ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2118 กระตุ้นกู้จือเหวิน
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” กุ้ยชุนเจียวตกตะลึงไปชั่วขณะ
“ถ้าเจ้าเต็มใจจะช่วยข้า ข้าก็จะไถ่ตัวเจ้าออกจากที่นี่ เราจะไปศาลาว่าการเพื่อขอข้อมูลประจำตัวใหม่ มอบเงินก้อนหนึ่งให้ให้เจ้าไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เริ่มต้นกับการเป็นหญิงสาวจากครอบครัวที่ดี และข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินหรือเครื่องนุ่งห่มไปตลอดชีวิต!” กู้เสี่ยวหวานพูด
เดิมทีกู้เสี่ยวหวานไม่ได้มีอคติกับกุ้ยชุนเจียว กุ้ยตงเหม่ยเป็นสตรีที่ลุ่มหลงในความรัก กุ้ยชุนเจียวเองก็ไม่ได้มีนิสัยแย่แม้ว่านางอาจจะไม่ใจดีนัก แต่ก็ไม่เคยทำร้ายตัวเอง
นางเห็นกุ้ยชุนเจียวเลียริมฝีปากและต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่พูดออกมา และเอาแต่ก้มหน้างุดราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “เจ้าช่วยข้าได้จริง ๆ ใช่หรือไม่”
“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าเป็นศัตรู แต่เป็นเพราะเรื่องที่เกิดกับครอบครัวเจ้าในตอนนั้นถึงทำให้เจ้าเกลียดข้า แต่ข้ากำลังคิดว่าเจ้ากำลังเกลียดคนผิด ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภของพวกเจ้า ครอบครัวพวกเจ้าก็ไม่ต้องลงเอยเช่นนี้ บาปที่ก่อขึ้นเองไม่สามารถหลีกหนีได้ หลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าคงเห็นโลกมามากขึ้น ถ้าเจ้าจะโทษข้าเพียงเพราะเรื่องนั้นข้าเกรงว่าเจ้าจะด่าข้าไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว แต่นี่เจ้าไม่ทำอะไรเลย เจ้าเพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักข้าซึ่งเท่ากับว่าเจ้ารู้อยู่ในใจว่าไม่ควรเกลียดข้า! เจ้าว่าจริงหรือไม่?” ความแน่วแน่ในดวงตาของกู้เสี่ยวหวานชัดเจน สายตาคู่นั้นนิ่งสงบ ราวกับสายน้ำไร้คลื่น เมื่อเห็นเช่นนั้นความเกลียดชังที่มีก็พลันมลายหายไป
“ข้า…ใช่…ข้ารู้ว่าการเกลียดเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะตงเหม่ย ครอบครัวของข้าก็คงไม่…คนที่เป็นตัวการคือพ่อค้าเร่คนนั้น แต่ตอนนี้เขาก็ตายไปแล้ว ความคับแค้นใจนี้ข้าจะเอาไปลงที่ใครได้อีก ข้าเกลียดตัวเอง ทำไมข้าถึงไม่รู้จักมองคนให้ดี! ข้าทำผิดกับตงเหม่ยและท่านแม่ อีกทั้งยังเอาตัวเองเข้าไปพัวผัน!” กุ้ยชุนเจียวอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ร่างกายเล็กนั้นสั่นสะท้าน
กู้เสี่ยวหวานกลัวว่านางจะล้มลงจึงส่งสายตาให้อาจั่ว อาจั่วเข้าใจสายตานั้นจึงรีบเข้าไปประคองกุ้ยชุนเจียว “แม่นางเจียวเอ๋อร์ โปรดนั่งลงก่อนเถอะ!”
หลังจากได้ยินเสียงนี้กุ้ยชุนเจียวก็มองไปที่อาจั่วด้วยความประหลาดใจ กู้เสี่ยวหวานจึงยิ้มและพูดว่า “นี่คือสาวใช้ข้างกายข้า นางเองก็ปลอมตัวเป็นผู้ชายเช่นกัน!”
กุ้ยชุนเจียวพยักหน้า นางเช็ดน้ำตาและมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน “สิ่งที่เจ้าเพิ่งพูดเป็นความจริงหรือไม่?”
“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง!” กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า
“ได้ เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอย่างไร?” กุ้ยชุนเจียวอยากหนีออกจากหอหรูอี้มานานแล้ว หากแต่นางยังมีเงินไม่มากพอ นอกจากนี้ท่านแม่ฮวาก็แบ่งส่วนแบ่งให้ตนเองน้อยมา!
“ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้เจ้าสนิทกับนายน้อยแซ่กู้มาก?”
“นายน้อยกู้หรือ?” กุ้ยชุนเจียวรีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ เจ้าก็รู้จักเขาด้วยหรือ?”
“แน่นอน!” กู้เสี่ยวหวานยิ้มและกุ้ยชุนเจียวก็จำได้ทันที “เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า กู้จือเหวิน?”
