ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2095 เจ้าเป็นผู้หญิงไม่ดี
บทที่ 2095 เจ้าเป็นผู้หญิงไม่ดี
“ท่านอาก็เช่นกัน!” กู้ซินเถาพูดอย่างประหม่า “เจ้าทำเรื่องแบบนี้แต่นางไม่แม้แต่จะห้ามเจ้าเลยสักนิด นั้นก็เพราะนางเป็นอาของเจ้า! ส่วนหนิงอัน เสี่ยวอี้ เจ้าเสียสละมากมายเพื่อพวกเขา พวกเขารู้หรือไม่?”
ไม่เพียงแต่จะตำหนิกู้เสี่ยวหวานคนเดียวเท่านั้น แต่ยังลากกู้หนิงอันและกู้เสี่ยวอี้เข้ามาพัวพัน จุดประสงค์คือทำให้ทุกคนดูถูกกู้หนิงอันและคนอื่น ๆ!
เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นว่ากู้ซินเถาพูดถึงน้องชายและน้องสาวของตนเองทีละคน แต่กลับไปเอ่ยถึงคนในครอบครัวตนเองเลย ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือสมาชิกของครอบครัวรองตระกูลกู้ และคนไร้ยางอายก็มาจากครอบครัวรองเช่นกัน ดูไม่เหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวใหญ่ของนางเลยสักนิด!
จะเกี่ยวข้องได้อย่างไร
กู้ซินเถารู้ว่าตราบใดที่กู้เสี่ยวหวานล้มลงครั้งนี้ ในอนาคตนางจะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของจวนหมิงอ๋อง ซูหลินต้องพานางเข้าจวนหมิงอ๋องแน่นอน! จากนี้ไปนางจะเป็นเซ่อเฟยของเสี่ยวซื่อจื่อ ผู้ใดจะกล้าทำให้นางขุ่นเคืองใจ
กู้ซินเถาวางแผนมาอย่างแยบผล เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานนิ่งเงียบไม่โต้แย้ง นางก็รู้สึกภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนกู้เสี่ยวหวานไม่มีความตั้งใจจะต่อต้านแม้แต่น้อย!
ก็แค่ปิ่นปักผมชิ้นหนึ่ง กู้เสี่ยวหวานก็ไม่มีคำอธิบาย!
ปิ่นปักผมนี้ทำขึ้นโดยปรมาจารย์โจว ทั้งอาณาจักรต้าชิงมีเพียงอันเดียว และปิ่นที่อยู่ในมือนางก็ถูกทำโดยปรมาจารย์โจว!
ในเวลานั้น เครื่องประดับศีรษะที่นางมอบให้กู้เสี่ยวหวานนั้นทำโดยปรมาจารย์โจว ทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเขา แต่มีปิ่นปักผมเพียงอันเดียวเท่านั้นที่เขาทำขึ้น…
กู้ซินเถามองปิ่นปักผมในมือของนาง พลางเย้ยหยันอยู่ในใจ กู้เสี่ยวหวานนะกู้เสี่ยวหวาน มาดูกันว่าในครั้งนี้เจ้าจะอธิบายอย่างไร!
ถ้ากู้เสี่ยวหวานบอกว่าเดิมทีนางเป็นคนให้ปิ่นปักผมมา กู้ซินเถาเถียงหัวชนฝาว่านางมอบเครื่องประดับศีรษะหลายอย่างให้อีกฝ่าย ไม่ใช่ปิ่นปักผมเพียงอันเดียว แต่บนศีรษะของนางยังมีปิ่นปักผมอีกอัน เรื่องนี้จะอธิบายได้อย่างไร!
ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร กู้เสี่ยวหวานก็อธิบายไม่ได้!
กู้เสี่ยวหวานนะกู้เสี่ยวหวาน ครั้งนี้ข้าจะเป็นคนทำลายชื่อเสียงของเจ้าเอง!
กู้เสี่ยวหวานยังปิดปากเงียบไม่พูดจา กู้ซินเถาก็ก้าวเข้าใกล้เส้นชัยมากขึ้นเรื่อย ๆ!
ใบหน้าของทั้งสอง คนหนึ่งสงบนิ่งราวกับธารน้ำนิ่ง ส่วนอีกคนหนึ่งขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ชัดเจนว่าใครกำลังมีความสุข!
“เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?” ในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็เอ่ยขึ้น และมองไปที่ ‘ฉินเย่จือ’ ที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อ ‘ฉินเย่จือ’ ได้ยิน หยาดน้ำตาที่หยุดไปแล้วพลันร่วงหล่นลงมาทีละหยด และร้องไห้อย่างขมขื่น “หวานเอ๋อร์ เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ? เมื่อเราสองคน…พบกัน เจ้าก็บอกว่าเจ้าจะรักข้าตลอดไป เจ้าลืมไปแล้วหรือ? สถานะองค์หญิงสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ? มันสำคัญมากถึงขนาดต้องยอมเสียคนที่เจ้ารักที่สุดไปเลยหรือ!”
