ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2071+2072 ข้าเชื่อเขา/อาจจะมองผิดไป
บทที่ 2071 ข้าเชื่อเขา
ถานอวี้ซูเอียงศีรษะมองกู้เสี่ยวหวานด้วยรอยยิ้ม แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา แต่องค์หญิงลี่หัวกลับดึงแขนกู้เสี่ยวหวานและหัวเราะเสียงดัง “พวกเราสามคน ท่านควรจะเป็นคนที่แต่งงานก่อน ท่านเป็นคนบอกเองว่ามีคนรักอยู่แล้ว แล้วทำไมไม่พาเขามาให้เราได้รู้จักว่าคนผู้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร!”
“เขาจะหน้าตาเป็นอย่างไรได้เล่า เขาก็เป็นเหมือนพวกเรานั้นแหละ มีสองตา หนึ่งจมูก และหนึ่งปาก!” กู้เสี่ยวหวาน
“ไม่ไม่ไม่ ท่านป่าวประกาศต่อหน้าคนมากมายว่ามีคนในใจแล้ว ทั้งยังบอกอีกว่าจะไม่แต่งงานกับผู้ใดอีกนอกจากเขา! เมื่อไหร่ท่านจะพาคนผู้นั้นมาเจอพวกข้าล่ะ พี่เขยผู้ขี้เหร่คนนี้ก็คงอยากเจอน้องสาวอย่างพวกเราเหมือนกัน!”
องค์หญิงลี่หัวเรียกว่าพี่เขยอย่างสนิทสนม ทั้งยังเรียกตนเองว่าน้องสาว กู้เสี่ยวหวานจึงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ตนเองเป็นเพียงสาวชาวนาธรรมดา แม้ว่าจะได้ไทเฮารับเป็นลูกบุญธรรมแล้ว นางยังคงแตกต่างจากองค์หญิงลี่หัวมาก แต่องค์หญิงลี่หัวกลับไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็คลี่ยิ้ม “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ข้ายังคิดอยู่ว่าจะต้องให้สินสอดมากสักหน่อย งานแต่งของเสี่ยวหวานก็ต้องเป็นการแต่งงานที่คึกคัก! ถ้าคนคนนั้นกล้ารังแกเจ้า ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเขาแน่นอน!”
“ข้าเองก็จะลงโทษเขาด้วยการโบยด้วย ให้เขาเห็นว่าข้าแข็งแกร่งแค่ไหน!” องค์หญิงลี่หัวกระตุกยิ้มมุมปาก
นางเรียนการต่อสู่จากอาจารย์มาตั้งแต่ยังเด็ก และนางเรียนรู้เพียงวิธีใช้แส้เท่านั้นซึ่งเป็นแส้นุ่มที่พกติดตัวมาหลายปี ระหว่างพูดก็ใช้มือแตะแส้รอบเอวเบา ๆ!
ถานอวี้ซูที่อยู่ด้านข้างไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อมองไปที่องค์หญิงลี่หัวที่เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ นางก็คร่ำครวญอยู่ในใจ “องค์หญิง องค์หญิง ท่านสามารถเอาชนะเขาด้วยการต่อสู้ได้หรือไม่?”
“ไม่ไม่ไม่ ความจริงแล้วข้าเป็นคนเดียวที่รังแกเขามาตลอด เขาไม่เคยรังแกข้าแม้แต่ครั้งเดียว” กู้เสี่ยวหวานยิ้ม
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ฮองเฮาหนียงเหนียงจึงคว้ามือกู้เสี่ยวหวานไว้และพูดอย่างประหม่า “เสี่ยวหวาน สรรพสิ่งในใต้หล้านี้ล้วนคาดเดาไม่ได้ ตอนนี้เจ้ามีสถานะสูงส่ง ส่วนคนผู้นั้น…ข้าเกรงว่าในอนาคตจิตใจของผู้คนอาจจะเปลี่ยนไป ถ้าเขาปฏิบัติต่อเจ้าด้วยใจจริงก็ไม่เป็นไร ถ้าเขามีความคิดอื่นแอบแฝง ข้าเกรงว่ามันจะ…”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ กู้เสี่ยวหวานก็พยักหน้ารับทราบ ฮองเฮาเหนียงเหนียงกำลังทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง อย่างไรก็ตามจิตใจของผู้คนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกำหนดได้
อย่างไรก็ตาม นางไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจึงเชื่อเขาอย่างสนิทใจ!
“เหนียงเหนียงอย่ากังวล หม่อมฉันเชื่อใจเขาเพคะ!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม “ตั้งแต่ข้าตกลงปลงใจกับเขา ข้าก็เชื่อใจเขามาตลอด! คนอื่นอาจบอกว่าจิตใจของผู้คนไม่แน่นอน แต่เขา…” กู้เสี่ยวหวานหยุดชะงัก ก่อนก้มศีรษะลงยิ้ม แก้มของนางแดงระเรื่อ จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางเป็นประกาย “เสี่ยวหวานเชื่อว่าในชีวิตนี้เขาจะไม่มีวันทำให้ข้าผิดหวัง!”
