ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2073 ฮองเฮาทราบเรื่องแล้ว
บทที่ 2073 ฮองเฮาทราบเรื่องแล้ว
กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าฮ่องเต้กำลังเสด็จมา และหลังจากพูดคุยกับฮองเฮาอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเหนื่อยเล็กน้อย นางจึงจากไปพร้อมกับถานอวี้ซู
องค์หญิงลี่หัวพาทั้งสองคนไปส่งหน้าประตูตำหนัก ประตูและกำแพงพระราชวังอันโอ่อ่าอยู่ห่างออกไปไม่ไกล สามารถเห็นความรุ่งเรืองและมั่งคั่งในเมืองหลวงได้ชัดเจน
ทั้งสามล่ำลากันอยู่หน้าตำหนัก เมื่อเห็นฉากตรงหน้าองค์หญิงลี่หัวจึงพูดอย่างอิจฉา “ข้าอิจฉาพวกท่านจริง ๆ จะเข้าออกวังตอนไหนก็ได้ ชีวิตนี้ของข้าไม่รู้เลยว่าจะออกไปได้เมื่อไหร่!”
“เจ้าจะรีบไปไยกัน หลังจากแต่งงานแล้วเจ้าก็จะได้ออกจากวังไม่ใช่หรือ?” ถานอวี้ซูพูดติดตลก
หลังจากถูกถานอวี้ซูหยอกเย้า ใบหน้าขององค์หญิงลี่หัวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และนางแสร้งทำเป็นหยิกถานอวี้ซู “เจ้านะเจ้า อวี้ซู เจ้ากล้าจะแกล้งข้าหรือ ดูสิว่าข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้น ๆ ได้หรือไม่!”
ถานอวี้ซูซ่อนตัวอยู่ข้างหลังกู้เสี่ยวหวานด้วยรอยยิ้มร่าเริง และมองไปที่องค์หญิงลี่หัวที่กำลังหน้าแดงก่ำอย่างมีชัยชนะ “เจ้าก็บอกมาสิว่าไม่ต้องการ ดูหน้าของเจ้าสิมันแดงไปหมดแล้ว!”
……
กู้เสี่ยวหวานเดินไปตามทางอย่างเหม่อลอย สายตาของนางคอยสอดส่องหาองครักษ์ของฮ่องเต้ที่อยู่รอบวัง นางพยายามหาร่างที่คุ้นเคย แต่แล้วนางก็ต้องผิดหวัง!
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าอยู่ที่นี่! กู้เสี่ยวหวานท่าทางเหม่อลอย จึงไม่เห็นการหยอกเย้าระหว่างถานอวี้ซูและองค์หญิงลี่หัว ถานอวี้ซูถูกองค์หญิงลี่หัวจับตัวได้ที่สุด ถานอวี้ซูเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะโดนแกล้งจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ
อาจั่วที่ด้านข้างมองดูท่าทางเหม่อลอยของคุณหนู และเห็นว่าสายของนางมองไปที่องครักษ์เหล่านั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าคุณหนูกำลังมองหาอะไร!
นางไม่พูดอะไรและเดินตามหลังไป
ฮองเฮาเริ่มรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาแล้ว จึงกลับเข้าไปในห้องโถงของตำหนักเพื่อพักผ่อนด้วยการประคองของนางกำนัล เมื่อเห็นฮองเฮากลับเข้ามา ทิงอินรีบรุดขึ้นหน้ากล่าวทูลว่าเมื่อครู่ฮ่องเต้เสด็จมาเพคะ
“ฮ่องเต้ไม่ได้บอกใคร ฝ่าบาททรงยืนอยู่หน้าตำหนักครู่หนึ่งแล้วก็จากไป!”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด” ฮองเฮาถามอย่างสงสัย
“ไม่ทราบเพคะ ข้าได้ยินคนพูดว่าฮ่องเต้มาที่นี่เพื่อเข้าเยี่ยมฮองเฮาโดยเฉพาะ แต่เมื่อเขามาถึงประตูตำหนัก เขาก็หมุนตัวเดินกลับไป” ทิงอินก็งงงวยเช่นกัน
ฮองเฮาเอนกายนอนลง ทิงอินจึงรีบห่มผ้าห่มให้อีกฝ่าย ขณะที่ผ้าม่านถูกปลดลง ฮองเฮาก็ถามว่า “ฮ่องเต้ตรัสอะไรหรือไม่ก่อนเสด็จกลับ”
“ไม่ได้ตรัสอะไรเพคะ แค่…” ทิงอินไม่รู้จะอธิบายอย่างไร นางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วพูดอย่างระมัดระวัง “ข้าได้ยินมาว่าฝ่าบาทมาที่นี่ด้วยความตื่นเต้น แต่ตอนเสด็จกลับมีท่าทางผิดหวัง!” ทิงอินรีบตอบกลับ
เมื่อฮองเฮาได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที ทิงอินกำลังจะปิดม่านอีกด้านหนึ่งลงและพูดต่อไปว่า “บางทีฮ่องเต้อาจนึกได้ว่ามีงานราชการยังต้องทำ เหนียงเหนียงอย่างเสียใจไปเลยเพคะ”
หลังจากปิดผ้าม่านลงแล้ว ก็เห็นว่าฮองเฮามีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย นางจึงรีบถามว่า “เหนียงเหนียง ท่านเป็นอะไรเพคะ?”
