ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2098 มีคนตกจากชั้นสอง
บทที่ 2098 มีคนตกจากชั้นสอง
ปิ่นในมือของกู้เสี่ยวหวานมีรอยแกะสลักบริเวณส่วนปลาย เมื่อนำปิ่นปักผมอีกอันมาเปรียบเทียบผู้ที่ได้เห็นก็สามารถบอกได้ทันทีว่าปิ่นปักผมในมือของกู้เสี่ยวหวานนั้นทำโดยปรมาจารย์โจว!
กู้ซินเถาต้องการบอกทุกคนว่าปิ่นปักผมในมือของนางเป็นของจริง หากแต่นางจะเอ่ยออกไปได้อย่างไร ถ้านางพูดเช่นนั้น กู้เสี่ยวหวานคงจะถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมนางถึงมั่นใจนัก!
ใช่ ทำไมนางถึงมั่นใจนักล่ะ?
กู้ซินเถากลืนคำพูดที่เกือบจะโพล่งกลับลงไป และตอนนี้เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่พึงพอใจของกู้เสี่ยวหวาน และสุดท้ายในที่สุดนางก็เข้าใจ ตอนแรกกู้เสี่ยวหวานเตือนตัวเองแล้วว่าปิ่นปักผมบนศีรษะของนางเป็นของจริง!
เป็นไปได้หรือไม่ว่าปิ่นในมือของนางเป็นฝีมือของปรมาจารย์โจวจริง ๆ? จะเป็นไปได้อย่างไร? ปรมาจารย์โจวจะไม่ทำปิ่นปักผมรูปแบบซ้ำเว้นแต่…
เมื่อกู้ซินเถาคิดถึงสิ่งนี้ นางก็ตกใจทันทีและเอ่ยว่า
“ข้าจำได้ว่าข้าไปที่เตี่ยนชุ่ยฟางเพื่อซื้อปิ่นปักผมชิ้นนี้ เถ้าแก่ของเตี่ยนชุ่ยฟางบอกว่าปิ่นปักผมนี้เป็นผลงานของปรมาจารย์โจว และมีเพียงอันเดียวในใต้หล้า ตอนนั้นข้าซื้อมันมาเพราะชอบปิ่นปักผมอันนี้มากและต่อมาจึงคิดมอบมันให้กับน้องสาวตนเอง ข้าขอให้สาวใช้หาคนมาสลักชื่อ ปิ่นนี้ต้องถูกสร้างโดยปรมาจารย์โจวอย่างแน่นอน!”
กู้ซินเถายังคงบอกว่าปิ่นปักผมชิ้นนี้เป็นของปรมาจารย์โจว ทุกคนจึงมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและกู้ซินเถาอย่างสงสัย “ปรมาจารย์โจวจะทำปิ่นปักผมเพียงอันเดียวเท่านั้น ในเมื่อเจ้าบอกว่าของในมือเป็นของจริง และในมือองค์หญิงก็เป็นของจริงเช่นกัน สรุปแล้วของผู้ใดเป็นของจริงกันแน่?”
ทุกคนมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและกู้ซินเถาราวกับกำลังจ้องจับผิดว่าใครกำลังโกหก
ทันใดนั้นมีใครบางคนเปิดปากพูดขึ้น “มันไม่ง่ายเลยใช่ไหม? ไปพบปรมาจารย์โจวก็จะรู้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ใช่แล้ว ไปหาปรมาจารย์โจวก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? ปรมาจารย์โจวจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม!”
“ใช่ใช่ใช่ ไปหาปรมาจารย์โจวกันเถอะ!” กู้ซินเถาพูดเสียงดังด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
นางแน่ใจว่าปิ่นปักผมในมือของนางต้องเป็นฝีมือของปรมาจารย์โจว และปิ่นในมือของกู้เสี่ยวหวานต้องเป็นของปลอม!
กู้เสี่ยวหวานก้มหน้าลงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา กำปิ่นปักผมในมือแน่น เมื่อเห็นดังนั้นทุกคนเห็นก็เริ่มสับสนเล็กน้อย!
เมื่อกู้ซินเถาเห็นการแสดงออกของกู้เสี่ยวหวาน นางก็รู้สึกภาคภูมิใจและก็แน่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าปิ่นปักผมที่อยู่ในมือของกู้เสี่ยวหวานต้องเป็นของปลอม!
“เสี่ยวหวาน เจ้าพูดความจริงเถอะ ถ้าปรมาจารย์โจวมา มันจะไม่ยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างดูแย่ลงหรอกหรือ” กู้ซินเถากล่าว
“…” กู้เสี่ยวหวานยังนิ่งเงียบ หลังจากมองกู้ซินเถาแล้วก็ลดศีรษะลง ท่าทางดูหวาดกลัวเล็กน้อย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ‘ฉินเย่จือ’ ที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มพูดอีกครั้ง “หวานเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงกลายเป็นแบบนี้ สิ่งของที่เจ้ามอบให้ข้าเป็นของปลอมงั้นเหรอ เจ้าให้ปิ่นปักผมนี้กับข้า มันจะเป็นของปลอมได้อย่างไร! ข้าผิดหวังในตัวเจ้านัก ข้าปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความดี แต่เจ้ากลับปฏิบัติต่อข้าแบบนี้ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าในตอนนั้นข้าสนับสนุนครอบครัวเจ้าอย่างไร ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร เจ้าลืมไปแล้วหรือ? เจ้ามีจิตใจโหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร?”
