ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2067 ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือนาง
บทที่ 2067 ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือนาง
จือฉินตะโกนอย่างบ้าคลั่ง นางพูดออกมาอย่างหมดเปลือก ผู้ที่วางแผนทำร้ายฮองเฮาก็คือจือฉิน
ตอนนี้ไทเฮาและฝ่าบาทเองก็โกรธมาก “เข้ามาเร็วเข้า ลากบ่าวชั้นต่ำที่วางแผนทำร้ายองค์ชายและฮองเฮาออกไปหลิงฉือ!”
การหลิงฉือครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้คนตายไม่ได้ แต่สามารรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดได้ จนถึงที่สุดสามารถมองเห็นกองกระดูกมากมายแต่กลับยังมีลมหายอยู่ ช่างโหดร้ายอย่างยิ่ง! แต่จัดการกับคนเช่นนี้ไม่ได้โหดร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว!
มีองครักษ์ก้าวไปข้างหน้า จู่ ๆ จือฉินกลับตะโกนว่า “ดี ในเมื่อไม่สามารถลากฮองเฮาและองค์ชายไปด้วยได้ พระสนมข้าก็คงอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายไม่ได้ ข้าไม่รังเกียจที่จะลากผู้ร่วมผิดอีกคน! กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง เจ้าอยากลงไปเป็นเพื่อนพระสนมข้าหรือไม่เล่า เรื่องนี้เจ้าเองก็มีส่วนด้วย! ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเจ้า ทาสรับใช้เช่นข้าจะเอาเกสรดอกม่านถัวหลัวและน้ำมันศพมาได้อย่างไรกัน!”
สายตาของทุกคนมองไปที่วังกุ้ยเฟยอย่างพร้อมเพียงกัน วังกุ้ยเฟยตกใจมากจึงตะโกนด้วยความหวาดกลัว “พูดเหลวไหล พูดเหลวไหล! ฝ่าบาท นางพูดเหลวไหล นางเป็นหมาบ้าไล่กัดคน หม่อมฉันเปล่า! หม่อมฉันเปล่านะ! ฝ่าบาท บ่าวชั้นต่ำผู้นี้ใส่ความองค์หญิงอันผิง ตอนนี้ก็มาใส่ร้ายหม่อมฉัน ฝ่าบาท ท่านอย่าไปฟังคำพูดเพียงฝ่ายเดียวของบ่าวผู้นี้เด็ดขาด!” วังกุ้ยเฟยรีบตะโกนด้วยสีหน้าหวาดกลัวมาก
“วังกุ้ยเฟย ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าอยากแก้แค้นแทนพระสนมของข้ารึ? เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมรับเล่า? เจ้ายังบอกอีกว่าจะมีการคัดเลือกเร็ว ๆ นี้ ไม่รู้ว่าจะมีสาวงามตั้งเท่าใดที่เข้าวังมา เจ้ายังไม่มีครรภ์มังกร ไม่รู้ว่าจะถูกฝ่าบาทเบื่อหน่ายเมื่อใด ยังบอกว่าต้องอาศัยช่วงนี้รีบตั้งครรภ์มังกร และบอกอีกว่าไม่รู้ฮองเฮาโชคดีอะไร คาดไม่ถึงว่าจะตั้งครรภ์มังกรได้ บอกว่าอิจฉาริษยาฮองเฮา ถ้าหากกำจัดฮองเฮาได้ นางก็เป็นฮองเฮาแล้ว!” จือฉินหัวเราะใหญ่ ก็เห็นใบหน้าของวังกุ้ยเฟยเปลี่ยนจากแดงเป็นขาว เปลี่ยนจากขาวเป็นเขียว
“พูดเหลวไหล พูดเหลวไหล!” วังกุ้ยเฟยตะโกนเสียงดัง “ข้าคำนึงถึงเพื่อฮองเฮา ไม่มีทางทำร้ายฮองเฮา ฝ่าบาท ท่านเชื่อหม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันอ่อนโยนจิตใจดี จะทำร้ายฮองเฮาได้อย่างไรกัน!”
ทั้งสองพูดโต้แย้งกันไปมาในตำหนักเสียงดังมาก “พวกเจ้ายังไม่รีบลากคนบ้าผู้นี้ลงมาอีก นางใส่ร้ายหม่อมฉัน นางใส่ร้ายหม่อมฉัน!”
“เหตุใดนางไม่ใส่ร้ายผู้อื่น แต่มาใส่ร้ายแต่เจ้าเท่านั้น?” ไทเฮาถามอย่างเย็นชา
“ไทเฮา นางทำร้ายฮองเฮาไม่ได้ก็มาทำร้ายหม่อมฉัน!” วังกุ้ยเฟยตะโกนอย่างคับข้องใจ “หม่อมฉันถูกปรักปรำ หม่อมฉันถูกปรักปรำ!”
“วังกุ้ยเฟย เปล่าประโยชน์นักที่ข้าไว้ใจเจ้า หลังจากที่ฮองเฮาตั้งครรภ์ ข้าก็มอบอำนาจครึ่งหนึ่งในการจัดการวังหลังให้เจ้า ไม่คิดว่าเจ้าจะโลภมากจนถึงขนาดต้องการมาแทนที่ฮองเฮา…”
ทันใดนั้นขันทีฉีก็พูดว่า “ไทเฮา ฝ่าบาท คนของตระกูลวังมาบอกว่าต้องการพบกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง และให้คนมาส่งของ บอกว่าต้องส่งให้ถึงมือของกุ้ยเฟย!”
