ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2119+2120 ย้ายบ้าน/จวนหลังใหม่ไกลมาก
บทที่ 2119 ย้ายบ้าน
กู้จือเหวินกลับถึงบ้านด้วยอารมณ์โกรธเกลี้ยว เขากลับมาถึงประจวบเหมาะกับที่เหลียงซื่อและเหลียงต้าเปากำลังคุยกับมารดาตนเอง เมื่อเห็นกู้จือเหวินกลับมาด้วยใบหน้ามืดมน ซุนซีเอ๋อร์ก็กังวล
“จือเหวิน เกิดอะไรขึ้น? เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
กู้จือเหวินไม่แม้แต่จะเหลือบมองซุนซื่อ เขาเดินเฉียดไหล่นางเข้าไปในห้องของตัวเอง การกระทำของกู้จือเหวินทำให้ซุนซื่อรู้สึกอับอาย ตอนนี้จึงแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนออกมา
โชคดีที่เหลียงซื่อก้าวไปข้างหน้าและรีบปลอบใจ
“ไม่ต้องกังวล จือเหวินคงจะเครียดเรื่องงาน เจ้าอย่าไปคิดมากเลย!”
“ข้าคงเป็นห่วงเขามากเกินไป!” เมื่อได้ยินดังนั้นใบหน้าของซุนซื่อก็ดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองไปทางห้องของกู้จือเหวินอย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร ลูกเมื่อโตขึ้นก็ย่อมมีปัญหาของตนเองซึ่งไม่อยากให้เรารับรู้ บางเรื่องผู้ใหญ่อย่างเราก็แก้ไขไม่ได้ ปล่อยให้เขาแก้ไขมันด้วยตัวเอง ถึงต้าเปาของข้าจะไม่เคยเรียนหนังสือ แต่เขาก็มีความสามารถทำให้คนอารมณ์ดีขึ้นได้ นอกจากนี้คนหนุ่มสาวสามารถพูดคุยได้อย่างอิสระเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ทำไมไม่ให้ต้าเปาไปเกลี้ยกล่อมเหวินเกอเอ๋อร์ดูล่ะ เจ้าคิดอย่างไร?”
ซุนซื่อเห็นว่าเหลียงซื่อได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้ และไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ นางจึงตอบตกลง “ถ้าอย่างนั้นรบกวนต้าเปาด้วย หากจือเหวินมีปัญหายุ่งยากใด ๆ เจ้าต้องบอกข้า ข้าจะได้ปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อของเขา”
เหลียงต้าเปาดื่มชาลิ่วอันกวาเพี่ยนตรงหน้าเสร็จก็ขึ้นตบอกตนเอง และพูดอย่างภูมิใจว่า “ท่านป้าไม่ต้องกังวล ไว้ใจข้าได้เลย”
หลังจากพูดจบเขาก็ไปที่ห้องของกู้จือเหวิน
ซุนซื่อมองตามด้วยสายตาเป็นห่วง ขณะที่เหลียงซื่อพยายามเกลี้ยกล่อมนาง “อย่ากังวลมากเกินไป ลูกหลานเราต่างก็มีพรของตัวเอง ดูซินเถาและจือเหวินสิ สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นกว่าพวกเราในเมื่อก่อนมาก ไม่ต้องกังวลนะ ชีวิตของเจ้าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแค่รอเท่านั้น จากนั้นเราจะได้เพลิดเพลินกับพรของพวกเขา!”
เหลียงซื่อยังพูดคุยกับซุนซื่อและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเหลียงโส่วอี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ซุนซื่อจึงรู้สึกว่าพวกนางทั้งสองคนได้กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
กู้ซินเถากำลังตั้งครรภ์และซูหลินก็ไม่กล้าที่จะรอช้า เวลานั้นเขาตกลงตามคำขอของกู้ฉวนลู่ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่รีบร้อน
กู้ซินเถากำลังตั้งครรภ์จริง ๆ และซูหลินจะไม่ยอมปล่อยให้ทายาทของเขาต้องไร้พ่อ ดังนั้นเขาจึงซื้อบ้านหนึ่งหลังและบอกกู้ซินเถาให้ย้ายไปที่นั่น!
