ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2112 ครอบครัวใหญ่ตระกูลกู้ร่ำรวยมาก
บทที่ 2112 ครอบครัวใหญ่ตระกูลกู้ร่ำรวยมาก
ในขณะนั้นหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงนึกถึงความคับข้องใจเหล่านี้ ก็รู้สึกขุ่นเคืองและเดินตามต้าเปาไปอย่างใกล้ชิด “เหลียงต้าเป่า เจ้ามีความสามารถและมีอนาคตอันสดใส ข้าแก่ขนาดนี้แต่ยังต้องหาข้าวหาน้ำให้เจ้ากิน แต่เจ้ากลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ข้าจะตีเจ้าให้ตาย เจ้าเด็กขี้เกียจ พ่อเจ้าก็ยังไม่สารเลวเหมือนเจ้าเลย!”
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงหยิบไม้ท่อนหนึ่งขึ้นมา และปรี่เข้าไปหาเหลียงต้าเปาที่นอนเอกเขนก เมื่อเหลียงต้าเปาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของปู่ตนเองก็รีบวิ่งไปหาเหลียงซื่อ “ท่านย่า ท่านปู่จะตีข้าอีกแล้ว ท่านย่ารีบหยุดเขาเร็ว ถ้าทุบตีข้าจนตาย ตระกูลของเราจะไม่มีผู้สืบสกุล!”
คำพูดของเหลียงต้าเปาเกือบทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงแทบกระอักเลือด “เจ้าเด็กอกตัญญู วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย มาคอยดูเถอะว่าข้าจะทำอะไรเจ้าได้บ้าง”
ไม้ในมือของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะฟาดลงบนตัวของเหลียงต้าเปา เหลียงซื่อที่อยู่ในอาการเหมอลอยเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเช่นนี้นางก็กลับมามีสติทันที
เหลียงต้าเปากำลังร้องไห้โวยวาย เมื่อเหลียงซื่อได้ยิน หัวใจของนางเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดจนเป็นแผล “เหลียงโส่วอี้ ถ้าเจ้ากล้าแตะต้าเปาแม้แต่ปลายนิ้ว ข้าจะสู้กับเจ้าเอง! พ่อแม่ของเขาก็จากไปแล้ว ตอนนี้เขาเหลือแค่เราที่เป็นญาติ เจ้าอยากได้อะไรจากเขาอีก!”
เมื่อเหลียงโส่วอี้ได้ยินสิ่งนี้ มือไม้พลันอ่อนแรงท่อนไม้ก็ร่วงหล่นกระแทกพื้น
“ท่านย่า ข้าจะไม่ไปทำงานแบกข้าวนั้นอีกแล้ว ข้าเหนื่อยมาก หลังของข้าช้ำไปหมดแล้วดูสิ ดูสิ!” เมื่อไม่เห็นท่อนไม้ในมือของปูตนเองแล้ว เหลียงต้าเปาก็รู้สึกภูมิใจมาก และออดอ้อนเหลียงซื่อ!
เหลียงซื่อมองไปที่รอยช้ำบนไหล่ของเหลียงต้าเป่าก็รู้สึกเป็นทุกข์ราวกับมีใครเอามีดกรีดหัวใจ “หลานรักของข้า ลำบากเจ้าแล้ว!”
เหลียงโส่วอี้ไม่พูดไม่จา เขาเอาแต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามองผู้ใด
เหลียงต้าเปายังคงพร่ำบ่นไม่หยุด ทำเอาหัวใจของเหลียงซื่อแทบแตกสลายเมื่อได้ยินมัน “หลานชายที่รักของข้า ถ้าเจ้าไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเจ้าไม่ต้องไปทำงานนั้นแล้ว เจ้าไม่ต้องทำอะไรแล้ว!”
เมื่อเหลียงโส่วอี้ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา “ไม่ต้องทำอะไรหรือ? ถ้าเขาไม่ทำงานแล้วเราจะเอาอะไรกิน ชายแก่อย่างข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าสองคนได้อย่างไร”
“ใครขอให้เจ้าไปทำกันล่ะ?” เหลียงซื่อ
“ถ้าข้าไม่ทำ เราสามคนจะกินอยู่ยังไง?” เหลียงโส่วอี้พูดอย่างสงสัย
“สามี ท่านเดาสิว่าระหว่างทางวันนี้ข้าเจอใคร?” เหลียงซื่อยิ้ม
“จะเป็นใครกัน? เจ้าได้เจอฮ่องเต้งั้นเรอะ?” เหลียงโส่วอี้พึมพำใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ข้าเจอซุนซีเอ๋อร์แล้ว!” เหลียงซื่อพูดอย่างตื่นเต้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้เหลียงโส่วอี้ก็เงยหน้าขึ้นและถามด้วยความไม่เชื่อ “อะไรนะ? เจ้าเจอซุนซีเอ๋อร์หรือ?”
“ท่านย่า ใครคือซุนซีเอ๋อร์” เหลียงต้าเปาถามอย่างสงสัย
“ซุนซีเอ๋อร์คือซุนซื่อ แม่ของกู้ซินเถาอย่างไรเล่า!” เหลียงซื่ออธิบายอย่างอดทน
“ท่านพบนางแล้วหรือ? ยอดเยี่ยม เยี่ยมมากจริง ๆ!” เหลียงต้าเปาตื่นเต้นเมื่อได้ยินดังนั้น “ข้าไม่คาดฝันว่าเราจะได้พบซินเถา!”
