ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2082 ไปตามนัด
บทที่ 2082 ไปตามนัด
คุณหนูไม่ได้ด้อยไปกว่านายท่านเลย อีกทั้งในหมู่สตรีคุณหนูยังนับว่าโดดเด่นอีกด้วย
อาจั่วได้ยินคำพูดนั้นก็พูดอย่างไม่หวาดกลัวว่า “เช่นนั้นก็ให้นายท่านตำหนิข้าเถอะ นายท่านให้ข้าอยู่ข้างกายคุณหนู ให้ข้าคิดแทนเพื่อคุณหนู ถ้าหากนายท่านตำหนิข้าเพราะสิ่งที่ข้าถาม เช่นนั้นข้าเองก็ไม่มีอะไรจะพูด! แต่ถ้าหากมีครั้งหน้าข้าก็ยังจะพูดเพื่อคุณหนูอยู่ดี!”
“…” อาโม่มองดูอาจั่วที่อุทิศตัวคิดแทนคุณหนูอย่างไม่เกรงกลัว ทันใดนั้นก็หัวเราะพรืดออกมา “เจ้านะ เจ้า… แต่ข้าเดาว่า ถ้าหากนายท่านรู้แล้ว นายท่านไม่มีทางตำหนิเจ้าแน่นอน ผู้ใดให้ตอนนี้เจ้าหันเข้าฝ่ายคุณหนูเช่นนี้กัน! นายท่านจะปฏิบัติอย่างไรกับคุณหนู นั่นเป็นเหมือนการเจ็บปวดลูกตา เจ้าปกป้องเขา เขาดีใจก็ยังไม่สายเกินไปหรอก! ไม่มีทางโทษเจ้าแน่!”
เมื่อครู่อาโม่เพียงแค่ขู่ขวัญให้อาจั่วกลัวเท่านั้น แต่ตัวเขาเองก็เข้าใจว่านายท่านและคุณหนูนั้นคือสามีที่ไม่แยกจากภรรยา ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่แยกจากผู้ใดทั้งนั้น!
ก็คือคลั่งรักไปตลอดชีวิต เช่นนี้ดีมากนัก!
อาจั่วเห็นอาโม่หัวเราะ จึงแสร้งทำเป็นจ้องเขาด้วยความโกรธ “อ๋อ ความรู้สึกเมื่อครู่นี้เจ้าขู่ขวัญให้ข้ากลัวรึ! ข้าจะตีเจ้า!”
อาจั่วทำท่าทางยื่นกำปั้นออกไปต่อยอาโม่ อาโม่หัวเราะพลางทำท่าหลบ แต่กลับไม่ได้หลบไปไกลจริงจังนัก กำปั้นของอาจั่วจึงเหวี่ยงเข้ามาและฟาดลงบนหน้าอก คิดว่าน้ำหนักมือนั้นราวกับก้อนหิน แต่เอาเข้าจริงมันราวกับสำลีเสียมากกว่า!
แรงกระแทกที่หน้าอกเบามาก ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่จู่ ๆ ก็กระโดดขึ้นลงหลายครั้ง!
อาโม่ก้มมองอาจั่วก็เห็นว่าบนใบหน้านางมีรอยยิ้มอยู่ตลอด พอหัวเราะขึ้นมา สายตาที่เดิมทีเต็มไปด้วยการสังหาร ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน!
ทันใดนั้นหัวใจก็เต้นผิดจังหวะอีกแล้ว!