“ตระกูลวังให้คนมาส่งของ? เวลานี้พวกเขาส่งอะไรมา!” ฝ่าบาทได้ยินก็ขมวดคิ้วถาม
“ข้าไม่ทราบ บอกเพียงแค่ว่าจะต้องส่งให้ถึงมือของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง!” ขันทีฉีก้มหัวพูดว่า “ยังบอกอีกว่าเป็นของสำคัญมาก กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงแค่ดูก็รู้แล้ว!”
“หึ วังหยินผู้นี้ช่างกล้านัก ส่งของจนเข้ามาถึงในวังหลวงแล้ว!” ไทเฮายิ้มหยัน “ให้คนเอาเข้ามา ข้าเองก็อยากดูให้ดี ๆ ว่ามันเป็นของอะไร!”
ตอนนี้วังกุ้ยเฟยเองก็แปลกประหลาดใจ ไม่รู้ว่าวังหยินจะส่งของอะไรให้ตัวเอง
หลังจากที่คนมาก็คุกเข่าก้มหัวคำนับแล้วยื่นกล่องไม้ในมือส่งให้วังกุ้ยเฟย “พระสนมกุ้ยเฟย นี่เป็นของที่ฮูหยินบอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องส่งให้ถึงมือของท่าน!”
ผู้ที่มาเป็นสาวใช้คนหนึ่งของตระกูลวัง ทางด้านวังกุ้ยเฟยก็ยังร้องไห้อยู่พลางมองกล่องไม้สีดำที่อยู่ในมือของสาวใช้ด้วยความแปลกใจ “ฮูหยิน? ท่านแม่ นางส่งอะไรมาให้ข้า?”
แน่นอนว่าย่อมต้องถูกส่งมาจากห่าวอิ๋ง!
“บ่าวไม่ทราบ ฮูหยินบอกเพียงแค่ต้องมอบให้ถึงมือของท่าน และบอกว่าให้ท่านเปิดเอง!”
วังกุ้ยเฟยไม่พอใจเล็กน้อย ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วก้าวไปรับกล่องมา จนกระทั่งเปิดกล่องไม้ออกและเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน วังกุ้ยเฟยก็กรีดร้องออกมา
“กรี๊ด…”
กล่องไม้ที่อยู่ในมือพลิกคว่ำ และมีอะไรบางอย่างกลิ้งออกมาจากในกล่องไม้
ในกล่องไม้บรรจุมือข้างหนึ่งและยังมีลูกตาด้วย
“กรี๊ดดด…” วังกุ้ยเฟยกรีดร้องนางได้รับความตกใจไม่น้อย
“นี่คืออะไร? มีอย่างนี้เสียที่ไหนกัน คาดไม่ถึงว่าจะส่งของเช่นนี้มาในวังหลวง ช่างไร้ศีลธรรมนัก!” ไทเฮาเห็นมือข้างหนึ่งและยังมีลูกตาก็ตะโกนทันทีว่า “คนมาเร็ว ปิดล้อมจวนของห่าวซื่อไว้ รอรับการลงโทษ!”
สาวใช้ที่ส่งของนั้นก็ไม่รู้ว่าในกล่องไม้นั้นมีอะไรอยู่ พอเห็นมือและดวงตากลิ้งออกมาจากด้านใน ทันใดนั้นแข้งขาก็อ่อนลงทันทีจนคุกเข่าอยู่บนพื้น “กรี๊ด…”
“มือนี้… มือนี้… เป็นมือของคุณชายน้อย!” สาวใช้มองมือนั้น บนข้อมือมีรอยสีเทา นางจำได้ว่าบนมือคุณชายน้อยก็มีรอยสีเทานี้ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้บนมือนี้…
วังกุ้ยเฟยได้ยินก็มองอย่างตั้งใจ และเห็นว่าบนข้อมือนั้นมีรอยสีเทาครึ่งหนึ่งจริง
นางจำรอยที่อยู่บนมือของน้องชายตัวเองได้ และยังเคยพูดกับน้องชายว่ารอยนี้ออกมาจากท้องของมารดา ในอนาคตถ้าหากน้องชายหายไป นางก็จะตามหาเขาด้วยรอยนี้!
บัดนี้รอยที่คุ้นเคยปรากฏเข้าสู่สายตา ตอนนี้ไม่มีสีเลือดแล้ว รอยสีเทานั้นก็ยิ่งขึ้นเจนมากขึ้น!
“กรี๊ด… เป็นฉิวเอ๋อร์ เป็นฉิวเอ๋อร์…” วังกุ้ยเฟยไม่สนใจกลัวแล้ว คุกเข่าลงบนพื้นหยิบมือเด็กคนนั้นขึ้นมาร้องไห้และตะโกนว่า “ห่าวอิ๋ง เจ้ามันจิตใจชั่วช้า เจ้าฆ่าน้องชายข้า ห่าวอิ๋ง เจ้ามันสารเลว!”
นอกจากนี้ยังมีผ้าเช็ดหน้าที่ออกมาจากกล่อง ขันทีฉีเห็นก็รีบหยิบขึ้นมาเปิดดู และเห็นอักษรหลายตัวด้านบนนั้นด้วยความสยดสยอง!
“หนี้เลือดชดใช้ด้วยเลือด!” ขันทีฉีพูดเงียบ ๆ
วังกุ้ยเฟยได้ยินคำนี้ก็แผดเสียงดังลั่นเหมือนกับเป็นบ้าเสียสติไปแล้ว
“ฉิวเอ๋อร์ ฉิวเอ๋อร์… เป็นพี่สาวที่ทำร้ายเจ้า เป็นพี่สาวที่ทำร้ายเจ้าแล้ว…”
จือฉินเห็นก็หัวเราะเสียงดังว่า “ฮ่า ๆ กรรมตามสนอง กรรมตามสนอง เจ้าเกือบจะฆ่าลูกของฮองเฮา น้องชายของเจ้าก็ถูกแยกชิ้นส่วนทันที มีความสุข มีความสุขนัก!”