ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2085 เปลื้องเสื้อผ้าพวกเขา
บทที่ 2085 เปลื้องเสื้อผ้าพวกเขา
ซูหลินชะงักไปแล้วมองร่างกายของกู้เสี่ยวหวานที่เริ่มโอนเอนไม่มั่นคง แล้วพูดอย่างลำพองใจว่า “องค์หญิงอันผิง เจ้าอย่าเพิ่งไป วันนี้ข้าพาคนมาให้เจ้าแล้ว พวกเจ้าไม่ได้พบหน้ากันมานานก็มารำลึกอดีตด้วยกันเถอะ!”
กู้เสี่ยวหวานคว้าม้านั่งด้านข้างเอาไว้ แล้วส่ายหัวอย่างแรงเพื่อเรียกสติ “ผู้ใด?”
“คนรักของเจ้า… ฉินเย่จือ…” ซูหลินยิ้มอย่างลำพองใจ จากนั้นก็ตบมือ “พวกเราหากันมานานแล้ว กว่าจะหาคนเช่นนี้พบได้! ได้ยินว่าเจ้ากับเขาต้องใจกัน ถ้าหากไม่ใช่เขาก็จะไม่แต่งงานด้วย วันนี้พวกเจ้าก็ปลอบโยนเอาใจกันให้ดี ๆ เสียเถอะ!”
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านข้าง ซูหลินก็ยิ้มอย่างลำพองใจว่า “ทำไมเล่า? คนรักอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ายังไม่รีบออกมาอุ้มไปอีก? ห้องโถงของข้านี้มีเตียงนอน พวกเจ้าก็ปลอบโยนเอาใจกันให้ดี ๆ เถอะ! ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ข้ามอบให้พวกเจ้า!”
กู้เสี่ยวหวานมองท่าทางที่ลำพองใจของซูหลินและยิ้มหยันในใจ ตอนนี้ก็เข้าใจแผนการทั้งหมดของกู้ซินเถาแล้ว!
“เจ้าวางยาไว้ในขนมและน้ำชาหรือ?” กู้เสี่ยวหวานจับหัวถามอย่างสลึมสลือ
“แน่นอน ไม่คิดว่าเจ้าจะร้ายกาจเช่นนี้ กินขนมไปสองชิ้น ดื่มน้ำชาไปสองแก้วถึงจะออกฤทธิ์!” ซูหลินยิ้มอย่างลำพองใจมากยิ่งขึ้น “วันนี้ข้าจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้าป่นปี้!”
เมื่อมองดูใบหน้าที่ดุร้ายของซูหลิน กู้เสี่ยวหวานก็หลับตาและยิ้มเยาะที่มุมปาก
กู้ซินเถาเจ้าไร้เมตตา เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าที่ไร้น้ำใจ! วางแผนคิดร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว!
กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นเวียนหัวและหมดสติไป
ซูหลินเห็นว่ายังไม่มีผู้ใดมาอุ้มกู้เสี่ยวหวานออกไป ก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยอีกทั้งไม่กล้าพูดเสียงดัง กลัวว่าจะทำให้สาวใช้ด้านนอกเกิดความสงสัย เขาเดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้างและถามเสียงเย็นว่า “ทำไมเจ้าจึงยังไม่ออกมาอีก?”
รู้สึกเพียงแค่ว่าในห้องโถงนั้นมีกลิ่นฉุน หลังจากซูหลินได้กลิ่นแล้วร่างกายก็เซเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามอดทนและตะโกนอย่างไม่พอใจว่า “ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ยานี้ก็ใช้ไม่ได้! ฉินเย่จือ…”
เขาอยากตะโกนเรียกคน เพียงแต่ว่ากลิ่นนั้นก็ยิ่งแรงมากยิ่งขึ้น ซูหลินอยากออกไปให้เร็วที่สุด แต่มันก็สายเกินไปแล้ว สติของเขาไม่ชัดเจนและก็เป็นลมหมดสติไป!
ในเวลานี้ก็เห็นว่ามีคนหนึ่งออกมาจากด้านใน ในมือของเขาก็อุ้มคนที่หมดสติไปแล้วโยนเขาไว้ด้านข้าง
กู้เสี่ยวหวานที่ควรจะเป็นลมหมดสติเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ก็ลุกขึ้นมายืนอยู่ด้านนอกแล้วพูดเสียงเย็นว่า “อาโม่ ถอดเสื้อผ้าของเขาออกแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ!”
มีเสียงตอบรับดังมาจากด้านใน หลังจากนั้นก็เห็นอาโม่ถอดเสื้อผ้าของซูหลินและคนเมื่อครู่นี้จนเกลี้ยง จากนั้นก็โยนลงบนเตียงและจัดท่าทางของทั้งสองให้ดูคลุมเครือไม่ชัดเจน!
หลังจากรีบเร่งจนเสร็จแล้ว อาโม่ก็ออกมาด้านนอกและถอดผ้าคลุมหน้าที่สวมไว้ตลอดออก “คุณหนู ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“เจ้าพาข้าไป กู้ซินเถาและซูหลินต้องวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะทำให้ข้าหมดสติ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้คนผู้นั้นมาทำให้ข้าเสื่อมเสีย เพียงแต่ว่าแท้จริงแล้วกู้ซินเถานั้นบอกอะไรกับซูหลินเกี่ยวกับท่านพี่เย่จือกันแน่ พวกเขาสามารถหาท่านพี่เย่จือออกมาได้จริงหรือ?” กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถเข้าไปได้ในตอนนี้จึงถามอาโม่
เห็นแต่สีหน้าของอาโม่ที่อยู่ ๆ ก็มืดครึ้ม น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบว่า “ไม่รู้ว่าหาคนผู้นี้มาจากที่ใด เทียบกับพี่ใหญ่ฉินแล้วก็… เส้นผมเส้นเดียวยังเทียบไม่ติดเลย!”
