ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2091 เหตุใดเจ้าถึงไม่ต้องการข้าแล้ว
บทที่ 2091 เหตุใดเจ้าถึงไม่ต้องการข้าแล้ว
แต่ตอนนี้กู้ซินเถายังเอาแต่นิ่งเงียบและทำเพียงมองไปที่ชายคนนั้น ชายคนนั้นก้มหน้างุดเพราะอายเกินกว่าจะพูดออกมา ส่วนกู้เสี่ยวหวานก็ยืนอยู่ด้านข้างท่าทางดูไม่เดือดร้อนราวกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตนเอง
“ใช่… ข้าเอง ข้า…ข้ากลับมาแล้ว! หวานเอ๋อร์ หวานเอ๋อร์ เจ้ายังต้องการข้าอยู่หรือไม่?” ชายคนนั้นรวบรวมความกล้าเปิดปากขึ้นในที่สุด เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่เขาพูดทุกสายตาก็มองไปยังกู้เสี่ยวหวาน
หวานเอ๋อร์ เจ้ายังต้องการข้าอยู่หรือไม่?
คำเหล่านี้มีความหมายมาก!
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร!
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานสงบนิ่ง หากแต่กำลังเย้ยหยันอยู่ในใจ ช่างเป็นกลอุบายที่ดีจริง ๆ โรงน้ำชาอู่อวิ้นแห่งนี้เต็มไปด้วยคนมากมาย ถ้าชายคนนั้นกดนางไว้ใต้อาณัติได้ แม้จะมีร้อยปากนางก็ไม่สามารถแก้ตัวได้ และตอนนี้ชายคนนี้กำลังตะโกนชื่อของตัวเองออกมา แสดงราวกับว่าคุ้นเคยกับตนเองมาก
การเรียกชื่อนางอย่างสนิทสนมและใช้สายตาแบบนั้นมองตนเอง ไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่าชายคนนี้กับนางมีความสัมพันธ์กันแน่นอน
“เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาเรียกองค์หญิงของข้าด้วยความสนิทสนม ไอ้บ้าตัณหากลับระวังข้าจะตัดลิ้นเจ้า!” โค่วตันตะโกนด้วยความโกรธ
เมื่อชายคนนั้นได้ยินก็ก้มหน้าลงด้วยความตกใจ ร่างกายเริ่มสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นสิ่งนี้กู้ซินเถาจึงตะโกน “โค่วตัน เขาคือฉินเย่จือ ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้อยู่เคียงข้างเสี่ยวหวาน เจ้าคงไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา เขาคือคนรักของคุณหนูของเจ้า! ฉินเย่จือคนรักในวัยเด็ก!”
อะไรนะ?
ราวกับว่ามีเสียงฟ้าผ่าลงมากลางวันแสก ๆ ทุกคนมองไปที่ฉินเย่จือที่ไม่มีใครรู้จัก ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
ฉินเย่จือที่แสนธรรมดาคนนี้เป็นคนรักขององค์หญิงอันผิงหรือ?
ชายเตี้ยอ้วนหน้าตาอัปลักษณ์ เขาจะเป็นที่รักขององค์หญิงอันผิงที่งดงามราวกับนางเซียนได้อย่างไร!
“ไร้สาระ พวกเจ้าดูชายคนนี้สิ องค์หญิงอันผิงจะสนใจเขาได้อย่างไร!” บางคนไม่เชื่อ
“เจ้าจะไปดูถูกเขาได้อย่างไร อย่าลืมว่าเมื่อก่อนองค์หญิงอันผิงก็เป็นสามัญชนคนธรรมดา นางเป็นเพียงสาวชาวนายากจนที่ไม่มีแม้แต่เงินซื้ออาหาร! ข้าได้ยินมาว่าภายหลังนางรับขอทานเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของนางและเขาก็ช่วยนางได้มาก! ชีวิตของนางจึงค่อย ๆ ดีขึ้น!” บางคนเชื่ออย่างหมดใจ
การแสดงออกของกู้เสี่ยวหวานนั้นนิ่งสงบราวกับธารน้ำนิ่ง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไรก็ไม่มีระลอกคลื่นขึ้น
นางต้องการที่จะดูว่า ‘ฉินเย่จือ’ คนนี้ที่ปรากฏตัวมาจากที่ไหน และเหตุใดถึงการใส่ความนาง
ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนพบชายคนนี้!
เป็นหมิงตูจวิ้นจู่หรือ? นางไปหาผู้ชายคนนี้มาได้อย่างไร!