ฮองเฮาโบกมือและพูดอย่างเหนื่อยอ่อน “ไม่ เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย ไปพักเถอะ!”
หลังจากพูดจบก็หลับตาลงราวกับต้องการพักผ่อนจริง ๆ
ทิงอินส่งเสียงตอบรับและออกไป ทันทีที่นางจากไปฮองเฮาก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
ดวงตาของนางหม่นหมองเล็กน้อย และจ้องไปที่ม่านสีทองปักลวดลายเฟิงหวงสยายปีกด้วยสายตาว่างเปล่า
ฮองเฮามองดูเฟิงหวงด้วยรอยยิ้มหมดหนทาง และทันใดนั้นก็นึกถึงบางสิ่งที่ทิงอินและทิงเหยียนบอกกับนาง
นางถูกวังกุ้ยเฟยใส่ร้าย และกู้เสี่ยวหวานเองก็ถูกวังกุ้ยเฟยใส่ร้ายว่าเป็นดาวแห่งหายนะ ตอนนี้นางรู้สึกหมดหนทาง แต่กู้เสี่ยวหวานใช้บาดแผลบนร่างกายและธูปในกระถางธูปเพื่อลากวังกุ้ยเฟยออกมา
หากผู้หญิงผู้เฉลียวฉลาดและงดงามเช่นนี้เข้ามาในวัง นางคงจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของตัวเองใช่หรือไม่?
ฮองเฮาเอื้อมมือไปลูบท้องที่นูนขึ้นมา ความขมขื่นฉายวาบในดวงตา จากนั้นนางก็หลับตาลงและเงียบไปครู่หนึ่ง
อาการเหม่อลอยของกู้เสี่ยวหวานทำให้ถานอวี้ซูถูกองค์หญิงลี่หัวหยิก ตอนนี้นางกำลังนั่งอยู่ในรถม้า ทำหน้าบึ้งและพูดว่า “ท่านพี่ เมื่อครูท่านเป็นอะไรไป? ข้าซ่อนตัวอยู่ข้างหลังท่านแต่ก็ถูกลี่หัวจับได้ ฮึ่ม ลี่หัวผู้นี้แรงเยอะจริง ๆ ฮึก ฮึก ฮือ แขนของข้ายังเจ็บอยู่เลย!”
ถานอวี้ซูรู้สึกน้อยใจ พลันใดนั้นกู้เสี่ยวหวานที่เพิ่งกลับมามีสติก็เห็นว่าอวี้ซูกำลังถือผ้าเช็ดหน้า นางร้องไห้ขอบตาแดงก่ำอย่างน่าสงสาร ท่าทางหมดหนทางราวกับลูกสุนัขถูกทำร้าย และกลับบ้านไปร้องไห้กับเจ้านายของมัน!
หัวใจของกู้เสี่ยวหวานอ่อนยวบลงทันที นางดึงแขนของถานอวี้ซูและมองมัน “ขอข้าดูหน่อย!”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีบาดแผลอะไร องค์หญิงลี่หัวจะกล้าหยิกนางได้อย่างไร! ข้าเห็นว่าบนแขนของถานอวี้ซูยังขาวเนียนราวกับหิมะ ขาวบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปน
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่แขนของอีกฝ่ายที่ไม่มีบาดแผลใด แต่ถานอวี้ซูยังคงทำหน้าบึ้ง “ท่านพี่ ข้าเจ็บ…”
“เอาล่ะ ข้าจะเป่าให้เจ้าเอง แค่เป่าก็จะไม่เจ็บอีกต่อไป!” กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าถานอวี้ซูมีท่าทางเหมือนเด็ก ดังนั้นจึงไม่ปล่อยมือและเป่าลมให้นางหายเจ็บ
ลักษณะนั้นเหมือนกับการปฏิบัติต่อเด็ก ถานอวี้ซูไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนและรู้สึกราวกับตัวเองเป็นสมบัติของใครบางคน นางหยุดตะโกนโวยวายก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยทันที “อะไรกัน? ยังเจ็บอยู่หรือ? เกรงว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บที่กระดูกแล้วล่ะ ไปหาหมอกันเถอะ!”
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานฉายชัดถึงความกังวล หยาดน้ำตาของถานอวี้ซูไหลออกมาไม่หยุด ทำให้กู้เสี่ยวหวานตกใจมากยิ่งขึ้น “อาโม่ รีบไปโรงหมอ!”
เมื่อเห็นว่ารถม้ากำลังจะเลี้ยวไปทางโรงหมอ ถานอวี้ซูก็หยุดร้องไห้และโผเข้าไปในอ้อมแขนของกู้เสี่ยวหวาน “ท่านพี่ ข้าไม่เจ็บ ข้าไม่เจ็บ แค่ไม่เคยมีใครปลอบข้าแบบนี้มาก่อน ข้า… ฮือ ฮือ ฮือ ท่านพี่ ข้าคิดว่าท่านใจดีกับข้ามาก!”