กู้ซินเถาสร้างสถานการณ์ให้ซูหลินอยู่โรงน้ำชาอู่อวิ้นเพียงลำพังอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็บอกกู้เสี่ยวหวาน และให้กู้เสี่ยวหวานรีบไป สร้างโอกาสให้ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ เพื่อให้กู้เสี่ยวหวานและซูหลินพูดคุยกัน
ตอนที่ส่งคนมาเชิญกู้เสี่ยวหวาน กู้ซินเถายังกำชับเป็นพิเศษว่าวันนี้ต้องให้กู้เสี่ยวหวานสวมเครื่องประดับศีรษะที่นางส่งไปครั้งที่แล้ว อย่าลืมว่าต้องสวมทั้งชุด
ตอนที่กู้เสี่ยวหวานได้ยินคนมาถ่ายทอดคำพูด อาจั่วก็ไปหยิบเครื่องประดับศีรษะที่กู้ซินเถาส่งมาเมื่อวันนั้น และสวมมันลงไปอย่างระมัดระวัง
โค่วตันหวีผมนางอย่างระมัดระวังและแปลกใจเล็กน้อย “คุณหนู เหตุใดวันนี้ท่านจึงสวมเครื่องประดับชุดนี้?”
“มีอะไรรึ?” กู้เสี่ยวหวานถาม
“โค่วตันรู้สึกว่าปิ่นนี้แปลกไปเล็กน้อย!” โค่วตันถือปิ่นหยกมันแพะและถามอย่างสงสัย
กู้เสี่ยวหวาน “แปลกตรงที่ใด?”
โค่วตันมองดูอย่างละเอียดแล้วส่ายหัวพูดว่า “ข้าเองก็บอกไม่ได้เช่นกัน แต่รู้สึกว่าปิ่นนี้ไม่เข้ากับเครื่องประดับศีรษะ! งานฝีมือเครื่องประดับศีรษะอย่างอื่นนั้นหรูหราซับซ้อนนัก มีเพียงชุดนี้เท่านั้น ข้ารู้สึกว่า…น่าจะมีอะไรอย่างอื่น!”
กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางกังวลของโค่วตันก็ยิ้ม “เจ้าช่วยเสียบให้ข้าเถอะ!”
โค่วตันลังเลเล็กน้อย “คุณหนู…”
ตอนนี้อาจั่วกำลังเอาชุดจากด้านนอกเข้ามา หลังจากได้ยินคำพูดนั้นก็เอ่ยว่า “โค่วตัน คุณหนูให้เจ้าเสียบก็เสียบเถอะ!”
โค่วตันเห็นเช่นนั้นจึงรีบปักปิ่นเข้าไปในมวยผม เมื่อเสร็จแล้วกู้เสี่ยวหวานก็ลุกขึ้นยืนมองดูหน้ากระจกทองเหลือง และหมุนตัวจะจากไป
ก่อนจากไปนั้น นางหันกลับมามองโค่วตันแล้วยกนิ้วโป้งให้ “ไม่เลว ความแตกต่างที่เล็กน้อยเช่นนี้เจ้าก็มองออก! สมแล้วที่เป็นคนของข้า!”
โค่วตันงุนงงเล็กน้อย “คุณหนู…”
อาจั่วเดินตามออกไปด้านนอกก็เห็นท่าทางที่งุนงงของโค่วตัน จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหนูชมเจ้าน่ะ ยังจะมัวงงอะไรอีก รีบเดินตามไปเร็วเข้า!”
โค่วตันร้องอ๋อไปหลายครั้งและเดินตามหลังไป แต่ในใจก็ยังสงสัยเล็กน้อย นางมองอาจั่วที่เงียบอยู่ด้านข้างบ่อยครั้ง ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย!
อาจั่วเห็นนางดูแปลกมาตลอดทาง จึงอธิบายด้วยเสียงกระซิบว่า “เจ้าอย่าถามเลย เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้แล้ว!”
“คุณหนูรู้หรือ?” โค่วตันถามกลับ
“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่คุณหนูได้ปิ่นนั้นมาครั้งแรกก็ค้นพบแล้ว!” อาจั่วพูด ในน้ำเสียงดูเหมือนจะมีความภูมิใจด้วย!
