ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2094 ท่านเป็นคนให้ข้ามา
บทที่ 2094 ท่านเป็นคนให้ข้ามา
“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์โจวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเครื่องประดับ ถ้าต้องการมอบให้ใครสักคนก็สามารถขอให้ปรมาจารย์โจวแกะสลักชื่อลงบนเครื่องประดับได้! ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีอักษรสลักอยู่บนปิ่นปักผมนี้ หมายความว่าปิ่นปักผมในมือของชายคนนี้เป็นขององค์หญิงอันผิง แล้วปิ่นปักผมบนศีรษะของนางมาจากไหน?”
ปรากฏว่าโจวหมิงเซวียนคือปรมาจารย์โจวของคนเหล่านี้!
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานสงบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใด คิ้วเรียงตัวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยราวกับจะบอกทุกคนว่าแท้จริงแล้วนางก็ตกใจกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน ทันใดนั้นกู้ซินเถาก็คว้าปิ่นปักผมมา และพูดเสียงดัง
“เสี่ยวหวาน ปิ่นปักผมบนศีรษะเจ้ากับปิ่นปักผมนี้เหมือนกับเครื่องประดับที่ข้าให้เจ้า ปิ่นปักผมบนศีรษะเจ้าได้มาอย่างไร?”
ครั้นเห็นกู้ซินเถาถามอย่างเกรี้ยวกราด กู้เสี่ยวหวานก็กระตุกยิ้มพลางปลดปิ่นปักผมออกจากผมแล้วพูดว่า “ท่านเป็นคนมอบเครื่องประดับศีรษะชุดนี้แก่ข้าเอง แต่ข้าสิต้องถามว่าเจ้าได้ปิ่นชิ้นนี้มาจากไหน?”
“เสี่ยวหวาน เจ้าลืมไปแล้วหรือ? วันนั้น…” ‘ฉินเย่จือ’ สงบลงและมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยแววตาเสน่หา จากนั้นพูดว่า “วันนั้นที่โรงน้ำชาอู่อวิ้น เจ้าเชิญข้าไปพบที่ห้องรับรอง เจ้าให้ปิ่นปักผมนี้แก่ข้าและยังบอกว่ารักข้า เจ้าลืมไปแล้วหรือ?” ‘ฉินเย่จือ’ ร้องไห้อย่างขมขื่น
เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน แววตานั้นเต็มไปด้วยความรักและทุกข์ใจ
“อ๋อ เข้าใจแล้ว องค์หญิงอันผิงมาที่นี่ในวันนั้น จริง ๆ วันนั้นนางก็สวมปิ่นปักผมอันนี้เช่นกัน!” เมื่อลูกค้าที่อยู่ที่นั้นในวันนั้นเอ่ยขึ้น “พวกเจ้ายังจำได้หรือไม่ วันนั้นเถ้าแก่เซี่ยวพูดคุยกับองค์หญิงอันผิงที่นี่ ข้าเองก็อยู่ที่นี่เหมือนกันและบังเอิญเห็นปิ่นปักผมนี้บนศีรษะของนาง ปิ่นชิ้นนี้งดงามมาก ทั้งสองชิ้นเหมือนกันทุกประการ!”
“ปิ่นปักผมนี้…เสี่ยวหวาน เหตุใดเจ้าโง่เขลาเช่นนี้! เจ้าจะมอบของขวัญใดให้เขาก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่สิ่งนี้! ปิ่นปักผมนี้มีเพียงชิ้นเดียวในเมืองหลวงแห่งนี้ ทุกคนต่างรู้ดี” กู้ซินเถาตกตะลึง
“ปรมาจารย์โจวคือใคร?”
“เจ้าไม่รู้หรือว่าปรมาจารย์โจวคือผู้ใด? เหอะเหอะ เขาคือ…ปรมาจารย์โจวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับคนใหม่ของเมืองหลวง สิ่งที่เขาทำขึ้นมาล้วนแต่มีชิ้นเดียว เครื่องประดับทุกชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และราคาของมันก็มีมูลค่าสูงเฉียดฟ้า”
“ชุดเครื่องประดับที่องค์หญิงอันผิงสวมใส่นั้นเป็นชุดเดียวในเตี่ยนชุ่ยฟาง มันถูกขายในราคาหลายหมื่นตำลึงเงิน ซึ่งเป็นราคาที่สูงยิ่งนัก!”
คนเหล่านั้นชี้ไปที่เครื่องประดับบนร่างกายและศีรษะของกู้เสี่ยวหวาน แน่นอนว่านอกจากนี้ยังเห็นต่างหูอันงดงามของกู้เสี่ยวหวานด้วย ต่างหูหยกสีขาวบริสุทธิ์ ปิ่นปักผมหยกสีขาวประดับด้วยด้ายสีทองบนศีรษะ บริเวณคอมีจี้หยกขาวเนียนขลับให้ลำคอนั้นดูเรียวระหง งดงามยิ่งนัก
“เครื่องประดับชุดเรียบง่ายแต่หรูหรา และมีราคาหลายหมื่นตำลึงหรือ? โอ้สวรรค์ มันแพงมาก!”
