ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2092 ‘ฉินเย่จือ’ คร่ำครวญ
บทที่ 2092 ‘ฉินเย่จือ’ คร่ำครวญ
‘ฉินเย่จือ’ สะเทือนใจ ชายหนุ่มร้องไห้ปานจะขาดใจ ดวงตาฉ่ำน้ำจ้องมองกู้เสี่ยวหวานด้วยความรักใคร่เจือความเจ็บปวด
ตั้งแต่ชายหนุ่มผู้นี้โผล่มาจวบจนกระทั่งตอนนี้ หลายคนร้องกรูในใจ ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบเจอคนที่กู้เสี่ยวหวานพูดถึงอยู่เสมอ แต่เมื่อเห็นท่าทางของกู้เสี่ยวหวานดูเหมือนนางจะไม่ต้องการเจอเขาแม้แต่น้อย!
“องค์หญิงอันผิง คนคนนี้เป็นคนรักของท่านจริงหรือเปล่า? ท่านเคยบอกไม่ใช่หรือว่าท่านมีคนที่รักและในชีวิตนี้จะแต่งงานกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นหรือ? ทั้งยังบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาด้วย? ทำไมท่านถึงเป็นแบบนี้ เหมือนกับ…ความสัมพันธ์ระหว่างท่านสองคนไม่ค่อยดีนัก!”
เมื่อมีคนถามก็มีคนเห็นด้วย
“ใช่แล้ว ดูชายคนนี้สิ เขาดูเสียใจเพราะองค์หญิงอันผิงทอดทิ้งเขา!”
“ทอดทิ้งหรือ? ตอนนี้นางคือองค์หญิงอันผิง ชายผู้นี้…หน้าตาแบบนี้ ไม่ใช่แค่คนรับใช้ของใครบางคน รูปลักษณ์นี้จะคู่ควรกับองค์หญิงอันผิงได้อย่างไร ถ้าเป็นข้า ข้าก็ไม่ต้องการเขา!”
“เจ้าพูดอย่างนั้นไม่ได้ เจ้าไม่ได้ยินชายคนนั้นพูดหรือว่าเขาช่วยชีวิตองค์หญิงอันผิงไว้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถโหดร้ายกับผู้ช่วยชีวิตได้!”
ความจริงที่ว่ากู้เสี่ยวหวานทอดทิ้งผู้ช่วยชีวิตและคนรักของตนเองได้รับการยืนยันโดยคำพูดของทุกคน กู้ซินเถายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ มีเพียงความไม่สบายใจและความทุกข์ในดวงตาขณะมองไปที่ ‘ฉินเย่จือ’ เป็นครั้งคราวพลางถอนหายใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
กู้เสี่ยวหวานไม่ได้อธิบายและทุกคนก็ได้แต่คาดเดา และไม่มีใครได้คำตอบที่แท้จริง ดังนั้นจึงต้องมองไปที่กู้ซินเถา “ซินเถา เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องขององค์หญิงอันผิง เรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่ ชายคนนี้เป็นคนรักขององค์หญิงอันผิงจริงหรือ? ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ค่อยดีนักล่ะ! องค์หญิงอันผิงไม่ได้บอกว่าจะรักคนรักของนางไปตลอดชีวิตหรอกหรือ!”
แม้จะเป็นเพียงคำถาม แต่ใคร ๆ ก็สามารถได้ยินถึงเจตนาร้ายในนั้น
เมื่อกู้ซินเถาเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานหน้าบึ้งตลอดเวลาและไม่พูดอะไร ทุกคนจึงเชื่อว่ากู้เสี่ยวหวานจะต้องขับไล่ฉินเย่จือออกไปแล้ว และตอนนี้นางไม่สามารถหักล้างคำพูดของชายคนนั้นได้
ถ้านางหักล้างสิ่งนี้ คนอื่นก็จะถามอย่างแน่นอนว่าฉินเย่จือตัวจริงอยู่ที่ไหน? กล่าวอีกนัยหนึ่งองค์หญิงอันผิงมีชายสองคน คนหนึ่งคือฉินเย่จือและคนรักอีกคนคือใคร?
ไม่ว่านางจะพูดหรือไม่ก็เป็นการยืนยันว่านางสำส่อนและชอบทอดทิ้งคนอื่น
นอกจากนี้…
กู้ซินเถามองไปที่เครื่องประดับบนร่างกายของกู้เสี่ยวหวานและคร่ำครวญในใจ วันนี้ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานจะถูกทำลายจนป่นปี้!
โชคดีที่เรื่องของกู้เสี่ยวหวานเกิดขึ้นที่นี่ โชคดีที่ทุกคนไม่ได้เอ่ยอะไรมาก ถ้าซูหลินรู้เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน!