“หวานเอ๋อร์ ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่เจ้ายังเด็ก ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว ความสัมพันธ์สิบปีของเราเทียบไม่ได้กับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งที่เจ้าได้เลยงั้นหรือ? ใช่สิ ตอนนี้เจ้ากำลังรุ่งเรือง อย่างไรก็ตามความมั่งคั่งและอำนาจในมือเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะในเวลานั้นข้าทำงานหนักเพื่อพวกเจ้าแล้ว เจ้าทั้งสี่คนจะมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร? หวานเอ๋อร์ เกิดเป็นคนต้องมีมโนธรรม!” ฉินเย่จือกล่าวอย่างเศร้าใจ
กู้ซินเถาช่วยพูด “เดิมทีข้าต้องการช่วยญาติของข้า แต่ตอนนี้… เสี่ยวหวาน เจ้าทำเช่นนี้จะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ ท่านพี่ใหญ่ฉินอยู่กับเจ้ามาหลายปีแล้วเขาได้ช่วยเจ้าเอาไว้มาก ในตอนนั้นครอบครัวรองของตระกูลกู้ยืนหยัดได้อย่างทุกวันนี้ทุกคนล้วนมองเห็นได้ชัดเจน ตอนนี้ข้าไม่กลัวแล้วว่าจะพูดอะไรออกมาจนทำทุกคนหัวเราะเยาะ ในตอนนั้นบ้านของท่านอารองยากจนข้นแค้น ทุกวันล้วนกินไม่อิ่มเสื้อผ้าที่สวมก็ไม่อุ่น เสี่ยวหวานยังจำช่วงเวลาเหล่านั้นได้หรือไม่?”
คำพูดของกู้ซินเถารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ประโยคสุดท้ายดูเหมือนต้องการย้อนถามกู้เสี่ยวหวาน “เจ้าอย่าลืมว่าใครช่วยให้เจ้าได้กินดีอยู่ดีอย่างในปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ฉิน วันนี้เจ้าจะยังประสบความสำเร็จเช่นนี้อยู่หรือ? เจ้าอย่าลืมว่าตนเองเป็นใคร เสี่ยวหวาน เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
ทำเกินไป?
กู้เสี่ยวหวานมองกู้ซินเถาที่กำลังตำหนิตนเองด้วยรอยยิ้มประดับใบหน้าตลอดเวลา เมื่อรอยยิ้มปรากฏขึ้นมุมปากของกู้เสี่ยวหวาน ดวงตาสีเข้มดูเหมือนจะมีแสงประกายแวววาบ ทำให้คนมองเกิดอาการหวาดหวั่นเล็กน้อย
ตอนนี้กู้ซินเถาไม่มีเวลามาสนใจอีกฝ่ายมากนัก นางพูดไปแล้วว่ากู้เสี่ยวหวานทำอะไร ตอนนี้ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายแล้วว่าจะแก้ต่างเรื่องนี้อย่างไร
นางจะกล้าบอกหรือไม่ว่าตอนนี้นางยังบริสุทธิ์อยู่? กู้ซินเถาไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางอยู่กับฉินเย่จือมานานหลายปีแล้ว ทั้งสองคนอาศัยอยู่ด้วยกันในทุกวัน จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรือ โกหกทั้งเพ!
ผู้คนรอบด้านเริ่มเข้าใจเรื่องระหว่างกู้เสี่ยวหวานและ ‘ฉินเย่จือ’ ทีละนิด ตอนนี้จึงเริ่มกระซิบกระซาบหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในงานเลี้ยงวันนี้ ถ้าเรื่องนี้ลือไปถึงวังหลวง กู้เสี่ยวหวานคงกลายเป็นขี้ปากของคนทั่วทั้งเมือง
บริสุทธิ์? โกหกทั้งเพ! ในอนาคตจะไม่มีตระกูลใดต้องการผู้หญิงคนนี้!
น่าขยะแขยง น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!
“ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องราวความรักขององค์หญิงอันผิงจะหวานซึ้งเช่นนี้ นางพบรักกับชายแปลกหน้าตอนอายุแปดขวบ เหอะเหอะ เกรงว่าในเมืองหลวงทั้งหมด… ไม่สิ น่าจะภายในอาณาจักรต้าชิงจะไม่มีคนไร้ยางอายเช่นนี้!” คนเอ่ยวาจาเสียดสีกู้เสี่ยวหวานเป็นคุณหนูที่ขอกู้เสี่ยวหวานตัดสินบทกวีของตนให้ และนางกำลังมองกู้เสี่ยวหวานด้วยสีหน้าดูถูก!
“ไม่ใช่หรือ องค์หญิงอันผิงรูปโฉมงาม นางควรจะหาผู้ชายที่หน้าตาดีกว่านี้ได้ ทำไมนางถึงต้องการผู้ชายธรรมดาและอัปลักษณ์แบบนี้ มันน่าตกใจจริง ๆ! เจ้าคิดว่าหลังจากนี้นางจะหาผู้ชายแบบไหนได้อีก?”
“ยังจะหาอยู่อีกหรือ” ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะ “จะหาได้อย่างไร? นางมอบร่างกายให้ชายอื่นไปแล้ว จะยังหาใครได้อีก? ใครจะยังต้องการนางอีก? ต่อให้เป็นครอบครัวธรรมดาก็คงไม่ต้องการนาง ใครอยากได้ผู้หญิงที่สกปรกเช่นนี้!”
“ในอนาคต คงได้แต่มองหาทาสที่มีสถานะต่ำต้อยเท่านั้น! เพื่อสถานะ บางทีนางอาจจะไม่สนใจมากนัก! ฮ่าฮ่า…”
เสียงหัวเราะที่ตื่นเต้นดังขึ้นทั่วทั้งชั้นสอง เมื่อเห็นเช่นนี้อาจั่วก็ทนไม่ได้อีกต่อไป นางก้าวไปข้างหน้าและอยากจะเถียงกลับคนพวกนั้น แต่เมื่อเห็นสายตาของกู้เสี่ยวหวานชำเลืองมองมา อาจั่วได้แต่ระงับความโกรธและถอยหลังออกไป “คุณหนู คนเหล่านี้กล่าวหาท่านมากเกินไปแล้ว! ข้า…”