‘ฉินเย่จือ’ ตะโกนใส่กู้เสี่ยวหวานด้วยความเจ็บปวด ความสิ้นหวัง ความเศร้าโศกฉายชัดบนใบหน้าของเขา ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นนั้นตกใจ “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าจะใจร้ายขนาดนี้ได้อย่างไรในเมื่อข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ข้าทำทุกอย่าง ข้ายอมมอบทุกอย่างที่มีให้เจ้า เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายถึงเพียงนี้?”
‘ฉินเย่จือ’ คำราม “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ามันผู้หญิงแพศยา เจ้ากล้าดีอย่างไรมาโกหกข้า เจ้าโกหกความรู้สึกของข้า โกหกให้ข้าทำสิ่งต่าง ๆ ให้เจ้า โกหกข้าเพื่อให้หาเงินให้ ตอนนี้เจ้าประสบความสำเร็จก็อยากจะผลักไสไล่ส่งข้างั้นเหรอ ฝันไปเถอะ เจ้าฝันไปเถอะ ต่อหน้าผู้คนในวันนี้ ข้าจะฉีกหน้ากากของเจ้าออกให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ เล่นกับความรู้สึกของข้า ได้ประโยชน์จากข้าเสร็จก็เขี่ยทิ้ง เจ้าฝันไปเถอะ!”
ชายคนนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุร้ายด้วยใบหน้าโกรธเคืองและพุ่งไปหากู้เสี่ยวหวานอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเห็นเขาพุ่งเข้าหาตัวเอง กู้เสี่ยวหวานก็ผงะถอยหลังด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสิ่งนี้อาจั่วและโค่วตันเข้ามาขวางด้านหน้ากู้เสี่ยวหวานไว้ “กล้าดีอย่างไร!”
แต่ ‘ฉินเย่จือ’ ที่คลุ้มคลั่งราวหมาบ้าจะยอมแพ้ได้อย่างไร เมื่อเขาเห็นผู้หญิงสองคนยืนประชันหน้ากับตนเอง เขาก็เพิกเฉยต่อพวกนางและรีบพุ่งไปหากู้เสี่ยวหวานด้วยกำลังทั้งหมดของเขา!
อาจั่วและโค่วตันไม่ได้หวาดกลัว เมื่อพวกนางเห็นเขาพุ่งเข้ามาอย่างไม่หวั่นเกรง พวกนางก็ส่งสายตาให้กัน จากนั้นโค่วตันก็คว้าตัวกู้เสี่ยวหวานและก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
อาจั่วเองก็เตรียมตัวพร้อมที่จะต่อสู้ตลอดเวลา ร่างกายของนางตั้งตรงพร้อมโจมตีทุกเมื่อ
กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าชายคนนั้นวิ่งพุ่งเข้าใส่ตนเองอย่างไม่ลังเล อาจั่วหาได้หวั่นเกรง แต่ตอนนั้นนางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อนางมองไปที่กู้ซินเถาที่กำลังภาคภูมิใจก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างได้ทันที
เมื่อเห็นว่าอาจั่วยกขาขึ้น กู้เสี่ยวหวานก็ตกใจ
อาจั่วเก่งศิลปะการต่อสู้ เรื่องนี้นางรู้ดี ถ้าอีกฝ่ายโดนการโจมตีนี้ของอาจั่วหากไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต หากเป็นเช่นนั้นเกรงว่าพวกนางอาจตกหลุมพรางของกู้ซินเถา!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้กู้เสี่ยวหวานก็ตะโกนว่า “อาจั่ว อย่าทำร้ายเขา!”
ขาของอาจั่วเหยียดชะงักค้างอยู่กลางอากาศ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของกู้เสี่ยวหวานก่อนจะกระโดดถอยหลังไปทันทีอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของชายคนนั้นเร็วจนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ ทำให้ร่างกายของเขาพุ่งใส่ราวบันไดข้างหน้า ราวบันไดไม่สามารถรับน้ำหนักชายร่างใหญ่ จึงทำให้มันค่อย ๆ หักลงอย่างช้า ๆ ส่งผลให้ร่างกายของชายหนุ่มตกลงไปด้านล่าง
ผู้คนในห้องโถงดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจและตกตะลึงทันที พวกเขาเพิ่งเห็นร่างอ้วนฉุพุ่งใส่รั้วไม้ และตกลงไปยังห้องโถงชั้นหนึ่ง
ทุกคนตกตะลึงและได้ยินเพียงเสียงชายคนนั้นร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร เขาตกลงไปจากชั้นสอง…