กู้ฉวนลู่เป็นคนแรกที่ได้ยินข่าวนี้ ตอนนี้กู้ซินเถากำลังตั้งครรภ์ กู้ฉวนลู่ก็ดูแลนางอย่างดีเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย เรื่องบางเรื่องที่ให้ซุนซื่อจัดการแทนได้ก็ให้นางทำเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ กับกู้ซินเถา
ในท้องของนางคือลูกเสี่ยวซื่อจื่อ อย่างน้อยเขาก็เป็นเชื้อพระวงศ์ บรรพบุรุษตระกูลกู้ล้วนเป็นชาวนายากจน ถ้าพวกเขาสามารถมีสายเลือดราชวงศ์ได้ มันคงเป็นพรจริง ๆ
ดังนั้นไม่ว่าใครก็จินตนาการได้ว่ากู้ฉวนลู่คาดหวังกับเด็กคนนี้มากแค่ไหน!
เช่นเดียวกับกู้ซินเถา แม้นางจะกลัวมากว่าสิ่งต่าง ๆ จะถูกเปิดเผย แต่หลังจากนั้นไม่นานสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังนิ่งสงบ อีกทั้งยังได้ย้ายบ้านอีก ดังนั้นนางจึงคิดหาวิธีที่จะกำจัดเด็กคนนี้ เมื่อเสียเด็กคนนี้ไปซื่อจื่อจะรู้สึกเสียใจ และตัวนางก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น
ตอนนี้กู้ซินเถาเอาแต่หมกตัวอยู่ที่บ้านทุกวัน เหลียงซื่อแวะมาคุยกับนางเป็นครั้งคราว ทำให้เวลาที่นางอยู่ในบ้านนั้นไม่น่าเบื่อ แต่กู้ซินเถาไม่ได้ทำให้เรื่องของกู้เสี่ยวหวานล่าช้า แต่นางแค่รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ทำไมกองกำลังรักษาความสงบไม่สอบถามเรื่องของกู้เสี่ยวหวานกันล่ะ?
แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าเป็นหลังจากที่นางย้ายบ้านก็เป็นเรื่องที่ดี
วันที่ย้ายถูกกำหนดไว้แล้วจะเป็นวันที่เจ็ดเดือนแปดซึ่งเป็นวันมงคล กู้ฉวนลู่อยากจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่เมื่อนึกถึงว่ามีกี่คนที่อิจฉาครอบครัวของเขา สุดท้ายจึงเลือกย้ายออกเงียบ ๆ
เหลียงซื่อยังได้ยินว่าพวกเขากำลังจะย้าย ดังนั้นนางจึงนำเหลียงต้าเปามาช่วยในตอนเช้าและเหลียงโส่วอี้ก็มาในครั้งนี้ด้วย
เมื่อหัวหน้าครอบครัวทั้งสองพบกันพวกเขาย่อมมีเรื่องต้องพูดกัน ดังนั้นเรื่องของการบรรจุของจึงตกอยู่ที่เหลียงซื่อและซุนซื่อโดยธรรมชาติ เหลียงต้าเปามีหน้าที่รับผิดชอบในการขนของขึ้นรถม้า
“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ข้าไม่ได้พบท่านมาหลายปีแล้ว ได้ยินมาว่าพวกท่านย้ายมาอยู่เมืองหลวงแล้ว แต่ข้ามีหลายสิ่งที่ต้องทำในร้านอาหาร ดังนั้นข้าจึงปลีกตัวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นข้าคงจะไปเยี่ยมท่านตั้งนานแล้ว คงไม่ปล่อยให้ท่านมาที่นี่เองแบบนี้!” แม้ว่ากู้ฉวนลู่จะพูดคำดังกล่าว หากแต่ใบหน้านั้นไม่มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย ในทางกลับกันหลังของเขาตรง แม้กระทั่งเมื่อบอกว่าเขายุ่งและแยกตัวออกไปไม่ได้ก็พูดด้วยความภูมิใจ
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเคยพูดแบบนี้กับกู้ฉวนลู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อก่อนเขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แม้ว่ากู้ฉวนลู่จะเป็นบัณฑิต แต่เขาเป็นแค่คนทำบัญชีของร้านอาหาร นอกจากกู้ฉวนลู่ที่ต้องการขอความช่วยเหลือจากเขาแล้ว เขาก็ต้องการสิ่งตอบแทนจากกู้ฉวนลู่เช่นกัน แม้ว่าผู้คนจะหวังสิ่งตอบแทน แต่พวกเขาก็ให้ความเคารพกัน!
