ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2110 พบคนรู้จัก
บทที่ 2110 พบคนรู้จัก
หลังจากได้ยินคำพูดคล้ายสั่งการของกู้ฉวนลู่ ซุนซีเอ๋อร์ก็รีบพยักหน้าด้วยความกังวลใจราวกับตนเองเป็นสาวใช้ในบ้าน กู้ซินเถาสัมผัสท้องของนางที่ยังไม่นูนออกมาด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง นางไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและแม่ของตนดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับคนรับใช้มากกว่าสามีภรรยา
แม้ว่านางจะเห็นมัน นางก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องของนาง
ซุนซีเอ๋อร์ส่งกู้ฉวนลู่ออกไปด้วยความเคารพนอบน้อม วันนี้ได้ยินมาว่ากู้ฉวนลู่ขอลาหยุดงานจึงไม่จำเป็นต้องไปที่ร้านอาหาร แต่กู้ฉวนลู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม แล้วออกจากบ้านไปด้วยท่าทางร่าเริงราวกับว่าเขาคือคุณชายกู้ที่เมื่อหลายปีก่อนทุกคนในหมู่บ้านเคารพเขา
เมื่อเห็นกู้ฉวนลู่เดินออกมาจากลานบ้านพร้อมกับเชิดหน้าสูง ซุนซีเอ๋อร์ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป “สามี คืนนี้ท่านจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้านหรือไม่?”
กู้ฉวนลู่ไม่ตอบคำถาม ไม่ได้หยุดฝีเท้าและเดินออกจากบ้านไปราวกับไม่ได้ยินคำถามของภรรยา ทิ้งซุนซีเอ๋อร์ไว้ตรงนั้นอย่างโดดเดี่ยวก่อนจะค่อย ๆ หลั่งน้ำตาออกมา
กู้ซินเถาตกอยู่ในภวังค์และตัดสินใจเตรียมชุดแต่งงาน และเรียกซุนซีเอ๋อร์เข้ามาเพื่ออธิบายสิ่งที่ตนเองต้องการ จากนั้นซุนซีเอ๋อร์ก็รีบออกไป
กู้ซินเถาต้องการสวมชุดแต่งงานสองชุด แม้ว่านางจะยังไม่ได้แต่งงานเข้าจวนหมิงอ๋อง แต่ชุดแต่งงานนี้จะทำขึ้นอย่างลวก ๆ ไม่ได้
กู้ซินเถามอบเงินส่วนตัวบางส่วนแก่ซุนซีเอ๋อร์ กู้ซินเถาต้องการเครื่องประดับศีรษะของร้านเตี่ยนชุ่ยฟางและชุดแต่งงานของร้านขายผ้าจิ่นซิ่ว ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินค่อนข้างมาก แต่ซุนซีเอ๋อร์ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นดังนั้นนางจึงต้องเรียกหาใครสักคน
ซุนซีเอ๋อร์เดินจากบ้านเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนน ปกติแล้ววันธรรมดาเช่นนี้นางไม่ค่อยออกไปไหน หากต้องออกไปข้างนอกก็จะไปเพียงซื้ออาหารในตลาด ตอนนี้ร้านเตี่ยนชุ่ยฟางและร้านขายผ้าจิ่นซิ่วเป็นที่นิยมมากที่สุด และตั้งอยู่ในถนนที่คึกคักที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งมีระยะห่างจากบ้านที่นางอาศัยค่อนข้างมาก
ซุนซีเอ๋อร์เดินไปเรื่อย ๆ นางคอยถามผู้คนไปตลอดทางจนกระทั่งมาถึงถนนเส้นที่คึกคักที่สุด นางมองร้านค้าที่ตกแต่งอย่างโอ่อ่า ลูกค้าที่เข้าร้านต่าง ๆ ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชั้นดีและโดยสารด้วยรถม้าคันงาม มันทำให้ซุนซีเอ๋อร์รู้สึกทึ่งกับสิ่งเหล่านี้เล็กน้อย
หลังจากเดินหาอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดนางก็เจอร้านเตี่ยนชุ่ยฟาง เถ้าแก่ร้านเตี่ยนชุ่ยฟางรู้จักกู้ซินเถาและซุนซีเอ๋อร์ เพียงแค่เอ่ยชื่อกู้ซินเถา ลูกจ้างของร้านก็รีบปรี่ไปหยิบของหลายอย่างออกมาทันที ทั้งยังบอกว่ารอให้ลูกจ้างในร้านอีกคนมาแล้วจะนำของไปส่งให้ที่บ้าน
ซุนซีเอ๋อร์ไม่สามารถเอาของมากมายนั้นกลับบ้านด้วยตนเองได้ จึงตกลงให้พวกเขานำสิ่งของไปส่งที่ร้าน ตอนที่จะมุ่งหน้าไปร้านต่อไป ทันใดนั้นก็มีคนดึงแขนเสื้อนาง และเอ่ยเรียกชื่อนางด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อ
“ฮูหยินกู้…”
ฮูหยินกู้?
