้ชัดเจน อย่าให้สตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาทำร้ายต้าชิงของพวกเราเด็ดขาด!”
“พูดจาเลื่อนเปื้อนไร้สาระ เจ้าหุบปาก! หุบปาก!” ฝ่าบาทลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห ชี้ไปที่วังกุ้ยเฟยและตะโกนว่า “นางเป็นคนสำส่อนใจง่ายหรือไม่ ข้าย่อมรู้ดีกว่าเจ้า ถ้าหากเจ้ายังพูดจาเลื่อนเปื้อนอีก ข้าจะเอาเจ้าเข้าตำหนักเย็น!”
“ไทเฮาเพคะ…” วังกุ้ยเฟยได้ยินฝ่าบาทกล่าวแทนกู้เสี่ยวหวาน อีกทั้งเพื่อสาวชาวนาที่ต่ำต้อยคนหนึ่งแล้วถึงกับต้องพาตัวเองเข้าตำหนักเย็น ตอนนี้จึงทั้งโกรธและตื่นตระหนก “ท่านดูสิ เพื่อสาวชาวนาที่ต่ำต้อยคนหนึ่ง ฝ่าบาทถึงกับจะเอาหม่อมฉันเข้าตำหนักเย็น ไทเฮาเพคะ ท่านจะต้องตัดสินใจแทนหม่อมฉันนะเพคะ!”