ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2093 มีปิ่นปักผมอีกอัน
บทที่ 2093 มีปิ่นปักผมอีกอัน
บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่พูดอะไร หลังจากคนรอบข้างได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นสตรีอย่างที่ทุกคนกล่าว สายตาของพวกเขาพลันกลายเป็นดูถูกเหยียดหยาม
“ข้าไม่คิดว่าองค์หญิงอันผิงจะเป็นคนเช่นนี้ ดูเหมือนว่าข่าวลือหนาหูก่อนหน้านี้จะไม่ใช่เรื่องโกหก!”
“ใช่ใช่ใช่ กล้าทำเรื่องไร้ยางอายยังจะกล้าเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงอังผิงจะเป็นคนเลวร้ายเช่นนี้!”
“ไม่ใช่แค่เลวร้าย แต่ยังน่ารังเกียจอีกต่างหาก!” บางคนถ่มน้ำลาย และพูดด้วยท่าทางขยะแขยง “เจ้าลองมองชายหนุ่มผู้ไร้เดียงสาและใสซื่อผู้นี้สิ เขาจะรู้ได้อย่างไรหญิงสาวคนนี้กำลังเล่นกับใจคน”
เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังพูดแทนตนเอง ‘ฉินเย่จือ’ ก็รีบแย้ง “พวกท่านอย่าพูดกับหวานเอ๋อร์เช่นนั้นเลย หวานเอ๋อร์รักข้า ไม่เช่นนั้น…นางจะไม่…นาง…!”
“นางทำอันใดอีก?” เมื่อพวกเขาได้ยินว่ายังมีเรื่องอีกจึงถามออกมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
‘ฉินเย่จือ’ นัยน์ตาแดงก่ำเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตามองไปที่กู้เสี่ยวหวาน พลางพึมพำเสียงเบา “นางเป็นของข้าแล้ว ในชีวิตนี้นางเป็นของข้าคนเดียว!”
บรึ้ม!
ความโกลาหลเกิดขึ้นในโรงน้ำชาทันที
กู้เสี่ยวหวานมองชายแปลกหน้าตนที่กำลังมองมาที่ตนเองด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรัก ความหลงใหลในดวงตาของเขาทำให้ผู้คนคิดว่าอีกฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกับคนจริง ๆ
“นางเป็นคนแบบนี้จริง ๆ ข้าขอบอกเลยว่าไม่มีมูลก็คงไม่มีข่าวลือ ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้จะมีใครพูดถึงเรื่องนี้ได้อย่างไร! สตรีผู้นี้ไร้ยางอายเช่นนัก การกระทำเสแสร้งของนางทำให้ดวงตาฮ่องเต้และไทเฮามืดบอด! ไร้ยางอายเช่นนี้จะเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ได้อย่างไร ไร้ยางอาย ไร้ยางอายเกินไป!”
“ใช่ ไร้ยางอายสิ้นดี!”
ใบหน้าของกู้ซินเถามืดมิด นางมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความไม่เชื่อและประหลาดใจเล็กน้อย “เสี่ยวหวาน เจ้า…เจ้ายังไม่ได้แต่งงาน! เป็นไปได้อย่างไร…เป็นไปได้อย่างไร? เขาล้อเล่นใช่ไหม?”
กู้เสี่ยวหวานมองกู้ซินเถาก่อนกระตุกยิ้มเย็นชา “อะไร? เจ้าแปลกใจหรือ?”
กู้ซินเถาดูโศกเศร้า “เสี่ยวหวาน เจ้าเป็นสตรีเพียบพร้อมขนาดนี้ เจ้ากล้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร! ถ้าเจ้าไม่ได้มอบกายให้เขา เจ้า…ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่คู่ควรกับเจ้า เจ้ายังสามารถแยกจากเขาได้! แต่ตอนนี้เจ้า…เป็นของเขาแล้ว กล้าดีอย่างไร…เจ้าทำอย่างนี้อนาคตจะแต่งงานกับใครได้! หรือว่าเจ้าคิดว่าตนเองเป็นองค์หญิงแล้ว คิดจะทำอย่างไรก็ได้หรือ?”
กู้ซินเถาตะโกนออกมาด้วยใบหน้าผิดหวัง “เจ้าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในตระกูลกู้ เจ้ากล้าทำสิ่งนี้ได้อย่างไร เสี่ยวหวาน บอกข้าสิว่าตอนที่ครอบครัวยากจน เขาบังคับให้เจ้าทำสิ่งนี้ใช่หรือไม่? ไม่สิ มันต้องใช่แน่ ๆ ต้องเป็นเขาที่บังคับเจ้าใช่หรือไม่? ข้าเคยคิดว่าเมื่อเขาปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี แท้จริงแล้ว… เสี่ยวหวาน เจ้าบอกข้ามาว่าเขาบังคับเจ้าใช่หรือไม่ เจ้าบอกข้ามาสิ เจ้าสารเลว เจ้ากล้ารังแกน้องสาวข้าได้อย่างไร เจ้ากล้ารังแกนางได้อย่างไร?”
