ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2164 เหตุการณ์ที่คล้ายกัน
บทที่ 2164 เหตุการณ์ที่คล้ายกัน
ทันทีที่คนคนนั้นปลุกระดม คนที่อยู่ข้างหลังก็กลับมาฮึกเหิมอีกครั้งและตะโกนเสียงดัง “ข้าไม่เห็นด้วย ข้าไม่เห็นด้วย! ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน!”
ทหารที่ซูหมางนำมาได้ล้อมรอบคนมากกว่าสองร้อยคนแล้ว พวกเขาไม่มีแม้แต่อาวุธติดตัว มีเพียงโล่อันเดียวเท่านั้น ด้วยวิธีนี้เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ต้องต่อสู้กับชาวบ้าน ประชาชนลงมือ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ลงมือ อย่างน้อยก็ยังมีช่องว่างสำหรับการเปลี่ยนแปลง
เมื่อซูหมางเห็นกู้เสี่ยวหวานจึงรีบตรงเข้าไปหานาง
“องค์หญิง ทหารพร้อมแล้วพะยะค่ะ พวกเขาไม่ได้นำอาวุธมา! มีเพียงแต่โล่ป้องกันตัวเท่านั้น!” ซูหมางรายงาน
“ขอบคุณ ใต้เท้าซู!” กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า
หลินไห่เทียนยังไม่มา และไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับการเตรียมการของเขาหรือไม่
บริเวณหน้ากรมคลังเต็มไปอารมณ์คุกรุ่นของชาวบ้าน และยังมีคลื่นใต้น้ำที่พวกเขาไม่อาจมองเห็น
เซี่ยงฉีเซวียนจึงเอ่ยกับซูเผยอันว่า “ใต้เท้า เมื่อกู้หนิงอันคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เขาได้กระตุ้นความโกรธของชาวบ้านมากขึ้น ใต้เท้าท่านต้องตัดสินใจโดยเร็วที่สุด ถ้าคนเหล่านี้เข้ามาหรือหากเจ้าหน้าที่ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงเวลานั้นตำแหน่งของเราคงจะสั่นคลอน!”
ซูเผยอันครุ่นคิด ผู้ก่อกวนจากภายนอกไม่ได้อยู่ในการคาดคะเนของเขาเลย
ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสัญญาณ และข้อมูลทะเบียนบ้านถูกนำออกมาใช้เพียงไม่กี่วัน ชาวบ้านกว่าสองร้อยคนจะมารวมตัวกันได้อย่างไรโดยที่ไม่มีข่าวคราวการเคลื่อนไหวใด ๆ ให้ได้ยิน หากกล่าวว่าเป็นเพียงการรวมตัวกันของชาวบ้านก็คงเป็นไปไม่ได้ หากไม่มีผู้คอยบงการอยู่เบื้องหลังคงไม่มีทางที่จะมีคนออกมาประท้วงมากขนาดนี้
และเป้าหมายของบุคคลนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพียงกู้หนิงอันหรือกรมคลังทั้งหมด!
“ข้าไม่รู้ว่ากู้หนิงอันไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้า คนผู้นั้นจึงใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้เขาถูกลงโทษ!” เซี่ยงฉีเซวียนบ่นอุบ “ใต้เท้าซู ท่านยังจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนได้หรือไม่? ใต้เท้าจางคนนั้น…”
เซี่ยงฉีเซวียนนิ่งเงียบไม่ได้พูดต่อ แต่เขาทำท่าปาดลำคอเพื่อสื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์นั้นทำให้ใบหน้าของใต้เท้าซูหมองลง
“ใต้เท้าซู ตอนนี้ท่านลองคิดดูให้ดี เหตุการณ์ที่เกิดกับใต้เท้าจางคล้ายกับเหตุการณ์นี้มาก หากมีคนจำนวนมากเกิดความขัดแย้งขึ้นมาและเจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้คนโดยไม่ได้ตั้งใจจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องเรียนรู้จากอดีต ใต้เท้าซูโปรดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด” เซี่ยงฉีเซวียนกล่าวอย่างร้อนรน
“ใต้เท้า คนของกองกำลังรักษาความสงบล้อมผู้คนข้างนอกไว้แล้ว” ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีคนจากข้างนอกเข้ามารายงาน
เมื่อเซี่ยงฉีเซวียนได้ยินใบหน้าของเขาก็ซีดลงด้วยความตกใจ “ใต้เท้า ดูสิ เหตุการณ์เหมือนกันทุกประการ ข้าควรทำอย่างไรดี!”
