ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2127 ซูจือเยว่มาช่วย
บทที่ 2127 ซูจือเยว่มาช่วย
“เสี่ยวฉิน เจ้าอย่ากลัวไปเลย เกิดอะไรขึ้นบอกข้าสิ ป้าจะช่วยเจ้าตัดสินอย่างแน่นอน!” ซุนซีเอ๋อร์ไม่ได้ยินกู้ซินเถาเรียกตนเองด้วยความรักใคร่มานานแล้ว ซุนซีเอ๋อร์รู้สึกว่าต้องช่วยคนแปลกหน้าคนนี้เพื่อที่ซินเถาจะมีความสุข!
เหลียงซื่อซ่อนตัวและนิ่งเงียบตลอดเวลา แต่หลังจากนั้นกู้ซินเถาก็เอ่ยขึ้นว่า “ใต้เท้าหมิ่น ท่านแม่ของข้าเองก็รู้จักเขาเหมือนกัน ซึ่งหมายความว่าเขาคือฉินเย่จือคนรักของกู้เสี่ยวหวานใช่ไหม?”
“นี่เจ้ากำลังทำตัวเป็นขโมยร้องให้จับขโมย*[1]งั้นหรือ” กู้เสี่ยวหวานเย้ยหยัน
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าว่าใครเป็นขโมยกัน” กู้ซินเถาคำรามด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของอีกฝ่าย กู้เสี่ยวหวานก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ ท่านอย่าโกรธไปเลย ข้าไม่ได้เอ่ยชื่อใครสักหน่อย แต่ว่านะใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ!”
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยวาจาเสียดสีกู้ซินเถา ใครก็ตามที่ร้อนรนต่อประโยคคนผู้นั้นก็คือขโมย ไม่ต้องบอกว่าตอนนี้ใบหน้าของกู้ซินเถาน่าเกลียดแค่ไหน ซุนซีเอ๋อร์ที่ด้านข้างเห็นกู้ซินเถาถูกกู้เสี่ยวหวานแดกดัน ก็รู้สึกว่าตนเองต้องสู้แทนลูกสาว “เสี่ยวหวาน อย่าคิดว่าเจ้าเป็นองค์หญิงแล้วจะสามารถทำอะไรก็ได้ ดูสิ เจ้าเจอข้าแต่กลับยังเมินเฉย เจ้าเป็นองค์หญิงแล้วก็ลืมมารยาทไปแล้วหรือ?”
“ท่านแม่ ตอนนี้นางเป็นองค์หญิงนางไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป นางจึงรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกคน ตอนครอบครัวของนางยากจน ไม่รู้ว่าเราเคยช่วยนางไว้มากแค่ไหน! แต่พอมั่งมีขึ้นก็ทำตัวอกตัญญู! ไม่เคารพข้า ข้าไม่ว่าแต่การที่นางไม่เคารพท่านนั้นข้ายอมไม่ได้ กู้เสี่ยวหวานไร้มารยาทจริง ๆ คนแบบนี้จะเป็นองค์หญิงได้อย่างไร!”
“อะแฮ่ม…” หมิ่นเสวียซือกระแอมไอหลังจากได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฮ่องเต้เคยบอกว่าองค์หญิงอันผิงไม่จำเป็นต้องทำความเคารพเขา!”
แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ต้องการให้กู้เสี่ยวหวานทำความเคารพตนเอง พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ญาติกัน แต่พวกเจ้าต้องการให้กู้เสี่ยวหวานทำความเคารพตนเองหรือ?
สิ่งที่หมิ่นเสวียซือพูดทำให้กู้ซินเถาและซุนซีเอ๋อร์หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ทั้งสองประคองกันและกันถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าว ตอนนี้ใบหน้าของพวกนางเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ
กู้เสี่ยวหวานชำเลืองมองที่หมิ่นเสวียซืออย่างซาบซึ้งใจ และหมิ่นเสวียซือก็พยักหน้าให้ตน
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิวกุ้ยหย่งจึงรีบพูดว่า “ท่านป้า เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่ เสี่ยวหวานจำข้าไม่ได้แล้ว ข้าทำงานอย่างหนักและรักนางมานาน ตอนนี้นางกลับบอกว่าไม่รู้จักข้า! ฮึก ท่านป้า ท่านเป็นผู้อาวุโสของตระกูลกู้ ท่านต้องช่วยตัดสินใจแทนข้า!”
ซุนซีเอ๋อร์ลูบแขนหลิวกุ้ยหย่งและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”
หลังจากพูดจบก็คุกเข่าลงมองไปที่หมิ่นเสวียซือ จากนั้นร้องไห้ออกมาและพูดเรื่องกู้เสี่ยวหวานตลอดเวลา คำพูดเหล่านั้นรุนแรงอย่างไม่น่าฟัง โดยมีกู้ซินเถามาผสมโรงเป็นครั้งคราว คำพูดเหล่านั้นอธิบายได้ว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนอกตัญญูและใจดำอำมหิต
หลิวกุ้ยหย่งยังพูดไม่หยุด เขากล่าวหาว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนสำส่อนและเห็นแก่เงิน!