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ภาคภูมิใจของกู้ฉวนลู่ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็รู้ว่าตอนนี้เขาทำได้เพียงตัวติดกับกู้ฉวนลู่เท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่กู้ฉวนลู่จะมาทำตัวติดกับเขา!
ทันใดนั้นเขาก็วางความแค้นลงไว้เบื้องหลังและพูดว่า “คุณชายกู้สุภาพเกินไปแล้ว หลังจากห่างหายไปหลายปี ราศีก็ยิ่งจับมากขึ้นเรื่อย ๆ ครอบครัวของท่านคือความภาคภูมิใจของหมู่บ้านของเราจริง ๆ!”
กู้ฉวนลู่ยิ้มโดยไม่ตอบว่าใช่หรือไม่และสะบัดเสื้อคลุม เผยให้เห็นเสื้อคลุมซึ่งทำจากผ้าชั้นดี
เหลียงโส่วอี้ไม่เคยเห็นวัสดุที่ดีเช่นนี้มาก่อน ดวงตาจึงเอาแต่จับจ้องไปที่สิ่งนั้น
กู้ฉวนลู่เห็นว่าเขาไม่เคยเห็นโลกก็แค่นเสียงเย็นชา ระยะห่างระหว่างพวกเขาเพิ่มมากขึ้น ถ้าเขาจำไม่ได้ว่าเหลียงโส่วอี้เคยช่วยเขาไว้มากในตอนนั้น วันนี้เขาคงไม่เสียเวลามานั่งคุยกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้หรอก
เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาของกู้ฉวนลู่ เหลียงโส่วอี้จึงเสมองไปทางอื่นและถูมือด้วยความลำบากใจ “คุณชายกู้ ท่านจะย้ายไปไหน? ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านซื้อบ้านหลังใหญ่และกำลังจะย้ายวันนี้ เราจึงจะมาช่วยย้ายของ!”
……
บทที่ 2120 จวนหลังใหม่ไกลมาก
“โอ้ เราจะย้ายไปยังบ้านหลังที่ใหญ่ขึ้นน่ะ แม้ว่ามันจะอยู่ห่างไกลจากที่นี่แต่มันก็กว้างขวางกว่ามาก ในอนาคตเมื่อจือเหวินแต่งงาน บ้านหลังเล็กแบบนี้พวกเราคงอยู่กันไม่พอ!” กู้ฉวนลู่ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับกู้ซินเถา เขาพูดว่าเขาเป็นคนซื้อบ้านหลังนั้นด้วยตัวเอง
“นั่นเป็นเรื่องที่ดี จือเหวินได้ทำงานที่กรมคลังแล้วและเกรงว่าอนาคตจะสดใส!” เหลียงโส่วอี้ไม่ได้รู้สึกเคลือบแคลงแต่อย่างใด
“ขอบคุณ ขอบคุณ!” แม้ว่าเขาจะกล่าวขอบคุณแต่ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของกู้ฉวนลู่นั้นไม่ได้น้อยลงเลย
“วันนี้เราไม่มีอะไรทำ เช่นนั้นแล้วข้าจะช่วยท่านขนของเองและหวังว่าครอบครัวเหลียงของเราจะมีชีวิตที่ดีในอนาคต! เราเทียบกับท่านไม่ได้ อย่างน้อยเราแค่มีที่อยู่อาศัย อาหารและเสื้อผ้าก็เพียงพอแล้ว! ถ้าข้าได้อยู่บ้านแบบท่านในเมืองหลวง ชีวิตทั้งชีวิตของข้าก็จะไม่สูญเปล่าแล้ว!”