“เจ้าเพิ่งจำได้หรือ?” กู้เสี่ยวหวานมองไปที่กุ้ยชุนเจียวที่กำลังประหลาดใจด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ ข้า…ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้!” กุ้ยชุนเจียวประหลาดใจมาก และรีบพูดว่า “ข้าไม่อยากคิดถึงอดีต ข้าจึงไม่อยากถามมากเกินจำเป็น ถ้าเจ้าไม่บอกข้าก็คงนึกไม่ออก เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้านี่เอง! แต่ก่อนเขาไม่ค่อยปรากฏตัวในหมู่บ้านมาก่อน แม้จะมาก็มีท่าทีห่างเหินและตอนนี้เขากลายเป็นลูกค้าของข้าแล้ว โลกนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ!” กุ้ยชุนเจียวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้พลางหลั่งน้ำตาแห่งความขมขื่น
“เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?” นางแค่นหัวเราะจากนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ซึ่งใช้ชีวิตอยู๋ในหอนางโลมและหัวใจยังมีความหวัง นางพยักหน้าและพูดว่า “สิ่งที่ข้าขอให้เจ้าทำนั้นง่ายมากจริง ๆ เจ้าเพียงแค่ต้องพูดไม่กี่ประโยคเท่านั้น…”
เมื่อออกจากหอหรูอี้ท่านแม่ฮวาก็มีความสุขจนยิ้มแก้มแทบปริ กู้เสี่ยวหวานมอบเงินให้นางอีกพันตำลึงเงินโดยบอกว่าชอบเสียงของแม่นางเจียวเอ๋อร์และต้องการพบแม่นางเจียวเอ๋อร์ทุกวัน
เมื่อท่านแม่ฮวาได้ยินก็ไม่เห็นมีอะไรที่นางจะต้องปฏิเสธ จึงตอบตกลงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม และยัดเงินหนึ่งพันตำลึงเงินลงในเสื้อราวกับกลัวว่ากู้เสี่ยวหวานจะเอาคืน “ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ท่านมา ข้าสัญญาว่าแม่นางเจียวเอ๋อร์จะพร้อมปรนนิบัตท่านทุกเมื่อที่ถูกท่านเรียกตัว!”
กู้เสี่ยวหวานพึงพอใจมาก หญิงสาวเดินออกไปพร้อมด้วยรอยยิ้มพลางโบกพัดในมือ กุ้ยชุนเจียวยืนตัวตรงร่างกายที่เคยโอนอ่อนเหมือนต้นหลิว ตอนนี้กลับแข็งแรงเหมือนต้นไป่หยางท่ามกลางสายตาอิจฉาริษยาของพี่สาวน้องสาวทั้งหมด
เมื่อกลับมาถึงรถม้าอาจั่วก็เป็นกังวลเล็กน้อย “คุณหนู ถ้าผู้หญิงคนนี้ต่อต้านท่านล่ะ? ถ้านางบอกสิ่งที่ท่านทำกับกู้จือเหวินล่ะ จะไม่แย่เอาเหรอ?”
กู้เสี่ยวหวานได้ยินเสียงคนคุยกันนอกม่านรถ จากนั้นเสียงนั้นก็ค่อย ๆ เบาลง แม้แต่อากาศรอบตัวนางก็สดชื่นขึ้น จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา “นางจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน หากว่าตามที่ข้ารู้จักนางมา นางจะเป็นนางโลมต่อไปหรือจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันก็อยู่ที่นางจะเลือก! ไม่ว่านางจะเลือกข้าหรือกู้จือเหวิน นางจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”
กู้เสี่ยวหวานพูดถูก กุ้ยชุนเจียวคิดจะทรยศกู้เสี่ยวหวานและบอกกู้จือเหวินถึงแผนการของตนก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามนางได้รับการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมในหอนางโลมมานานหลายปีแล้ว นางรู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของตนเอง หากสามารถช่วยกู้เสี่ยวหวานได้ นางจะเลือกหนทางหนีออกไปจากที่ได้
กู้เสี่ยวหวานสัญญากับนางว่าจะทำให้ชีวิตนางสุขสบาย และนางก็เชื่อในตัวกู้เสี่ยวหวาน!
ในไม่ช้าเรื่องที่กุ้ยชุนเจียวมีความสัมพันธ์ใหม่กับนายน้อยผู้นั้นก็แพร่กระจายออกไป และความจริงที่ว่าชายผู้นี้ใช้เงินจำนวนมากกับกุ้ยชุนเจียวก็ไปถึงหูของกู้จือเหวิน
กู้จือเหวินโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เงินทั้งหมดของเขาถูกใช้ไปกับผู้หญิงคนนี้ แต่นางก็โชคดีที่ได้พบกับลูกค้าคนใหม่ที่ดีกว่าตน
เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นในเวลาเดียวกัน ยิ่งกู้จือเหวินคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงมากขึ้น โดยเฉพาะบางครั้งก็บ่นว่าเขามีเงินไม่มากพอ
ยิ่งกู้จือเหวินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่งถูกเหยียบย่ำป่นปี้ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้!
ทันใดนั้นเขาก็จากไปด้วยความโกรธ
กุ้ยชุนเจียวมองไปที่กู้จือเหวินที่ออกไปจากหอหรูอี้ด้วยอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง และรู้ว่าการกระตุ้นครั้งล่าสุดของนางประสบความสำเร็จ