ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2083 ชื่นชมด้วยความเคารพ
“ช่างใจตรงกัน ช่างใจตรงกันนัก!” เถ้าแก่เซี่ยวอยากก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าว แต่กลัวว่าจะพรวดพราดล่วงเกินกู้เสี่ยวหวานเข้า จึงได้แต่ยืนอยู่ที่เดิมและหมุนตัวอย่างกระวนกระวาย “ช่างใจตรงกับข้าเสียจริง!”
ในตอนนี้ก็มีคนตะโกนออกมาว่า “เถ้าแก่เซี่ยว หาได้ยากนักที่ท่านจะได้พบคนที่ใจตรงกัน!”
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ!” เถ้าแก่เซี่ยวพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ครั้งก่อนองค์หญิงอันผิงมาที่ร้านของข้า ข้าบังเอิญไม่อยู่พอดี เสี่ยวเอ้อร์ของร้านได้ยินคำพูดที่องค์หญิงอันผิงกล่าว พอข้ากลับมาเขาก็เล่าให้ข้าฟัง ตอนที่ข้าได้ฟังนั้นก็ตกใจมากอย่างยิ่ง ยังมีคนในโลกนี้ที่เข้าใจชารักชาและรู้มากกว่าเถ้าแก่โรงน้ำชาอย่างข้าเสียอีก! องค์หญิงอันผิง วันนี้ท่านมาที่โรงน้ำชา ช่างเป็นเกียรติมากยิ่งนัก! วันนี้ท่านเพลิดเพลินอยู่ที่โรงน้ำชา สั่งชาที่ดีที่สุด ของว่างที่ดีที่สุด ให้ข้าจัดการเอง!”
เถ้าแก่เซี่ยวมองดูกู้เสี่ยวหวานด้วยสีหน้าที่ชื่นชมและเคารพเลื่อมใส ราวกับว่าประทับใจความคิดและศิลปะการดื่มชาของกู้เสี่ยวหวานจริง ๆ
ส่วนเขาก็เริ่มพูดทีละคำถึง ‘ยอดอ่อนใบชา’ ที่กู้เสี่ยวหวานพูดออกมาเมื่อตอนนั้น พูดถึงสิ่งที่เพิ่งเรียนรู้มาเช่นนั้นอยู่ในโรงน้ำชา คนที่ดื่มชาเหล่านั้นต่างก็ล้อมกันเข้ามา แต่ละคนมองกู้เสี่ยวหวานด้วยความแปลกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ? ยอดอ่อนของใบชา? จุ๊ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยิน!”
“ผู้ใดจะไม่บอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ยินกันเล่า จุ๊ ๆ องค์หญิงอันผิงผู้นี้มีความรู้กว้างขวางนัก อีกทั้งยังมีความคิดเกี่ยวกับชาไม่เหมือนผู้ใด ทำให้คนเห็นแล้วชื่นชม น่าชื่นชมนัก!” คนรอบด้านแต่ละคนพูดคุยกัน กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าเวลาผ่านไปมากแล้ว จึงยิ้มให้อย่างเหมาะสมและคิดจะจากไป แต่ว่าเถ้าแก่เซี่ยวยืนอยู่ตรงหน้านางตลอด ปากนั้นก็พูดอย่างไม่หยุด พูดด้วยความเคารพและยกย่องราวกับว่าไม่อยากให้นางจากไปเร็วเสียอย่างนั้น!
กู้เสี่ยวหวานเห็นเช่นนั้น อาจั่วที่อยู่ด้านหลังจึงตะโกนเสียงดัง “คุณหนูยังมีธุระสำคัญ หวังว่าเถ้าแก่จะหลีกทางให้!”
