ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2152 ข้าเก็บเงินเพื่อไถ่ตัวเอง
ตอนนี้กู้จือเหวินหัวเดียวกระเทียมลีบ ดูเหมือนว่าสตรีในโลกนี้จะเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม หึ แค่ขอเพียงร่ำรวย มากอำนาจก็คอยพะเน้าพะนอออดอ้อน ยามหมดประโยชน์ก็สะบัดตูดเผ่นแน่บ
ครั้นนึกถึงสิ่งนี้ กู้จือเหวินหวนคิดถึงเจียวเอ๋อร์ขึ้นมา แม้ว่าเจียวเอ๋อร์จะชื่นชอบคนรวย แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนหยาบคาย เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ก็รู้สึกว่าแม่นางเจียวเอ๋อร์นั้นดีกว่าคนอื่นมาก
ระหว่างอยู่ในห้วงความคิดก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก “คุณชาย มีสตรีคนหนึ่งต้องการพบท่าน!”
เวลานี้ยังมีใครต้องการมาพบตนอีก กู้จือเหวินอารมณ์เสียเล็กน้อย “ไม่อยากเจอ ไม่อยากเจอ!”
ข้างนอกไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวอีกต่อไปและทันใดนั้นกู้จือเหวินก็คิดว่าน้ำเสียงของตนหยาบคายเกินไปหรือเปล่า เขาจะทำให้ซื่อจื่อขุ่นเคืองหรือไม่? กู้จือเหวินรู้สึกกังวลใจ ดังนั้นเขาจึงดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอยากจะออกไปพบคนคนนั้น แต่เมื่อเขาเปิดประตูก็ไม่พบใครอยู่ที่นั้น และหลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างนอก
“แม่นาง เชิญทางนี้”
กู้จือเหวินแทบจะกระอักเลือดด้วยความโกรธ!
สุนัขรับใช้เหล่านี้ไม่สนใจตนเองแม้แต่น้อย แต่เมื่อคิดว่าชายผู้นี้เป็นคนของซื่อจื่อ กู้จือเหวินก็ทำได้เพียงกลืนคำพูดนั้นลงไป เหอะ ใครใช้ให้เขาเป็นคนของซื่อจื่อกันล่ะ แม้ว่าจะเป็นคนรับใช้ที่ต่ำต้อย แต่ตอนนี้เขาก็ยังมีเจ้านายของตนเอง ไม่เหมือนตนเองที่ตอนนี้หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกู้จือเหวินเห็นคนที่ปรากฏตัว เขาก็ต้องเดือดดาลขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรก็หันไปพูดกับคนรับใช้ด้านข้างว่า “ขอโทษด้วย แม่นางผู้นี้เป็นคนรู้จักของข้า ขอบคุณท่านมาก”
ผู้มาใหม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเขามีความนอบน้อมกับคนรับใช้เช่นนี้
หลังจากที่คนรับใช้ออกไป กู้จือเหวินก็พูดอย่างโกรธเคือง
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่? เจ้าไม่รังเกียจที่ข้าไม่มีเงินและไม่มีอำนาจหรือ? คนใหม่ไม่ต้องการเจ้าแล้วหรือ?”
หญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นคือเจียวเอ๋อร์จากหอหรูอี้ นางมองกู้จือเหวินด้วยสายตาเศร้าสร้อย และพูดอย่างเสียใจว่า “นายน้อยกู้ ลืมเจียวเอ๋อร์ไปแล้วหรือ?”
หลังจากพูดจบก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงแขนเสื้อของกู้จือเหวิน หากแต่กู้จือเหวินปัดแขนนางออก พลางเดินออกไปด้วยความโกรธขึง “หึ เจ้าไม่ได้บอกว่าพบคนใหม่แล้วหรือ เขามีทั้งเงินทั้งอำนาจ แต่ข้าไม่มีอะไรเลย! เจ้ามาหาข้าอีกทำไม?”
“นายน้อยกู้ ข้า…” แม่นางเจียวเอ๋อร์ดูเศร้าใจ นางวางสัมภาระลงบนโต๊ะและพูดอย่างเสียใจ “คนผู้นั้นรวยมาก แต่ข้า…ข้าอยากอยู่กับท่าน! ถ้าท่านคิดว่าเจียวเอ๋อร์เป็นคนชอบคนรวย เจียวเอ๋อร์ก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว นี่คือเงินที่ข้าได้รับในช่วงนี้ ข้าจะทิ้งไว้ให้ท่าน ดูแลตัวเองดี ๆ นะเจ้าคะ!”