ซูจือเยว่ไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียดมากและอยากจะพุ่งเข้าไปปิดปากพวกเขา เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย จึงยิ้มให้เขาและส่ายหน้าเพื่อเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้เขาพูดอะไร
กู้เสี่ยวหวานมีแผนการอยู่ในใจ แม้ว่าซูจือเยว่ต้องการช่วยนาง แต่นางไม่เห็นด้วย ซูจือเยว่จึงนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
อาจั่วหยิบถ้วยอีกใบมาวางตรงหน้าซูจือเยว่จากนั้นรินชา
เพื่อปกปิดความโกรธและความคับข้องใจของเขา ซูจือเยว่รีบยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นดื่ม และเมื่อเห็นสีชาในถ้วยก็เกิดความรู้สึกสงสัย เขาเห็นกู้เสี่ยวหวานดื่มชาไปแล้วหลายถ้วย อาจั่วเองก็รินชาเต็มถ้วยให้นางอยู่บ่อยครั้ง สีชาที่เขาเห็นเหมือนบอกว่าชานี้เพิ่งชงได้ไม่นาน
เมื่อนำมาจ่อปลายจมูกกลิ่นหอมของชาก็โชยขึ้นมา เขาจิบชา น้ำชานั้นละเอียดอ่อนและนุ่มนวล กลิ่นหอมที่บริสุทธิ์และสัมผัสที่ลึกลงไปในคอนั้นหอมหวานซึ่งทำให้ผู้คนติดใจ
ซูจือเยว่ไม่ลังเลและดื่มชาที่เหลือในถ้วย และคิดเพียงว่าชานี้เป็นชาที่ดี เป็นชาที่เขาไม่เคยดื่มมาก่อน ดังนั้นจึงหันไปหากู้เสี่ยวหวานและพูดว่า “นี่เป็นชาที่ดี!”
กู้เสี่ยวหวานยิ้ม “มันเป็นเพียงใบชาธรรมดาที่ข้าไม่รู้จัก หาได้ยากที่จะมีคนชอบมัน ข้าจะสั่งให้คนต้มให้นายน้อยซูอีก!”
เป็นเรื่องยากที่จะเห็นกู้เสี่ยวหวานยิ้ม ซูจือเยว่รู้สึกราวกับว่ามีคนมาตีกลองเล่นอยู่ในหัวใจตนเอง แม้จะรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่มีความรู้สึกให้ตัวเอง แต่เมื่อเห็นนางยิ้ม พลันรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะละลาย
“ตกลง เสี่ยวหวานต้องรักษาคำพูดด้วยล่ะ!” ซูจือเยว่มองไปที่ท่าทางสงบของกู้เสี่ยวหวาน ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้สนใจท่าทีก้าวร้าวของกู้ซินเถาเลยแม้แต่น้อย
“เสี่ยวหวาน ท่านไม่กลัวหรือ?” ซูจือเยว่สงสัย
ปกติยามเขาเรียกกู้เสี่ยวหวานเขามักจะเรียกนางว่าองค์หญิงอันผิง แต่ตอนนี้เขากลับเรียกนางด้วยชื่อจริง และเมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้ห้ามจึงทำให้ซูจือเยว่ตื่นเต้นมาก!
ดวงตาคู่ที่มองมายังกู้เสี่ยวหวานนั้นเต็มไปด้วยความรักอันลึกซึ้ง
กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตา ไม่เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เท่านั้นแต่ยังรวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงน้ำชาอู่อวิ้น และนางจะต้องขอบคุณอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
ตราบใดที่ซูจือเยว่เป็นผู้ช่วยชีวิตของนาง นางก็จะเคารพเขาด้วยใจจริง
หากมีคนอื่นช่วยนาง นางต้องตอบแทนด้วยความจริงใจเช่นกัน
“อย่ากังวลเลย อีกครู่จะมีการแสดงสนุก ๆ ให้ท่านดู!” กู้เสี่ยวหวานยิ้มและขยิบตาให้ซูจือเยว่ด้วยใบหน้าทะเล้น
ซูจือเยว่เห็นกู้เสี่ยวหวานยิ้ม หมอกควันที่ปกคลุมศีรษะของเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็หายไป ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง
กู้ซินเถาแอบมองไปที่ซูจือเยว่ เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขและตื่นเต้นของเขา กู้ซินเถาก็คิดว่าในเวลานี้ซูหมิ่นส่งคนมาคอยดูและต้องเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนแน่
[1] คนเลวที่จงใจสร้างความสับสน เบี่ยงเบนเป้าหมาย เรียกคนอื่นว่าเป็นคนเลวเพื่อหนีความผิด