“หลีก หลีก!” เถ้าแก่เซียวได้ฟังก็รีบหันไปด้านข้างและผ่ายมือด้วยความเคารพ “องค์หญิง เชิญท่าน…”
กู้เสี่ยวหวานเดินผ่านกลุ่มคนอย่างใจเย็น หลังจากขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวโค้งก็ดูเหมือนจะยังได้ยินเสียงสตรีพูดด้านหลังว่า “เครื่องประดับศีรษะหยกมันแพะที่องค์หญิงอันผิงสวมใส่นั้นงดงามเสียจริง! ได้ยินว่านั่นเป็นของที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะของ เตี่ยนชุ่ยฟางเมื่อไม่กี่วันก่อน! เครื่องประดับชุดนั้นน่ะงดงามมากเลย!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ข้าเองก็เคยเห็น เพียงแต่มันแพงเกินไป ผู้ใดจะซื้อได้กัน ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วจะถูกองค์หญิงอันผิงซื้อไป! นางช่างร่ำรวยเสียจริง!” และยังพูดจุ๊ ๆ อีก
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ นางเป็นเถ้าแก่ของร้านหล่านเยว่และร้านจิ่นฝู เงินนั่นไม่ใช่ว่าผุดขึ้นมาเหมือนน้ำพุหรอกหรือ!”
กู้เสี่ยวหวานฟังคำพูดของคนเหล่านั้นเข้าหูโดยที่ฝีเท้าไม่หยุดลง มุมปากนั้นโค้งแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง เพียงแต่เมื่อหยุดอยู่ตรงห้องส่วนตัวแล้ว ใบหน้าของนางก็กลับมาเป็นปกติ
ทั้งสามมาถึงห้องโถงด้านนอกก็เห็นเสี่ยวเอ้อร์คนหนึ่งตะโกนว่า “องค์หญิงอันผิง… องค์หญิงอันผิงมาแล้ว… เจ้ารีบไปรายงานเสี่ยวซื่อจื่อเร็วเข้า!”
กู้เสี่ยวหวานทำเป็นไม่สนใจ เดินตรงเข้าไปในห้องโถงที่เสี่ยวเอ้อร์นั้นพาตัวเองไป ยังไม่ทันนั่งลงด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา “เสี่ยวหวาน เจ้ามาแล้วหรือ…”
เป็นเสียงของกู้ซินเถา!
นางก็รวดเร็วเช่นกันที่สามารถพูดโน้มน้าวซูหลินได้รวดเร็วเช่นนี้!
“ท่านพี่…” กู้เสี่ยวหวานก้าวไปต้อนรับและจับมือของกู้ซินเถาอย่างสนิทสนมด้วยใบหน้าที่รักใคร่
กู้ซินเถาเองก็เช่นกัน วันนี้นางแต่งตัวเรียบง่ายมาก ทั่วทั้งร่างสวมชุดสีขาวราวหิมะเข้าคู่กับปิ่นปักผมสีเขียวมรกต บนหูสวมต่างหูสีเขียว มองดูแล้วราวเป็นกับสตรีที่มาจากตระกูลเล็ก ๆ ช่างงดงามนัก!
“เสี่ยวหวาน วันนี้เจ้าใส่เครื่องประดับศีรษะหยกมันแพะ ช่างงดงามนัก!” กู้ซินเถาชื่นชม
กู้เสี่ยวหวาน “ขอบคุณพี่สาวที่เสียเงินแล้ว เครื่องประดับศีรษะที่งดงามเช่นนี้ท่านพี่ไม่เก็บไว้ใส่เอง แต่กลับส่งมอบให้ข้า ข้ารู้สึกละอายใจนัก!”
“น้องโง่เง่า เจ้าพูดอะไรเช่นนี้ ระหว่างเจ้ากับข้านั้นเป็นพี่น้องกันจะเกรงใจอะไร อีกอย่างเครื่องประดับนี้เข้ากับเจ้ามาก! เห็นเจ้าใส่แล้วงดงาม ข้าเองก็ดีใจเช่นกัน!” กู้ซินเถากล่าว
พี่น้องสองคนกำลังพูดคุยกันก็ได้ยินเสียงคนด้านนอกพูดว่า “องค์หญิงอันผิงมาแล้วหรือ?”
