ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2065 ธูปน้ำมันศพทำอย่างไร
บทที่ 2065 ธูปน้ำมันศพทำอย่างไร
วังกุ้ยเฟยคุกเข่าอยู่บนพื้นและตะโกนเสียงดังว่า “ไทเฮา กู้เสี่ยวหวานผู้นี้คือดาวหายนะ ตอนนี้ได้ล่อลวงทำให้ฝ่าบาทสับสนจนไร้สติแล้ว ท่านต้องกำจัดดาวหายนี้! รากฐานของต้าชิงจะต้องไม่ถูกทำลายด้วยมือของนางเด็ดขาด!”
ตอนนี้วังกุ้ยเฟยกลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ในตอนนี้ก็มีคนในวังผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านนอกเห็นฉากนี้เข้าและจากไปอย่างรวดเร็ว พระอาจารย์ฮุ่ยฟางและป้านเยว่เหล่าเต้าที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังวังกุ้ยเฟยก็ตะโกนเสียงดังว่า “ฝ่าบาท เพื่อรากฐานของต้าชิงแล้วจะใจอ่อนใช้อารมณ์ไม่ได้เด็ดขาด ดาวหายนะนี้จะทำลายรากฐานของต้าชิงจริง ๆ! ฝ่าบาท ท่านอย่าใจอ่อนเด็ดขาด…”
ฝ่าบาทไม่ได้ฟังคำพูดของพวกเขา แต่ถามฮวาน่งว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าเพิ่งบอกว่าน้ำมันศพนี้องค์หญิงอันผิงมอบให้เจ้า เช่นนั้นเจ้าก็บอกองค์หญิงอันผิงเสียว่า เจ้านั้นเอาน้ำมันศพใส่ลงไปในธูปสงบใจได้อย่างไร!”
“ข้า…” ฮวาน่งไม่คิดว่าหัวข้อสนทนานี้จะหันกลับมาหาตัวเองอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้นด้วยสายตาหวาดกลัวแล้วจึงรีบก้มหัวลงเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ “ข้า… ตอนนั้นสาวใช้ขององค์หญิงอันผิงเอาน้ำมันศพมอบให้ข้า และบอกข้าว่าขอเพียงแค่เอาน้ำมันศพใส่ลงไปในธูปสงบใจก็สำเร็จแล้ว!”
“งั้นรึ?” กู้เสี่ยวหวานยิ้ม “ท่านอาทิงเหยียน รบกวนท่านไปหยิบธูปสงบใจมาอีกชิ้น น้ำมันศพกับน้ำมันธรรมดาทั่วไปนั้นเหมือนกัน ไม่ได้มีความแตกต่าง รบกวนท่านเอาน้ำมันมาอีกชามหนึ่ง!” หลังจากที่อาทิงเหยียนส่งฮองเฮากลับไปที่ตำหนักไท่ฮุ่ยก็กลับมาแล้ว
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวานจึงรีบไปจัดเตรียมของ ไม่นานก็หยิบธูปสงบใจมาหนึ่งชิ้นและเอาน้ำมันอีกชามหนึ่งมาด้วย
“ฮวาน่ง เจ้าบอกว่าเจ้าใส่น้ำมันลงไปแล้วก็หยิบออกมา เช่นนั้นเจ้าลองดูสิ!”
ฮวาน่งรีบลุกขึ้นยืนและหยิบธูปสงบใจโยนลงในน้ำมัน นางเพิ่งคิดจะตักขึ้นมา แต่ธูปสงบใจนั้นกลับละลายลงในน้ำมันทันที จะอย่างไรก็ไม่สามารถเอาขึ้นมาได้!
“เจ้าเพิ่งจะโยนลงไปเมื่อครู่นี้ เหตุใดจึงเอาขึ้นมาไม่ได้?” กู้เสี่ยวหวานเห็นนางทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่ตักผงธูปขึ้นมาเล็กน้อยและหัวเราะเยาะ
ฮวาน่งนั้นรีบพูดว่า “ข้าจำผิดแล้ว ตอนนั้นข้าใช้ช้อนแล้ววางเอาไว้บนช้อน หลังจากนั้นก็ผ่านน้ำมันศพหนึ่งรอบ!”