“หากเจ้าได้ครอบครองงานฝีมือของปรมาจารย์โจวสักชุด เจ้าจะรู้ว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป!” คนด้านข้างพูดด้วยความหลงใหล
กู้ซินเถาถือปิ่นปักผมไว้ในมือแล้วเดินไปถามกู้เสี่ยวหวาน “เสี่ยวหวาน ปิ่นปักผมบนศีรษะเจ้า เจ้าได้มาจากที่ไหน?”
“ท่านเป็นคนให้ข้ามา!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม
“เป็นไปไม่ได้ นี่คือปิ่นปักผมที่ข้าให้เจ้า!” กู้ซินเถาพูดอย่างหนักแน่น
“โอ้? ข้าบอกความแตกต่างระหว่างปิ่นปักผมตัวนี้ไม่ได้ ท่านพี่ซินเถา ท่านเห็นความแตกต่างระหว่างมันหรือไม่” ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานยังคงประดับรอยยิ้ม
“ตอนแรกข้าชอบปิ่นปักผมนี้มาก และอยากจะเก็บมันเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่ตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเรานั้นระหองระแหง ข้าจึงอยากจะมอบของบางอย่างให้กับเจ้าเพื่อประสานความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้นจึงตั้งใจซื้อเครื่องประดับศีรีษะชุดนี้แก่เจ้า! ข้าให้เจ้าด้วยความจริงใจ จึงไปขอให้คนสลักชื่อของเจ้าเอาไว้ แต่รอยสลักนั้นเล็กมากจนมองแทบไม่เห็นว่าเป็นชื่อเจ้า ถ้าไม่เชื่อข้าจะแสดงให้ทุกคนดู!” กู้ซินเถายกปิ่นในมือขึ้นและชี้ว่าคำนั้นอยู่ตรงไหนให้คนรอบข้างดู
“ใช่จริงด้วย มันมีชื่อของนางถูกสลักเอาไว้!” เมื่อผู้คนภายในร้านเห็นก็พยักหน้า
“แค่คำว่าหวาน เจ้ากลับบอกว่าเป็นปิ่นปักผมของข้าแล้วหรือ?” กู้เสี่ยวหวานมองกู้ซินเถาอย่างใจเย็น พลางเอ่ยเสียงเบา “ข้าไม่ใช่คนเดียวที่มีคำว่าหวานอยู่ในชื่อ!”
“เป็นไปได้อย่างไร? ข้าให้ปิ่นปักผมนี้กับมือเจ้า และปิ่นปักผมนี้ก็เป็นของเจ้า ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมอบให้คนอื่นเพื่อเป็นเป็นการแสดงความรัก เสี่ยวหวาน เจ้าทำแบบนี้ทำไม!” กู้ซินเถาเสียใจมาก!
กู้ซินเถาคิดเองเออเองว่ากู้เสี่ยวหวานนำปิ่นปักผมที่ตัวเองมอบให้ไปให้กับคนรักของนาง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่าสิ่งที่ ‘ฉินเย่จือ’ พูดว่าเป็นเรื่องจริง
กู้เสี่ยวหวานมองความภาคภูมิใจบนใบหน้าของกู้ซินเถาเงียบ ๆ “กู้ซินเถา ท่านทำเพื่อผลประโยชน์ของข้าหรือกำลังพยายามลากข้าให้ตกต่ำลง ถ้าท่านทำเพื่อผลประโยชน์ของข้า ท่านควรปฏิเสธว่าปิ่นปักผมนั้นไม่ใช่ของข้า ถ้าเจ้าอยากทำลายข้าก็จงยัดเยียดว่าปิ่นปักผมนี้เป็นของข้า! แต่ท่านแน่ใจหรือว่ามันเป็นของข้าจริง ๆ”
น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานนั้นเย็นเยียบ อย่างไรก็ตามตอนนี้ความคิดทั้งหมดของกู้ซินเถาจดจ่อไปยังปิ่นปักผมของกู้เสี่ยวหวาน จึงไม่ได้เข้าใจความหมายของกู้เสี่ยวหวานแม้แต่น้อย
วันนี้นางพร้อมเต็มที่ที่จะผลักกู้เสี่ยวหวานลงจากเหว ทำให้นางไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เลย
“เสี่ยวหวาน ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ! สิ่งที่เจ้ากำลังทำนั้นไม่ถูกต้อง เจ้าจะยังต้องปกปิดมันไว้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้เขามาถึงประตูบ้านของเจ้าแล้ว เจ้ายังจะปฏิเสธอยู่อีกหรือ? หากเจ้ายังปฏิเสธอยู่ต่อไป ไม่รู้ว่าใครจะเอาไปโพนทะนาที่ไหนอีก เจ้าเป็นสมาชิกของตระกูลกู้ เจ้าเสียหน้าได้ แต่ตระกูลกู้ทำไม่ได้ หนิงอันยังทำงานอยู่ในกรมคลัง เสี่ยวอี้และท่านอาก็ยังอยู่ในเมืองหลวง หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ ในอนาคตพวกเขาจะทำตัวอย่างไร!” กู้ซินเถาได้ยืนยันแล้วว่าปิ่นในมือของ ‘ฉินเย่จือ’ เป็นของกู้เสี่ยวหวาน และนางแทบรอไม่ไหวที่จะผลักดันทุกสิ่งที่ ‘ฉินเย่จือ’ พูดให้กู้เสี่ยวหวานยอมรับว่านางเป็นเจ้าของเรื่องนี้ทั้งหมด