เป็นเรื่องยากสำหรับเหลียงโส่วอี้ที่จะโอ้อวด เขามองบ้านตระกู้ด้วยความอิจฉา
กู้ฉวนลู่จะไม่เข้าใจความคิดของเหลียงโส่วอี้ได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทันทีและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าได้ยินจากภรรยาของข้าว่าพวกท่านยังคงอาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยม ถ้าท่านรู้สึกว่ามันลำบาก เหตุใดถึงไม่มาอยู่ที่นี่ก่อนล่ะ เมื่อเจอสถานที่ที่ดีแล้วค่อยย้ายออกไปก็คงไม่สาย!”
เหลียงโส่วอี้กล่าวขอบคุณด้วยท่าทางสุภาพ
ข้าวของที่ถูกบรรจุเรียบร้อยถูกขนขึ้นรถม้า เมื่อเห็นว่ากู้จือเหวินหายไปจากรถม้า กู้ฉวนลู่ก็ถามทันทีว่า “จือเหวินไปไหน? บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าวันนี้เราจะย้ายบ้าน?”
ซุนซื่อรีบก้าวไปข้างหน้าและอธิบายว่า “จือเหวินบอกว่าเขายังมีเรื่องต้องทำและออกไปแล้ว เขาบอกว่ารู้แล้วว่าบ้านหลังใหม่อยู่ที่ใด เมื่อถึงเวลาเขาจะไปที่นั่นเอง!”
ใบหน้าของกู้ฉวนลู่เปลี่ยนเป็นมืดมนทันที เมื่อซุนซื่อเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปเล็กน้อย เมื่อเห็นสิ่งนี้เหลียงซื่อก็รู้แล้วทำไมซุนซื่อถึงกลัวและรีบไปก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดแทนซุนซื่อ “วันนี้เป็นวันมงคล จือเหวินคงมีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พลาดเรื่องสำคัญอย่างการย้ายบ้านหรอก?”
เหลียงโส่วอี้ยังพูดว่า “ใช่แล้ว ต้องมีเรื่องสำคัญในกรมคลังแน่ ตอนนี้จือเหวินประสบความสำเร็จมาก โชคดีของคุณชายกู้จริง ๆ”
เหลียงซื่อยังจับมือซุนซื่อและพูดว่า “การที่จะมีลูกได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าคลานออกมาจากท้องของใครด้วยใช่ไหม?”
กู้ฉวนลู่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินเหลียงซื่อพูดกับตนแบบนั้น แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นคนนอก ดังนั้นจึงไม่ควรตำหนิซุนซื่อต่อหน้าคนอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองดูแย่ และรีบปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ ความไม่พอใจเมื่อครู่หายไปจากสายตาของซุนซื่อแล้ว
เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนลู่ไม่ระบายความโกรธใส่ตัวเองมันคงเป็นเพราะคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและภรรยา นางจึงมองเหลียงซื่อด้วยความขอบคุณ และเหลียงซื่อก็เข้าใจความหมายนั้นดี
ทุกคนเข้าไปในรถม้า รถม้าหลายคันมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังใหม่
ที่ตั้งของบ้านหลังนี้ค่อนข้างห่างไกล แม้ว่าจะนั่งรถม้าก็ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งก้านธูป แม้ว่ากู้ซินเถาจะวางแผนไว้แล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าบ้านหลังนี้จะห่างไกลเช่นนี้ นางจึงได้แต่ลอบบ่นซูหลินอยู่ในใจ