หลังจากพูดจบก็หมุนกายเดินออกไป
เมื่อกู้จือเหวินหันไปมองก็เห็นว่ามีถุงผ้าใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะรีบเปิดดูด้วยความร้อนรน และแล้วก็ต้องตกตะลึง ในถุงผ้าใบมีตั๋วแลกเงินมากมาย จากการคาดคะเนแล้วน่าจะมีหลายพันตำลึง และยังมีเหรียญทองแดงบางส่วนซึ่งรวมกันแล้วน่าจะประมาณร้อยเหรียญ
เจียวเอ๋อร์กำลังจะก้าวออกจากประตู แต่กู้จือเหวินรีบรั้งนางไว้ “ช้าก่อน นี่…สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”
“คนคนนั้นเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจ แต่ตั้งแต่ข้าติดตามนายน้อยกู้มาก็มีเพียงท่านอยู่ในหัวใจ ข้าจะจริงจังกับคนเหล่านั้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตามข้าต้องการเงิน ตราบใดที่มีเงินข้าจะสามารถไถ่ตัวเองออกมาได้ หลังจากออกมาแล้วก็จะได้มาอยู่กับท่าน แต่ข้ากลัวว่าท่านจะไม่ยินยอม นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าคิดแผนร้ายขึ้นมา ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอจึงไม่มีวิธีอื่นนอกจากการเก็บเงินด้วยวิธีนี้!” เจียวเอ๋อร์กล่าวอย่างเศร้าใจ
เมื่อเห็นเงินจำนวนมากกู้จือเหวินก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวในหัวใจ เขารีบก้าวไปข้างหน้าพลางดึงเจียวเอ๋อร์เข้ามาในอ้อมกอด จากนั้นพูดด้วยความรักและทุกข์ใจ “เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าขอโทษ เจียวเอ๋อร์มันเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรพูดแบบนั้นกับเจ้า เพราะข้าไม่มีความสามารถจึงเก็บเงินและไปไถ่ตัวเจ้าไม่ได้! เป็นเพราะข้าไม่มีความสามารถ ถ้าข้ามีความสามารถ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องทำแบบนั้น เจ้าติดตามข้ามานานแล้ว แต่ยังต้องมาทนลำบากกับข้าอีก ข้าขอโทษ!”
“ไม่ไม่ไม่!” แม่นางเจียวเอ๋อร์ดิ้นออกจากอ้อมแขนของกู้จือเหวิน ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของกู้จือเหวินและพูดอย่างเสน่หา “ข้ารักท่านตั้งแต่แรกเห็นและตัดสินใจจะอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต แม้ร่างกายของข้าจะสกปรกและเป็นคนข้างหมอนให้ท่านไม่ได้ แต่ข้าก็จะรับใช้ท่านไปตลอดชีวิต ซักผ้าและทำอาหาร ข้าเต็มใจทั้งหมด”
“เจียวเอ๋อร์ ขอเพียงแค่มีเจ้า ข้าก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว!” กู้จือเหวินกอดแม่นางเจียวเอ๋อร์แน่นขึ้น และพูดอย่างซาบซึ้ง “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำงานอย่างหนักเพื่อไถ่ตัวเจ้าให้เร็วที่สุด ไม่ต้องห่วง ชีวิตนี้ข้ามีเพียงเจ้าก็พอแล้ว! เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต หลังจากไถ่ตัวเจ้าแล้วเราก็จะมีชีวิตที่ดีด้วยกัน เมื่อถึงเวลาเราก็จะมีลูก ข้าจะทำงานข้างนอกส่วนเจ้าก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ใช้ชีวิตธรรมดา ๆ แต่มีความสุข เจ้าว่าอย่างไร?”
“ตกลง ตกลง…” เจียวเอ๋อร์ตื่นเต้นมากจนหลั่งน้ำตาออกมา “นี่คือความฝันของข้าและในที่สุดนายน้อยก็จะช่วยให้มันเป็นจริง”
เมื่อเห็นความชื่นชมจากเจียวเอ๋อร์ที่มีต่อตัวเอง หัวใจที่แตกสลายของกู้จือเหวินก็ได้รับการเยียวยา ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ค่อยดีแต่ในที่สุดวันนี้ก็ดีขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นเงินเกือบพันตำลึงเงิน มันทำให้มีแผนการเกิดขึ้นในหัวของกู้จือเหวิน
ไม่คาดคิดว่าเจียวเอ๋อร์จะหาเงินได้เก่งขนาดนี้ นางได้รับเงินมากมายจากลูกค้าเพียงรายเดียวและเงินนี้อาจมากถึงหนึ่งพันตำลึงเงิน ถ้าเขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้นางทำเงินได้มากขึ้น แม้ไม่ต้องอยู่กับซื่อจื่อเขาก็คงมีชีวิตที่ขึ้น
ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน และยิ้มอย่างมีเลศนัย แต่เจียวเอ๋อร์ก็ถามออกมาไม่ตั้งใจ “เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเพียงบ่าว เหตุใดท่านถึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพขนาดนั้น? ราวกับว่าเขาเป็นเจ้านาย!”
กู้จือเหวินไม่ได้ตั้งใจบอกเจียวเอ๋อร์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในตอนนี้ แต่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นคนแบบนี้มาตลอด ข้าเป็นบัณฑิตอ่านหนังสือมามากมายจึงเข้าใจโดยธรรมชาติว่าทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นคนรับใช้ของข้า แต่พวกเขาก็มีพ่อและแม่!”