ช่วงเวลาที่กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางเปล่งประกายสีแดงแวววาว ฮองเฮารู้สึกตกตะลึง นางอยากจะมองดวงตาคู่นั้นอีกครั้ง แต่กลับพบว่าดวงตาคู่นั้นของนางกลับมาเป็นปกติแล้ว
ดวงตาสีดำสนิทสงบนิ่งราวกับสระน้ำใสลึก
……
บทที่ 2072 อาจจะมองผิดไป
ฮองเฮาหัวเราะเยาะตัวเอง บางทีตนเองอาจจะเข้าใจผิดไป ปกติแล้วดวงตาของนางจะมีสีดำขลับ นางจะมีลูกตาสีแดงได้อย่างไร!
เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของกู้เสี่ยวหวาน องค์หญิงลี่หัวก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน และพูดอย่างตกตะลึง “ท่านพี่ คนที่ท่านชอบมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมจึงทำให้ท่านไว้ใจเขามากขนาดนี้!”
กู้เสี่ยวหวานไม่พูดอะไร แต่แก้มกลับขึ้นสีแดงระเรื่อ นางก้มหน้าลงและยิ้มเขินอาย ผมสีดำขลับปลิวไสวไปตามสายลม ดวงหน้าขาวเนียนราวกับหิมะ สองสีนั้นมีความแตกต่างอย่างมากจนน่าตกใจ อีกทั้งรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ ความไม่สบายใจ ความตึงเครียด และความเหนื่อยล้าในหัวใจคลายลงไป
ด้านนอกตำหนักชายหนุ่มในชุดคลุมตัวยาวสีเหลืองสับเท้าก้าวอย่างรวดเร็วจนทำให้ขันทีฉีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ฝ่าบาทไม่ได้กล่าวล่วงหน้าว่าจะเสด็จมายังตำหนักของฮองเฮา และบอกเพียงว่าจะมาหาฮองเฮาเหนียงเหนียงตอนถึงประตูแล้ว แล้วเหตุใดถึงไม่เข้าไปด้านในล่ะ?
ขันทีฉีรู้สึกแปลกเล็กน้อยและรีบเดินตามไป “ฝ่าบาท ประทับเกี้ยวดีหรือไม่?”
“ไม่ ข้าจะเดินไป!” ฮ่องเต้โบกมือ ส่ายศีรษะ และพูดเสียงเบา
เมื่อได้ยินเช่นนั้นขันทีฉีก็รีบตามไปข้างหลัง ขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการเดิน ทันใดนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในหัว ซึ่งสิ่งนั้นมันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก
เขาเพิ่งบอกว่าองค์หญิงอันผิงและฮู้กั๋วจวิ้นจู่จะมาที่วังเพื่อเข้าเฝ้าฮองเฮา และฮ่องเต้ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ
ต่อมาหลังจากฎีกาอีกสองฉบับจบ เขาก็บอกว่าเหนื่อยนิดหน่อยและต้องการไปตำหนักของฮองเฮาเพื่อเยี่ยมฮองเฮา แต่ฮ่องเต้ยังบอกว่าไม่ต้องรบกวนฮองเฮาและไม่ต้องบอกล่วงหน้า แค่จะไปเยี่ยมฮองเฮาแล้วกลับทันที
แต่เมื่อเขามาที่นี่ เขายืนอยู่ที่ประตูวังชั่วครู่หนึ่งแล้วก็ไม่ยอมเข้าไป
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
ขันทีฉีรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงรีบเดินตามหลังไป หลังจากเดินผ่านโถงทางเดิน ทันใดนั้นก็มีสายลมกระโชกแรงและความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของขันทีฉี
จู่ ๆ ความคิดนั้นก็ทำให้เขาตกใจ และการก้าวเดินก็หยุดลงในทันที
มันอาจจะเป็น…
เมื่อมองไปที่ฮ่องเต้ที่ก้าวไปข้างหน้าเสื้อคลุมสีเหลืองสดใสทำให้เขาวิงเวียนเล็กน้อย อาจเป็น…
เหงื่อเย็นไหลผุดซึมออกมา นี่…เป็นไปได้อย่างไร!
ซูเทียนซื่อกำลังเดินไปข้างหน้า แต่เมื่อเขาเห็นว่าไม่มีใครตามมา เขาก็หยุดและหันกลับมามองขันทีฉี และเมื่อเขาเห็นขันทีฉีผงะเล็กน้อย ก็เข้าใจทุกอย่างได้ทันที
ดวงตาของเขาฉายแววดุร้ายกว่าปกติแค่ชั่วครู่ สายตานั้นทำให้ขันทีฉีก้มศีรษะลงและรีบตามไป
ซูเทียนซื่อไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองขันทีฉีแล้วเดินจากไป ในตอนนี้ขันทีฉีไม่กล้าประมาท เขารีบตามไปและไม่พูดอะไรอีก!