ตั้งแต่นางย้ายมาเมืองหลวงก็ไม่มีใครเรียกชื่อฮูหยินกู้อีกเลย ซุนซีเอ๋อร์คิดว่าตนเองหูฝาด นางจึงก้าวเท้าเตรียมเดินต่อ แต่คนด้านหลังนั้นจับแขนเสื้อของนางไว้ปล่อย “ฮูหยินกู้ ฮูหยินกู้…”
เมื่อซุนซีเอ๋อร์หันศีรษะไปมอง ก็พบกลับใบหน้าอันคุ้นเคย “ฮูหยินเหลียง…”
หญิงคนนั้นคือภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านอู๋ซี เวลานี้ใบหน้ามอมแมมดูเหนื่อยล้า เบ้าตาลึกโบ๋ ริ้วรอยเหี่ยวย่น เวลาผ่านไปไม่กี่ปีนางกลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ซุนซีเอ๋อร์ดูงุนงงก่อนจะจับมือฮูหยินเหลียงแล้วถามว่า “ฮูหยินเหลียง เจ้าเป็นอะไรไป? เกิดอันใดขึ้นหรือเปล่า?”
ยังไม่ทันฮูหยินเหลียงจะเริ่มพูดนางก็ถอนหายใจ และหลั่งน้ำตาออกมา “ฮูหยินกู้ เรื่องนี้ยากที่จะเอ่ยออกมาเหลือเกิน!”
ทั้งสองคนพบแผงขายน้ำชาราคาถูก จึงเลือกที่จะนั่งคุยกันที่นี่ซุนซีเอ๋อร์ที่ฟังเรื่องราวของฮูหยินเหลียงจบแล้วก็ถอนหายใจ จึงทราบเรื่องว่าลูกชายและลูกสะใภ้ของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่ทำงานอยู่ต่างเมืองจู่ ๆ ก็ล้มป่วยจากไป หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและภรรยาของเขาก็ไปสร้างเรื่องจนถูกเรียกเงินชดเชย
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและภรรยาของเขาต่างสูญเสียลูกไป กลายเป็นคนผมขาวต้องมาส่งคนผมดำเสียเอง ตอนนี้พวกเขาก็อายุมากแล้วหลังจากรับเงินไป เดิมทีมีแผนที่จะใช้เงินเพื่อสู่ขอหญิงสาวที่ดีให้เหลียงต้าเปา พวกเขาสองคนได้แต่คอยช่วยเหลือหลานรักอยู่ห่าง ๆ และชีวิตของเขาก็อยู่ต่อไปได้ดี ความคิดของพวกเขานับว่าเป็นหนทางที่ดี
ยามนั้นเหลียงต้าเปาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งสองชมชอบกันและกัน แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรหลังจากมอบของขวัญหมั้นให้หญิงสาวแล้ว นางปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับสามีนาง และบอกว่าเหลียงต้าเปาลวนลามนาง จึงทำให้ต้าเปาถูกสามีนางทุบตีจนได้รับบาดเจ็บนอนติดเตียงอยู่ครึ่งปี และเพื่อที่จะรักษาเหลียงต้าเปา ทั้งบ้าน เงินจึงถูกขายและใช้ไปจนหมด จนกระทั่งพวกเขาสิ้นเนื้อประดาตัว
แต่อย่างไรก็ตาม เหลียงต้าเปาได้รับการช่วยชีวิตขึ้นมา และเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นความผิดของใคร หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจึงไม่ต้องการทำงานในหมู่บ้านต่อไป เขาจึงเก็บสัมภาระแล้วออกมาหางานทำและลงหลักปักฐาน
หลังจากที่ซุนซีเอ๋อร์ได้ยินก็หลั่งน้ำตา หลังจากถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของเหลียงต้าเปาก็รู้ว่าเขาสบายดี เช่นนั้นหัวใจของนางก็จมดิ่ง
“ข้าเฝ้ามองต้าเปาจนเติบใหญ่ เขากับซินเถาของข้าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เฮ้อ ข้าหวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ต้าเปาเป็นคนดีและซื่อสัตย์ ไม่ต้องกังวล เขาจะได้พบหญิงสาวจากครอบครัวดี ๆ แน่นอน!” ซุนซีเอ๋อร์ปลอบฮูหยินเหลียง
ฮูหยินเหลียงเช็ดน้ำตาเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นพยักหน้า “ข้ารู้ฮูหยินกู้ ตอนนี้ต้าเปาของข้าแข็งแรงดี แม้ว่าข้าและปู่ของเขาจะเริ่มแก่แล้ว นอกจากนี้เด็กคนนั้นก็โตขึ้นแล้วและรู้จักเรียนรู้ที่จะรักคนอื่น ตอนนี้เองก็เริ่มหางานทำ ถึงเวลานั้นครอบครัวเหลียงของเราจะพบเจอเรื่องที่ดีแน่นอน”
ทันทีที่ฮูหยินเหลียงพูดจบ นางก็เช็ดน้ำตาก่อนมองดูเครื่องแต่งกายปัจจุบันของซุนซีเอ๋อร์ด้วยสีหน้าอิจฉา “ฮูหยินกู้ ตอนนี้ท่านมีช่วงเวลาที่ดีในเมืองหลวงหรือไม่? ข้าเห็นท่านออกมาจากเตี่ยนชุ่ยฟาง ข้าอยู่ในเมืองหลวงมาได้สักพักแล้ว และรู้ว่าของในร้านนั้นมีราคาแพง เหอะเหอะ พวกท่านคงมีชีวิตที่ดีมาก ดูชุดที่ท่านใส่สิ ท่านดูเหมือนฮูหยินผู้สูงศักดิ์!”