ขณะที่กู้ซินเถาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวใจของนางพลันเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ตราบใดที่ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานถูกทำลายจนป่นปี้ เสี่ยวซื่อจื่อซูหลินจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อครู่อย่างแน่นอน!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ความคิดของกู้ซินเถาเริ่มโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น และความปรารถนาของนางที่จะกำจัดกู้เสี่ยวหวานก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
กู้ซินเถาไม่ตอบคนที่ถามคำถามนี้ แต่ทำเพียงแค่เหลือบมองอีกฝ่าย จากนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอีกครั้งด้วยสายตาทุกข์ใจ “เสี่ยวหวาน อะไร… เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ความสัมพันธ์ของเจ้ากับพี่ใหญ่ฉินดีมาตลอดเลยไม่ใช่หรือ? เขาตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังเช่นนี้ได้อย่างไร!”
ที่แท้กู้ซินเถาเป็นคนพาชายคนนี้มานี่เอง!
นางเคยพบเห็นฉินเย่จือมาก่อน แน่นอนว่านางต้องการทำลายชื่อเสียงของตนเอง ถูกต้องแล้ว ด้วยปัจจัยทั้งสองอย่างนี้แค่กลอุบายเดียวก็สามารถทำลายชื่อเสียงของผู้หญิงได้ตลอดกาล!
‘ฉินเย่จือ’ ร้องไห้และพูดว่า “แม่นางกู้ เราไม่ได้เจอกันนานเลย!”
หัวใจของกู้ซินเถาเจ็บปวดมากขึ้น นางส่ายหน้าและถอนหายใจ “เราไม่ได้เจอกันมาสองสามปีแล้ว และพวกเจ้าก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!”
“เรื่องนี้ยากที่จะพูด หวานเอ๋อร์ต้องการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง แต่ข้าไม่อยากให้นางมา เดิมทีนางเป็นจวิ้นจู่อยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงมีลูกขุนนางหากหวานเอ๋อร์เห็นเข้า นาง…นาง…ข้าไม่มีอะไรเลย ข้ามีแต่นาง!” ชายคนนั้นกุมศีรษะและร้องไห้อย่างขมขื่น “ตอนนี้ แม้แต่นาง ข้าก็ไม่มีอีกแล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ครั้งสุดท้ายที่ข้าอาศัยอยู่ในสวนชิงก็นานมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของท่านเลย กลายเป็นว่า…” กู้ซินเถาถามอย่างเสียใจ
“หวานเอ๋อร์บอกว่ามีคนมากมายในสวนชิง หากมีข้าอีกคนก็จะมากเกินไป นางจึงให้ข้าไปที่อื่นและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองเพื่อที่ข้าจะได้แต่งงานกับนางในอนาคต! นั่นคือสิ่งที่ข้าคิดในตอนนั้น เมื่อคิดถึงฐานะอันต่ำต้อยของข้า ข้าจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร หากมีชีวิตที่ดีและประสบความสำเร็จ ข้าก็จะสามารถแต่งงานกับนางได้ แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรไม่ว่าพยายามเท่าไหร่ก็เทียบนางไม่ได้เลย ตอนแรกเป็นจวิ้นจู่ ตอนนี้เป็นองค์หญิง น้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้ ลูกสาวบุญธรรมของไทเฮา ในชีวิตนี้…ข้า…ข้า…” ชายคนนั้นหมอบลงกับพื้นเอามือกุมหัวอย่างเศร้าใจ
คำพูดของเขายังไม่จบ แต่ทุกคนก็เข้าใจ!
นางกำลังบินไปบนกิ่งไม้สูงจึงทอดทิ้งชายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา!
“หลังจากนั้นนางก็ไม่มาเจอข้าอีก นางอยู่ในสวนชิงทุกวัน ข้าจึงไม่เห็นนาง ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรออยู่ข้างนอก เมื่อรู้ว่าวันนี้นางมาที่นี่ ข้าจึงตั้งใจลองมา เป็นโชคดีของข้าและไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เจอนาง แต่…เจ้ากลับเฉยเมยต่อข้า หวานเอ๋อร์ ความอ่อนโยนและใจดีก่อนหน้านี้หายไปแล้ว? เมื่อก่อนเจ้าบอกข้าว่าในชีวิตนี้จะรักข้าคนเดียวและชอบแค่ข้าคนเดียว ตอนนี้เจ้าเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้อย่างไร? เจ้าเปลี่ยนไปได้อย่างไร? ทำไมเจ้าถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ! เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร!”
บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นฉินเย่จือบอกว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนทอดทิ้งเขา ขณะที่อาจั่วกำลังจะลบล้างข้อครหานี้กู้เสี่ยวหวานก็ดึงนางเพื่อส่งสัญญาณว่าอย่าทำอะไรผลีผลาม
นางต้องการดูว่ากู้ซินเถาจะมีแผนการอะไรอีก!
เมื่ออาจั่วและโค่วตันเห็นคุณหนูไม่ร้อนใจ ดังนั้นพวกนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ ยืนเคียงข้างเพื่อปกป้องคุณหนู และรอดูว่าเจอเกิดอะไรขึ้น