“เช่นนั้นเหตุใดจึงยัง…” โค่วตันเห็นคุณหนูรู้แล้วก็ยังปักปิ่นนั้นไว้ จึงกลัวว่าคุณหนูจะหลงเดินตามกลอุบายของผู้อื่น
“ไม่เป็นไร คุณหนูรู้จักวางตัว ในเมื่อผู้อื่นวางกับดักไว้ คุณหนูจะให้เป็นไปตามที่เขาปรารถนาได้อย่างไร ครั้งนี้ออกไปเจ้าและข้าต้องระวังหน่อย อาโม่อยู่ในที่มืด เจ้าและข้าอยู่ในที่แจ้ง ต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณหนูอย่างระมัดระวัง!” อาจั่วกล่าว
โค่วตันกลับเป็นห่วงเล็กน้อย “ในเมื่อคุณหนูนั้นมีอันตราย เหตุใดจึงยังต้องไปด้วยเล่า? คุณหนู…”
กู้เสี่ยวหวานเดินอยู่ด้านหน้า แน่นอนว่าย่อมต้องได้ยินบทสนทนาของสองคนด้านหลัง นางหันกลับไปก็เห็นโค่วตันขมวดคิ้วมองตัวเองด้วยความกังวล “คุณหนู…”
“ไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าและอาจั่วต่างอยู่ข้างกายข้า อาโม่ก็ยังอยู่ในที่มืด ไม่เป็นไรหรอก!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวคลายกังวล “ไปกันเถอะ! เวลาไม่เช้าแล้ว ถ้าหากยังไม่ไปอีก เกรงว่าจะเรียกคนมาเร่งอีก!”
ตอนนี้เกรงว่ากู้ซินเถานั้นแทบจะรอให้ตัวเองรีบไปโรงน้ำชาอู่อวิ้นทันทีไม่ไหวแล้ว
รถม้าเดินทางอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงโรงน้ำชาอู่อวิ้น
ดูเหมือนกู้ซินเถาจะได้เตรียมการล่วงหน้าแล้ว โรงน้ำชาอู่อวิ้นมีเสี่ยวเอ้อร์รออยู่ตรงประตู เมื่อเห็นรถม้ามาแล้วก็รีบตะโกนเสียงดังว่า “รถม้าองค์หญิงอันผิงหรือ?”
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานลงจากรถม้า คนผู้นั้นก็รีบตะโกนเสียงดังอีกครั้งว่า “องค์หญิงอันผิงมาแล้ว องค์หญิงอันผิงมาแล้ว!”
สายตาของทุกคนจึงมองมาที่กู้เสี่ยวหวาน แต่ละคนมองมาทางด้านนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต่างพากันคาดเดาว่าองค์หหญิงอันผิงที่ยามปกติได้ยินแต่เพียงชื่อเสียงไม่เคยได้พบเห็นหน้า แท้จริงแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร!
เถ้าแก่เซี่ยวของโรงน้ำชาอู่อวิ้น ในตอนนี้กำลังเดินออกมาจากห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง เมื่อเห็นคนมาถึงก็เดินไปหากู้เสี่ยวหวานอย่างตื่นเต้น!
“ท่านคือองค์หญิงอันผิง?” เถ้าแก่เซี่ยวถูมืออย่างตื่นเต้น พอมาถึงตรงหน้ากู้เสี่ยวหวานก็คุกเข่าลงไปอย่างเกินจริงด้วยใบหน้าที่เคารพนอบน้อม และยังโขกหัวอย่างเกินจริงจนทำให้กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว
“องค์หญิงอันผิง นี่คือเถ้าแก่ของข้า!” เสี่ยวเอ้อร์คนนั้นเห็นจึงรีบอธิบาย และไปดึงเถ้าแก่เซี่ยวลุกขึ้น “เถ้าแก่ ท่านรีบลุกขึ้นเร็ว!”
เถ้าแก่เซี่ยวลุกขึ้น แต่สีหน้ายังเต็มไปด้วยความชื่นชม “ครั้งที่แล้วท่านอยู่ที่ร้านของข้าแล้วพูดถึงยอดอ่อนใบชานั่นหรือ?”
ที่แท้เป็นเพราะคำพูดเมื่อครั้งที่แล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้สนใจและพยักหน้าว่า “อืม ข้าเป็นคนพูด!”