“ได้ เช่นนั้นก็เอาช้อนอีกหนึ่งอันให้นาง!” กู้เสี่ยวหวานโบกมือ ทิงเหยียนที่อยู่ด้านข้างก็รีบเอาช้อนมาให้ฮวาน่ง
ฮวาน่งหยิบธูปสงบใจมาอีกหนึ่งอันแล้ววางบนช้อน พอส่งผ่านในน้ำมันจนกรองน้ำมันสะอาด ธูปสงบใจนั้นก็กลายเป็นกองขยะอีกกองหนึ่ง ไม่สามารถทำสำเร็จได้!
“เจ้าใช้เครื่องหอมชนิดนี้เปลี่ยนธูปให้ฮองเฮาหรือ? ท่านอาทิงเหยียนยามปกติที่เปลี่ยนธูปนั้น มีคนเคยตรวจสอบเครื่องหอมที่เปลี่ยนนี้หรือไม่?”
ทิงเหยียน “มีเจ้าค่ะ เพราะว่าเครื่องหอมนั้นเป็นของที่ฮองเฮาใช้เป็นประจำ ดังนั้นทุกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่องหอมนี้ ข้าจะต้องตรวจสอบและเปรียบเทียบอย่างรอบครอบ เมื่อครู่ข้าเพิ่งตรวจสอบธูปนั้นก็ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ และก็ไม่เป็นเช่นนี้ด้วย!
“ดังนั้นฮวาน่ง เจ้าอธิบายให้ข้าฟังหน่อย ข้าเอาน้ำมันศพมอบให้เจ้า แล้วเจ้าเอาใส่ลงในธูปสงบใจได้อย่างไร!” กู้เสี่ยวหวานถามอย่างจริงจัง
ฮวาน่งนั้นเห็นว่าทำมาสองครั้งแล้ว เครื่องหอมที่ทำออกนั้นก็ยังเหมือนกับก้อนโคลนที่แตกละเอียด ตอนนี้แม้แต่ขาทั้งสองก็อ่อนแรงยืนไม่ไหวจนคุกเข่าบนพื้นดังตุ้บ “ขะ…ข้า…จำผิดแล้ว เป็นหลังจากที่เปลี่ยนธูปแล้ว ค่อยเอาน้ำมันศพใส่ลงในกระถางธูป!”
ฮวาน่งนั้นยังอธิบายอยู่ แต่กลับไม่มีผู้ใดฟังคำพูดของนางแล้ว “งั้นรึ? สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เจ้าลืมไปหมดแล้วรึ ความจำของเจ้าช่างดีนัก! สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เจ้าลืมไปหมด เหตุใดเจ้าจึงไม่ลืมว่าน้ำมันศพเป็นข้าที่มอบให้เจ้าเล่า?”
กู้เสี่ยวหวานยิ้มหยัน ฮวาน่งหมอบอยู่บนพื้นด้วยความหวาดกลัวเหมือนกับกองโคลน แม้แต่ร่างกายก็ไม่อาจยืนตรงได้แล้ว…
ตอนนี้ฝ่าบาทเข้าใจแล้วว่าฮวาน่งกำลังใส่ความกู้เสี่ยวหวาน จึงตะโกนว่า “ลากสาวใช้ต่ำทรามผู้นี้ที่ใส่ร้ายองค์หญิงอันผิงออกไปทุบตีให้ตาย!”
ก็มีคนรับใช้ในวังก้าวเข้ามาจับนาง ฮวาน่งกรีดร้องเสียงดังว่า “ฝ่าบาทไว้ชีวิตด้วย ฝ่าบาทไว้ชีวิตด้วย เป็นเพราะมีคน เป็นเพราะมีคนมอบเงินให้แก่ข้า ให้ข้าพูดเช่นนี้…”
“เป็นผู้ใด?” ไทเฮาถาม “สาวใช้ต่ำต้อยเช่นเจ้าช่างกล้าหาญนัก ถึงได้กล้าทรยศหักหลังเจ้านายเพื่อเงิน พูดออกมาว่าผู้ใดเป็นคนซื้อเจ้า ข้าจะฝังร่างให้เจ้าไว้ทั้งตัว!”