“เหตุใดกองกำลังรักษาความสงบจึงตื่นตระหนก? เหตุใดพวกเขาถึงได้ข่าวเร็วนัก” ซูเผยอันก็ตกใจเช่นกัน “หากมีความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับทหาร ผลที่ตามมา…”
ชาวบ้านมากกว่าสองร้อยคนเป็นสองเท่าของเมื่อสิบปีที่แล้ว เวลานั้นใต้เท้าจางถูกลงโทษประหาร หากเหตุการณ์นี้สาหัสกว่าเหตุการณ์นั้น…
ซูเผยอันไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้
“ใต้เท้า ท่านรีบเข้าวังเถิด เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะกู้หนิงอัน ความผิดพลาดครั้งใหญ่นี้เราไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป!” เซี่ยงฉีเซวียนกล่าวกับซูเผยอัน “มีคนจำนวนมากหน้ากรมคลังของเรา ถ้ากู้หนิงอันทำอะไรผิดพลาด เขาต้องรับผิดชอบและต้องไม่ดึงเราลงน้ำไปด้วย!”
ซูเผยอันไม่พูดอะไร หากแต่เดินกลับเข้าไปในห้อง ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ อยู่เหนือการควบคุม หากล่าช้าไปมากกว่านี้ทั้งสองฝ่ายจะต้องเป็นฝ่ายทนทุกข์!
อย่างไรก็ตาม กู้หนิงอันนั้นกล้าหาญและมีพรสวรรค์ ถ้าเขาถูกใส่ร้ายแบบนี้…
“ข้าจำได้ว่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ทหารนำอาวุธมามากมาย อาวุธเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องมือต่อสู้ระหว่างทหารกับชาวบ้าน ครั้งนั้นมีคนเสียชีวิตไปกี่คน! ตอนนี้แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว!” เซี่ยงฉีเซวียนยังคงกลัวว่าเหตุการณ์จะไม่วุ่นวายมากพอจึงพูดต่อ
หลังจากได้ยินข่าว คนที่มารายงานก็รีบพูดต่อ “ใต้เท้า ไม่ต้องกังวล คนจากกองกำลังรักษาความสงบนำเพียงโล่มาเท่านั้น พวกเขาไม่ได้นำอาวุธอื่นใดมาด้วย!”
“เจ้าพูดอะไร?” ซูเผยอันรีบถามหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“ใต้เท้าซูพาคนมามากมาย แต่คนเหล่านั้นไม่ได้นำอาวุธมาเลย มีเพียงโล่!” คนรับใช้พูดต่อ
มีแต่โล่ไม่มีอาวุธหรือ?
แม้ว่าทหารจะขัดแย้งกับประชาชน แต่ก็ไม่ได้มีเป้าหมายจะทำลายประชาชนอย่างน้อยก็ลดความเสียหายได้!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูเผยอันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พวกเจ้าออกมากับข้า!”
เซี่ยงฉีเซวียนคิดว่าตัวเองพูดให้ซูเผยอันเชื่อได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้า ท่านไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบอย่างเป็นทางการหรือ?”
“ข้าจะรีบออกไปตอนนี้” ซูเผยอันหรี่ตามองอีกฝ่าย
“อะไรนะ?” เสียงฝีเท้าของเซี่ยงฉีเซวียนหยุดลงกะทันหัน ไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย
ซูเผยอันแค่นยิ้มกับการเคลื่อนไหวของเขา และนำคนสองสามคนออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
กู้หนิงอันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้คนมากมายรวมตัวกันเพื่อประท้วง เนื่องจากการอธิบายกับผู้คนอยู่นานและใช้เสียงค่อนข้างดัง ตอนนี้น้ำเสียงของเขาจึงแหบแห้งเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเปล่งเสียงมากแค่ไหนแต่ก็ยังเบากว่าเมื่อครู่!
เมื่อเห็นการกระทำของกู้หนิงอัน กู้เสี่ยวหวานก็หมดความอดทนและเห็นคนรอบข้างเตรียมพร้อมราวกับว่าพวกเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย นางก็รู้ว่าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ คนเหล่านี้จะไม่จากไป!
“เมื่อไหร่พวกเจ้าจะให้คำตอบเรา ถ้าวันนี้เราไม่ได้คำตอบ เราก็จะไม่ไปจากที่นี่! ท่านแม่ยังรอข้าอยู่ที่บ้าน ข้าจะต้องรีบไป ข้าอยากพบท่านแม่เป็นครั้งสุดท้าย!”
“เจ้าหน้าที่ปกป้องซึ่งกันและกัน ชีวิตของเจ้าก็คือชีวิตของเจ้าเอง แล้วชีวิตของคนอื่นไม่ใช่ชีวิตหรืออย่างไร!”
ฝูงชนยิ่งโกรธเกรี้ยวและสถานการณ์ก็ยิ่งควบคุมไม่ได้
กู้เสี่ยวหวานกำลังคิดวิธีแก้ปัญหา ทันใดนั้นก็เห็นผู้หญิงอายุประมาณห้าสิบปีออกมาจากตรอกด้านข้าง นางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง เมื่อมองลงไปเห็นว่าไม่มีใครเห็นตัวเองจึงเดินเข้าไปท่ามกลางฝูงชนอย่างสบายใจ