กู้ซินเถาแอบมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน ก็เห็นว่าใบหน้านั้นนิ่งเฉยไร้อารมณ์และไม่พูดอะไร จึงเกิดความกังวลเล็กน้อยและสบตา ‘ฉินเย่จือ’ คนนั้น เมื่อฉินเย่จือเห็นก็หันไปหากู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างรักใคร่ “หวานเอ๋อร์ นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้พบกัน เจ้าไม่ต้องการข้าแล้วหรือ? ข้ารู้ว่าข้ามันต่ำต้อย ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ หน้าตาธรรมดา ตอนนี้ข้าไม่คู่ควรกับเจ้าแล้ว แต่เราโตมาด้วยกัน ตอนนั้นเจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้า เป็นภรรยาของข้าและจะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิต เจ้าลืมไปแล้วหรือ”
ชายคนนั้นพูดด้วยความรักใคร่ราวกับกำลังระลึกถึงความทรงจำของกู้เสี่ยวหวาน “เจ้ายังจำได้ไหม? ครั้งหนึ่งที่เราขึ้นไปบนภูเขาด้วยกันและบังเอิญเจอเข้ากับหมาป่าตัวหนึ่ง มันจ้องจะกินเราเป็นอาหาร ตอนนั้นข้าพยายามช่วยเจ้าจนได้รับบาดเจ็บ ตอนข้าบาดเจ็บเจ้าก็เฝ้าข้าทั้งวันทั้งคืนจนหายดี เจ้าลืมไปแล้วหรือ? และนักพรตเต๋านอกรีตผู้นั้นกล่าวว่าเจ้าคือหายนะ หากข้าไม่มาช่วยเจ้า เจ้าคงถูกเผาอยู่ในทะเลเพลิง เรื่องเหล่านี้เจ้าลืมไปแล้วหรือ? เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกข้าว่าไม่อนุญาตให้มองหญิงใดและห้ามแตะต้องหญิงใด ชั่วชีวิตนี้ชอบได้เพียงเจ้าคนเดียว รักเพียงเจ้าคนเดียว ข้าก็ทำแล้ว ข้าไม่ไปรักคนอื่น รักแต่เจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงไม่ต้องการข้าล่ะ? หวานเอ๋อร์…”
‘ฉินเย่จือ’ กำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจ หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาทีละหยด ท่าทางเสียใจเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเป็นทุกข์
กู้เสี่ยวหวานนิ่งงันไม่ขยับเขยื้อน
ในตอนแรกทุกคนรู้สึกตกใจ แต่ตอนนี้พวกเขากลับมามีสติอีกครั้ง หลังจากฟังคำพูดของชายคนนั้นแล้วพวกเขาก็เชื่อในทันที ปรากฏว่าชายคนนี้มีอดีตมากมายกับกู้เสี่ยวหวาน
เขาช่วยกู้เสี่ยวหวานในเหตุการณ์ไฟไหม้และยังช่วยกู้เสี่ยวหวานจากปากหมาป่า ความเมตตาอันยิ่งใหญ่ กู้เสี่ยวหวานคนนี้มีจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่าหรือไม่? นางไม่ตอบแทนเขาด้วยซ้ำ? และยังขับไล่คนออกไปอีก?
มีหลายคนตำหนิแทน ‘ฉินเย่จือ’ “เจ้าบอกว่าเป็นคนรักขององค์หญิงอันผิง เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าคือฉินเย่จือ”
“ข้าคือฉินเย่จือ!” เมื่อเห็นใครบางคนถามเขา ชายคนนั้นรีบเช็ดน้ำตาและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ข้าคือฉินเย่จือ!”
พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้และไม่เคยรู้จักชื่อคนรักของกู้เสี่ยวหวาน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นใครบางคนมาหากู้เสี่ยวหวานและพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์เก่า ๆ ผู้คนต่างคาดเดาว่าบุคคลนี้ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกู้เสี่ยวหวานอย่างแน่นอน
แค่ไม่ได้คาดหวังว่าฉินเย่จือจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้! ท่าทางเขาธรรมดายิ่งนัก เมื่อมองดูท่าทางของเขา เขาก็ราวกับตัวตลกที่ไม่สามารถยืนอยู่บนเวทีได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงอันผิงจะไม่ต้องการเขา!
ทันใดนั้นมีคนพูดว่า “ตอนนี้นางคือองค์หญิงอันผิง เจ้าเป็นเพียงคนไม่มีตำแหน่งอะไร เจ้าจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร เจ้าควรรีบจากไปเสีย อย่านำความอับอายมาสู่ตัวเองเลย!”
ซึ่งหมายความว่ากำลังยืนยันว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังมีความสัมพันธ์กับบุคคลนี้!
กู้เสี่ยวหวานมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา เมื่อคนที่พูดรับรู้ถึงสายตานั้นก็รีบหุบปากฉับ
กู้ซินเถายืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่ฉินเย่จือ
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้พูดอะไร ฉินเย่จือจึงพูดทันทีว่า “หวานเอ๋อร์ เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว เจ้าคิดถึงข้าหรือไม่? ข้าคิดถึงเจ้าทั้งวันทั้งคืน คิดถึงใบหน้าของเจ้า คิดถึงจะตายอยู่แล้ว! เจ้าบอกว่าให้ข้าหายไปสักพักแล้วเจ้าจะแต่งงานกับข้า แต่ทำไมเจ้าไม่ให้ข้ากลับมา? และยังซ่อนตัวจากข้าตลอด ถ้าข้าไม่รู้ว่าวันนี้เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะหาเจ้าเจอได้อย่างไร!”