“ไทเฮา ข้าไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นผู้ใดเพคะ! กูกูนั้นมอบกล่องธูปสงบใจให้ข้า บอกว่าธูปสงบใจนี้ใช้ดีมาก และยังมอบห้าสิบตำลึงทองให้แก่ข้า ให้ข้าเปลี่ยนธูปอันเดิมของฮองเฮา ตอนนั้น…ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าผีอะไรเข้าสิง ก็…ก็…” ฮวาน่งตะโกนเสียงแหลม
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงต้องผลักเรื่องไปที่องค์หญิงอันผิงด้วย?” ถานอวี้ซูตะโกน
“กูกูผู้นั้นบอกกับข้าว่า… ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นก็โยนความผิดทั้งหมดให้องค์หญิงอันผิง และยังบอกข้าอีกว่าจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นแน่นอน! ตอนนั้นข้าเองก็ไม่กล้า แต่กูกูผู้นั้นรับปากข้าว่าหลังจากสำเร็จแล้วจะส่งข้าออกจากวัง และยังให้ข้าเพิ่มอีกห้าสิบตำลึงทองด้วย ข้าจึง… ไทเฮาเพคะ ห้าสิบตำลึงทองนั้นยังอยู่ใต้เตียงของข้า…”
ขันทีฉีรีบไปดู เพียงไม่นานก็เอาห่อผ้ามาเขย่าลงบนพื้น ทองแท่งสีเหลืองอร่ามห้าอันตกลงบนพื้นสี เป็นห้าสิบตำลึงดังคาด!
“ข้าไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียว เรื่องในวันนี้ข้าไม่รู้ว่าจะทำร้ายฮองเฮาเลย กูกูผู้นั้นบอกเพียงแค่ธูปนี้เป็นธูปแบบใหม่จากนอกวัง ครอบครัวนางทำธูปจึงให้ข้ามอบให้ฮองเฮาลองใช้ดู ต่อไปจะได้ประกาศเชิญชวนลูกค้า!” ฮวาน่งร้องจนน้ำตาอาบเต็มหน้าพลางโขกหัวบนพื้นไม่หยุด หน้าผากที่ขาวสะอาดในไม่ช้าก็เต็มไปด้วยเลือด
ราวกับนางไม่กลัวความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อยและยังคงใช้แรงโขกต่อ
“กูกูผู้นั้นเจ้ารู้จักหรือ?” ขันทีฉีถาม “กูกูในวังมีตั้งมากมาย เจ้าจัดการธูปอยู่ข้างกายฮองเฮา เจ้าช่างกล้าหาญนักที่กล้ารับเอาอะไรจากใคร และกล้าเอาอะไรมามอบให้ฮองเฮาใช้!”
ฮวาน่ง “ข้าเอากลับมาลองใช้เข็มเงินแล้วก็ไม่เป็นไร! ข้า… ข้า…” ฮวาน่งยังคงอธิบาย ในวังหลวงมีข้ารับใช้ตั้งมากมาย ฮวาน่งยังบอกว่าเป็นคนแปลกหนา ถ้าหากต้องไปตามหาก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรที่หาอย่างไรก็คงไม่เจอ!
“ใครก็ได้ ประหารครอบครัวนางทั้งหมด ผู้อื่นจะได้ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง!” ฝ่าบาทรับสั่ง
ฮวาน่งได้ยินก็ยิ่งกรีดร้องคร่ำครวญหนักยิ่งขึ้นและร้องไห้ตะโกนเสียงดังว่า “ฝ่าบาท ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย…” คนรับใช้ที่อยู่ข้างกายจึงรีบลากฮวาน่งออกไป เดิมทีนั้นฮวาน่งยังคงตะโกนอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเลยแม้แต่น้อย!