ในตอนแรกเหลียงโส่วอี้เองก็รู้สึกตื่นเต้น ไม่นานความรู้สึกนั้นก็หายไป “เราอาศัยอยู่ในบ้านซอมซ่อเช่นนี้ เราจะกล้าไปหาพวกเขาได้อย่างไร”
เหลียงซื่อเกลี้ยกล่อมเหลียงต้าเปาว่า “ต้าเปา เจ้าต้องจำไว้ว่า ถ้ามีใครถามว่าเรามาที่เมืองหลวงได้อย่างไร เจ้าก็แค่บอกว่าเจ้าโดนผู้หญิงคนหนึ่งหลอก! เข้าใจหรือไม่ อย่าได้พูดความจริงเด็ดขาด!”
เมื่อเหลียงต้าเปาได้ยินว่าพบกู้ซินเถาแล้ว เขาก็มีความสุขมากและรีบตอบตกลงทันที “ท่านย่าอย่ากังวลไปเลย ข้าไม่ได้โง่เขลาขนาดนั้น!”
เหลียงโส่วอี้ไม่รู้ว่าแผนของเหลียงซื่อคืออะไรจึงถามออกมา “เจ้าต้องการทำอะไร?”
“สามี…” เหลียงซื่อกล่าว “เจ้าว่าเราช่วยเหลือครอบครัวพวกเขามากแค่ไหน? ตอนนี้พวกเราลำบากควรถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องตอบแทนเราบ้างแล้ว!”
เหลียงซื่อเอ่ยเสียงแผ่วเบา
เหลียงโส่วอี้และเหลียงต้าเปาตกอยู่ในภวังค์ และพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นแววตาอันเต็มไปด้วยความชั่วร้ายของเหลียงซื่อ
ในวันต่อมาซุนซีเอ๋อร์ตื่นแต่เช้า นางทำอาหารมากมายให้กู้ซินเถาและครั้งนี้ยังมีรังนกตุ๋นอีกด้วย กู้ซินเถานอนนานกว่าปกติเพราะว่าเมื่อวานนางอาละวาดจนเหนื่อย นางผล็อยหลับไปกลางดึก ซุนซื่อไม่ต้องการรบกวนลูกสาวนางวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้วออกไปทำงานอีกครั้ง!
ขณะที่กำลังกวาดลานบ้านก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ซุนซีเอ๋อร์วางไม้กวาดเดินไปที่ประตูบ้าน “ใครน่ะ?”
“ฮูหยินกู้!” เสียงทักทายดังมาจากข้างนอก
เมื่อซุนซีเอ๋อร์เห็นเป็นเหลียงซื่อที่นางพบเมื่อวาน จึงรีบเปิดประตูด้วยความดีใจทันที “ฮูหยินเหลียง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?”
“ข้าจะมาหาท่าน ข้าไม่ได้เจอท่านมาหลายปีแล้ว ดังนั้นข้าแค่อยากจะมาหา! ดูสิ ข้าพาต้าเปามาที่นี่ด้วย ต้าเปารีบทักทายท่านป้าสิ!”
เหลียงซื่อดึงชายหนุ่มอายุสิบแปดออกมาและพูดอย่างกระตือรือร้น
“ท่านป้า!” เมื่อเหลียงต้าเปาเห็นซุนซีเอ๋อร์ก็รีบโค้งคำนับ
เมื่อซุนซีเอ๋อร์เห็นว่าเป็นชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับกู้จือเหวินและเห็นว่าเขาสุภาพแค่ไหน จึงคลี่ยิ้มกว้างและพูดว่า “เข้ามาเลย เข้ามาเถอะ!”
นางนำเหลียงซื่อและเหลียงต้าเปาไปที่ห้องโถงหลักจากนั้นซุนซีเอ๋อร์ปลีกตัวไปชงชาให้พวกเขา
เหลียงซื่อนั่งรออย่างเงียบ ๆ แต่เหลียงต้าเป่าไม่อาจสงบจิตสงบใจได้ เขากวาดสายตาสำรวจไปรอบ ๆ เมื่อเขาเห็นของบนโต๊ะก็เปิดฝาอย่างอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ต้องอุทานว่า “ท่านย่า ในนี้มีรังนกด้วย!”
ไม่ใช่ว่าเหลียงต้าเปาไม่เคยกินรังนก แต่เคยกินแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ตอนแรกเหลียงซื่อก็นั่งเงียบ ๆ แต่เมื่อเหลียงต้าเปาบอกว่ามันคือรังนก นางก็ไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป และเดินตรงไปที่โต๊ะพลางมองของข้างใน มันคือรังนกตุ๋นไม่ใช่หรือ?
“ท่านย่า ชีวิตในตระกูลกู้นั้นดีจริง ๆ!” เหลียงต้าเปาลูบมือแล้วพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ
เหลียงซื่อกลัวว่าซุนซื่อจะได้ยินจึงรีบลากเหลียงต้าเปาไปด้านข้างและเตือนว่า “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!”
ขณะที่พูด ซุนซื่อก็ยกน้ำชาขึ้นมา “ขอโทษที่ทำให้พวกเจ้าต้องรอนาน ตอนนี้ข้าอยู่บ้านคนเดียวน่ะ!”