กู้ซินเถาก้าวไปข้างหน้าอยากจะทุบตี ‘ฉินเย่จือ’ พร้อมสาปแช่งในเวลาเดียวกัน “เจ้าสารเลว เจ้าทำกับน้องสาวของข้าเช่นนี้ได้อย่างไร น้องสาวของข้ายังเด็ก! เจ้าสารเลว เจ้าสารเลว…”
ประโยคที่กลั่นมาจากปากกู้ซินเถาทำให้ทุกคนเช่นได้ชัดเจนว่ากู้เสี่ยวหวานได้มอบร่างกายของนางให้กับฉินเย่จือแล้ว นางไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานนิ่งเงียบไม่พูดจา ก่อนจะเบือนสายตามองไปยังกู้ซินเถากับ ‘ฉินเย่จือ’ ต่อสู้ด้วยสายตาเย็นชา ครั้นเห็นสายตาของกู้เสี่ยวหวาน ‘ฉินเย่จือ’ ทำเพียงแค่หลบตา ปิดปากเงียบราวกับเขายอมรับว่าตนเองและกู้เสี่ยวหวานมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากัน!
ช่างเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นดี
ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นจ้องฉากตรงหน้าตาไม่กะพริบเพราะกลัวว่าจะพลาดเหตุการณ์สนุกตรงหน้า สายตาบางคนมองสลับไปมาระหว่างกู้เสี่ยวหวานและชายคนนั้นอย่างเพลิดเพลิน มองดูแล้วมีชีวิตชีวา แน่นอนว่าไม่ว่านางจะโดดเด่นแค่ไหน ตอนนี้ก็เป็นเพียงรองเท้าขาดคู่หนึ่ง ในอนาคตผู้ใดจะยังต้องการนางอีก!
องค์หญิงจะทำอย่างไร ตอนนี้นางไม่บริสุทธิ์แล้ว!
คุณหนูเหล่านั้นที่มักจะอิจฉากู้เสี่ยวหวาน ตอนนี้เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นกลายเป็นสตรีหลายใจ พวกนางก็รู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองดีกว่ากู้เสี่ยวหวาน นอกจากนี้ยังมีการดูถูกเหยียดหยามและเย็นชา!
“อย่าทะเลาะกันเลย นางเต็มใจ นางเต็มใจ! นางพูดก่อนหน้านั้นว่าตราบเท่าที่ข้าสามารถดูแลครอบครัวและน้อง ๆ ของนางได้ นางจะอยู่กับข้าด้วยความสมัครใจ!” ‘ฉินเย่จือ’ ตะโกน
รูปลักษณ์ที่น่าอายของเขาทำให้ผู้คนดูถูกมากยิ่งขึ้น กู้เสี่ยวหวานคนนี้ตาบอดจริง ๆ ที่ไปตกหลุมรักคนที่ไม่คู่ควรเช่นนี้
“ปีนี้องค์หญิงอันผิงอายุเพียงสิบเจ็ดปี นี่… ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็ไม่ใช่…” มีคนหยอกล้อและมองกู้เสี่ยวหวานด้วยสายตาเยาะเย้ย
‘ฉินเย่จือ’ มองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อน “หวานเอ๋อร์ โปรดเอ่ยอะไรสักคำ เห็นได้ชัดว่าเป็นความสมัครใจของเจ้า เจ้าดูสิ ตอนที่เจ้าส่งข้าออกไปเจ้ายังให้ปิ่นปักผมนี้กับข้า เจ้ายังจำได้หรือไม่?”
หลังจากพูดจบ ‘ฉินเย่จือ’ ก็หยิบปิ่นปักผมออกจากหน้าอกออกมา เมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าปิ่นปักผมชิ้นนี้เป็นปิ่นปักผมที่ทำจากหยกขาวเนื้อ ฝีมือค่อนข้างประณีต คนตรงหน้ามีใบหน้าธรรมดา การแต่งกายก็ธรรมดาเป็นไปไม่ได้ที่ ‘ฉินเย่จือ’ ผู้มอมแมมคนนี้จะมีปิ่นปักผมดี ๆ แบบนี้!
“ปิ่นปักผมนี้…” กู้ซินเถาตกตะลึงเมื่อเห็นปิ่นปักผมนั้น จากนั้นถามกู้เสี่ยวหวานอย่างประหม่า “เสี่ยวหวาน ข้าไม่ได้ให้ปิ่นปักผมหยกขาวนี้แก่เจ้าหรอกหรือ? เกิดอะไรขึ้น? บนหัวของเจ้าก็มีอยู่อีกอันไม่ใช่หรือ? ทำไมเขายังมีอยู่ในมืออีกอันล่ะ?”
กู้ซินเถามองที่ปิ่นปักผมหยกสีขาวบนศีรษะของกู้เสี่ยวหวานอย่างสงสัย มันดูเหมือนกับที่อยู่ในมือของ ‘ฉินเย่จือ’ ทุกประการ!
“ดูสิ นางก็มีอีกอันหนึ่งอยู่บนศีรษะด้วย! นี่ ลักษณะของมันเหมือนกันทุกประการเลย!” มีคนอุทาน “ข้าได้ยินมาว่าเครื่องประดับชุดนั้นสร้างโดยปรมาจารย์โจว ในท้องตลาดมีชุดเดียว จะมีสองอันที่เหมือนกันได้อย่างไร!”
“ไม่ มันไม่เหมือนกัน ปิ่นปักผมในมือของเขามีคำว่าหวานสลักอยู่ มันคือปิ่นปักผมขององค์หญิงอันผิง”