นี่กลับแปลกแล้ว เหตุใดซูหลินจึงหาคนเช่นนี้มาได้ อีกทั้งยังบอกว่าเขาคือฉินเย่จือ!
กู้เสี่ยวหวานแปลกใจแต่ก็ไม่คิดอะไรอีก “พวกเราไปกันเถอะ นานขนาดนี้แล้วเกรงว่าอีกสักพักกู้ซินเถาจะมาจับชู้แล้ว!”
อาโม่พากู้เสี่ยวหวานไป ร่างหนึ่งกระโดดออกจากหน้าต่าง ส่วนอาจั่วและโค่วตันก็ยังคงยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ก็เห็นกู้ซินเถาเดินออกมาจากห้องโถงด้านข้าง พอเห็นอาจั่วและโค่วตันยังรอคอยอยู่ตรงประตูก็ก้าวเข้าไปถามว่า “เสี่ยวหวานยังอยู่ด้านในหรือ?”
อาจั่วพยักหน้า “ยังไม่เห็นคุณหนูออกมา!”
สีหน้ากู้ซินเถาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว เหมือนกับว่าเขินอายมาก “ยังไม่ออกมาหรือ ข้า…จะเข้าไปได้หรือไม่?”
อาจั่วและโค่วตันทั้งสองมองหน้ากันและไม่พูดอะไร
กู้ซินเถาเดินกลับไปกลับมาอยู่ตรงประตูหลายครั้ง สีหน้าทั้งกังวลทั้งเขินอาย ปากก็ยังพูดกับตัวเองว่า “ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดกันจบหรือยัง…”
เมื่อเดินหลายรอบแล้ว กู้ซินเถาจึงกระทืบเท้าพูดอย่างโมโหว่า “ช่างเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไร ตัวเองเข้าไปดูเองเดี๋ยวก็รู้แล้ว!”
โค่วตันและอาจั่วไม่ได้พูดอะไร มองดูกู้ซินเถาที่พูดกับตัวเอง จากนั้นนางก็มายืนอยู่ตรงประตูห้องโถง พอจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วหลังจากนั้นก็เคาะประตู ไม่มีเสียงมาจากด้านใน กู้ซินเถาจึงเคาะแล้วเคาะอีกและยังพูดว่า “เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงไม่มีคนตอบรับเล่า?”
อาจั่วและโค่วตันมองกู้ซินเถาอยู่ตลอด ก็เห็นนางพูดกับตัวเองอีกครั้งว่า “อาจจะเป็นเพราะทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกเกินไป ข้าจะเข้าไป!”
กู้ซินเถาเข้าไปแล้ว อาจั่วและโค่วตันเองก็ต้องเข้าไปด้วย องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างรีบห้ามไว้ “ทั้งสองท่านหยุดเท้าก่อน! เจ้านายข้าไม่ได้พูด ข้าให้ทั้งสองเข้าไปไม่ได้!”
อาจั่วและโค่วตันไม่ขยับเขยื้อน ทั้งสองสบตากันหลังจากนั้นก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากด้านใน เป็นกู้ซินเถา!
องครักษ์ที่ยืนอยู่ตรงประตูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านใน ทันใดนั้นก็ตกใจมาก คิดอยากจะผลักประตูเข้าไปแต่ก็ไม่กล้าเข้าไป ตอนที่กำลังลำบากใจนั้นอาจั่วก็พูดว่า “เสียงดังมากเช่นนั้นเจ้าไม่เข้าไปดู ถ้าหากเจ้านายเกิดเรื่องอะไรขึ้น ใครจะรับผิดชอบ! เจ้าไม่เข้า ข้าเข้าเอง!”
อาจั่วพูดจบก็ผลักองครักษ์นั้นออกไปแล้วเดินเข้าไปด้านใน องครักษ์คนนั้นถูกอาจั่วผลักออกจึงมึนงงอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เห็นอาจั่วและโค่วตันรีบเดินเข้าไปด้านในแล้ว
ในห้องโถงไม่มีผู้ใดอยู่ อาจั่วจึงเดินไปที่ห้องนอนที่อยู่ด้านข้าง เดินไปพลางตะโกนว่า “คุณหนู คุณหนู…”
กู้ซินเถาตกตะลึงมากเมื่อเห็นภาพบนเตียง เมื่อครู่นี้นางเพิ่งจะแผดเสียงกรีดร้องออกมา จึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังสร้างปัญหาใหญ่แล้ว!
เสียงของอาจั่วและโค่วตันค่อย ๆ ใกล้เข้ามา กู้ซินเถารู้ว่าถ้าหากถูกพวกเขาพบสิ่งนี้เข้า เกรงว่าซูหลินจะฆ่าตัวเองแล้ว
นึกถึงตรงนี้กู้ซินเถาก็ไม่สนใจแล้วว่าเหตุใดจึงไม่เห็นกู้เสี่ยวหวาน นางรีบออกมาจากด้านในและจับมืออาจั่วและโค่วตันไว้ “แม่นางทั้งสอง นี่ยังมีขนมอีกเยอะ ทั้งสองตามข้าไปกินขนมกันเถอะ เร็วเข้า!”
ท่าทางของกู้ซินเถานั้นชัดเจนเกินไป อาจั่วไม่เชื่อจึงสลัดกู้ซินเถาออกไป “คุณหนูข้าเล่า?”