เป็นเสียงของซูหลิน
กู้ซินเถายังไม่ทันหันหน้าไปใบหน้าก็แดงระเรื่อ จึงเข้าใกล้กู้เสี่ยวหวานแล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า “เสี่ยวหวาน ข้า… เมื่อครู่นี้ข้ากำลังดื่มชากับเสี่ยวซื่อจื่อ!”
กู้เสี่ยวหวานจึงแสร้งทำเป็นแปลกใจ “พี่สาว ท่านสนิทสนมกับเสี่ยวซื่อจื่อเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
กู้ซินเถาได้ยินก็หันไปมองซูหลินอย่างเขินอาย หลังจากนั้นก็จับมือของกู้เสี่ยวหวานและบีบอย่างขวยเขิน
แม้ว่ากู้ซินเถาจะไม่ได้พูดอะไร แต่พอมองดูท่าทางที่เขินอายของกู้ซินเถา หลังจากพูดจบแล้วมองไปที่ซูหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก กู้เสี่ยวหวานก็เข้าใจความหมายของกู้ซินเถาในทันที!
นางมองกู้ซินเถาและมองไปที่ซูหลิน จากนั้นจึงพูดว่า “เสี่ยวซื่อจื่อ พี่สาวข้าเป็นคนที่อ่อนโยน จิตใจดี แม้ว่าฐานะทางบ้านจะธรรมดาแต่ก็เป็นหญิงสาวจากตระกูลที่ดี หวังว่าเสี่ยวซื่อจื่อจะไม่ทำให้พี่สาวข้าต้องผิดหวัง!”
คำพูดของกู้เสี่ยวหวานนั้นมีเหตุผลและจริงจัง สีหน้าของกู้ซินเถาจึงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันที อีกทั้งยังทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย มองดูกู้เสี่ยวหวานจากนั้นก็แอบมองซูหลินจนไม่รู้ว่าควรจะมองใคร จึงรีบก้มหน้าลงเอาแต่มองปลายเท้าของตัวเอง แต่ว่ามือก็ขยำผ้าเช็ดหน้าในมือไม่หยุดจนทำให้คนดูออกว่าตอนนี้นางกำลังกระสับกระส่าย!
ซูหลินยิ้มพลางมองไปรอบด้านแล้วพูดว่า “องค์หญิงอันผิง ในห้องโถงข้ามีชาปี้หลัวชุนชั้นดีอยู่ ถ้าหากองค์หญิงไม่รังเกียจก็ไปดื่มด้วยกันเถอะ!”
นี่เป็นการหลีกเลี่ยงคำพูดของผู้อื่น กู้ซินเถากลัวว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่เห็นด้วย จึงรีบดึงแขนเสื้อของกู้เสี่ยวหวานพลางมองกู้เสี่ยวหวานอย่างอ้อนวอน
กู้เสี่ยวหวานย่อมต้องรับปาก จึงเดินตามซูหลินเข้าไปในห้องโถงของเขา ส่วนอาจั่วและโค่วตันก็รออยู่ด้านนอก
ตอนนี้ในห้องโถงจึงเหลือเพียงแค่กู้เสี่ยวหวาน กู้ซินเถา และซูหลิน เพียงแค่สามคน
กู้ซินเถาก้มหน้าอยู่ตลอด รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ส่วนซูหลินนั้นพูดว่า “ไม่คิดว่าองค์หญิงอันผิงจะมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่ลึกซึ้งกับเถาเอ๋อร์เช่นนี้ องค์หญิงคงล้อเล่นแล้ว มีท่านเป็นน้องสาวเช่นนี้ ข้าจะทำให้เถาเอ๋อร์ผิดหวังได้อย่างไรกัน อีกอย่างนางทั้งอ่อนโยนจิตใจดี ข้ามีความรู้สึกชื่นชมและมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อนางมานานแล้ว!”