ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2165 สร้างปัญหา
บทที่ 2165 สร้างปัญหา
กู้เสี่ยวหวานชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นทันทีและพูดว่า “อาจั่วรีบตามไปดูว่าหญิงคนนั้นต้องการจะทำอะไร รีบไปจับนางเอาไว้เร็วเข้า”
หน้าประตูกรมคลังยังมีการโต้เถียงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างนอกฝูงชน “สามี ท่านแม่จากไปแล้ว… ฮือฮือ…”
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงกรีดร้องออกมา “อา…ท่านแม่ ท่านแม่ของข้า…!”
ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากำลังร้องไห้อย่างน่าเวทนา และคนที่อยู่ด้านข้างก็เอาแต่สาปแช่ง “พวกเจ้าเห็นหรือไม่ เขาไม่ได้ไปดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย พวกเจ้ายังเป็นคนอยู่ไหม? การกระทำของพวกเจ้าเกินไปแล้ว มากเกินไปแล้ว พวกเจ้าไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเราเหมือนคนเลยด้วยซ้ำ ทุกท่านอย่าสนใจสิ่งที่พวกเขาทำ มาล้างแค้นให้พี่น้องของเรากันเถอะ!”
“ถูกต้อง เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ คนไร้มนุษยธรรมแบบนี้จะเป็นขุนนางที่ดีได้อย่างไร ในอนาคตก็คงเป็นขุนนางที่รับแต่เงินใต้โต๊ะ เราไม่ต้องการขุนนางแบบนี้!”
“ลากเขาลงมา ลากเขาลงมา!” คนที่เป็นผู้นำการชุมนุมลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้กำลังจะเข้ามาโดยไม่กลัวอันตราย ทหารยามที่ยืนอยู่ด้านข้างจึงหยิบดาบขนาดใหญ่ออกมาป้องกันตัว
ซูเผยอันเพิ่งเปิดประตูเดินออกมา เมื่อเห็นฉากนี้กับตาตนเองจึงสั่งว่า “เก็บดาบซะ!”
“ท่านแม่ของข้าตายแล้ว ข้าไปไม่ทันดูใจนางเป็นครั้งสุดท้าย ท่านแม่ ท่านแม่ รอข้าก่อนลูกชายจะตามท่านไป!” ชายคนนั้นร้องไห้ฟูมฟาย
หลังจากพูดจบ สายตาที่จับจ้องไปยังชายคนนั้นก็เห็นว่าเขาก้าวไปหยุดด้านข้างของทหารยามและคว้าดาบเล่มใหญ่นั้นมาจ่อคอตนเองไว้
ดาบเล่มใหญ่ฉายสะท้อนแสงแวววาว ทำชาวบ้านส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้ามองเพราะกลัวว่าจะมีฉากนองเลือดปรากฏตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
เมื่อคนอื่นที่อยู่ด้านข้างเห็นสิ่งนี้ ทันใดนั้นพวกเขาก็กระตุกยิ้มพอใจ หากแต่ไม่มีผู้ใดเห็น บนอาคารสูงฝั่งตรงข้ามมีร่างชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคำรามและทยานลงมา
จากนั้นมีเพียงเสียงกรีดร้องและมีดเล่มใหญ่ในมือของชายคนนั้นร่วงลงพื้น เหตุการณ์นองเลือดที่ทุกคนกลัวนั้นไม่ได้เกิดขึ้น และเห็นเพียงแต่มือของชายคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นสะบัดแส้ใส่ดาบเล่มใหญ่ในมือของชายคนนั้นจนกระเด็นตกลงพื้น
และเนื่องจากออกแรงมากเกินไป ชายคนนั้นก็มองไปที่อาโม่ซึ่งจู่ ๆ ก็เข้ามาและคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว “เจ้า…เจ้าเป็นใคร?”
“เจ้ายังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเจ้าจากไปแล้วหรือยัง เหตุใดถึงอยากตายเช่นนี้” อาโม่ถามอย่างสงสัย
“ท่านแม่ข้าตายแล้ว ท่านแม่ข้าตายแล้ว! มันเป็นความผิดของพวกเจ้าทั้งหมด ข้าจึงไม่ได้เจอท่านแม่เป็นครั้งสุดท้าย!” ชายวัยกลางคนพูดด้วยความสิ้นหวังและกำลังจะหยิบดาบเล่มใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง และเตรียมจะปาดคอตนเอง
อาโม่รู้แผนการของเขาเป็นอย่างดีและตวัดแส้ยาวในมือพันดาบเล่มใหญ่ที่อยู่บนพื้น และเหวี่ยงไปทางประตูกรมคลัง
“เจ้าจะทำอะไร? ข้าอยากตายทำไมไม่ปล่อยให้ข้าตาย?” เมื่อเห็นว่าตนเองไม่อาจตายได้ ชายวัยกลางคนก็ร้องตะโกนเสียงดัง
กู้หนิงอันผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอาโม่ปรากฏตัว กู้หนิงผิงมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายมา หากแต่มันก็ว่างเปล่า อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ได้
“ท่านลุง เขาพูดถูก ท่านยังไม่ได้ไปหาท่านแม่เลย ทำไมถึงเชื่อว่าท่านแม่จากไปแล้วล่ะ ข้าจะตรวจสอบข้อมูลให้ท่านโดยเร็วที่สุด ท่านจะได้รีบออกจากเมืองเพื่อไปหาท่านแม่ของท่าน เช่นนี้ดีหรือไม่?”
กู้หนิงอันกำหมัดแน่น
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วและตะโกน “ไม่ ท่านแม่ของข้าตายแล้ว ข้าอยากตาย ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”
“คนที่มาแจ้งเมื่อครู่คงเป็นภรรยาของท่าน ท่านอายุขนาดนี้คงมีภรรยาและลูกแล้ว ถ้าท่านตายไปภรรยาและลูกของท่านจะทำอย่างไร?” กู้หนิงอันยังคงเกลี้ยกล่อม
“ข้า…ข้า…” ชายคนนั้นพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าไม่มีดาบอีกต่อไปเขาจึงมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นและตะโกนอย่างเศร้าสร้อย “ท่านแม่ รอข้าก่อน ข้าจะไปหาท่าน”
ทุกคนเห็นเขาลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งตรงไปที่เสา เกรงว่าเขาต้องการจะเอาหัวโขกเสา
จนถึงขณะนี้ กู้หนิงอันก็ยังรู้สึกสงสัย และอาโม่ก็ตวัดแส้ยาวของเขาพันรอบตัวชายคนนั้นไว้และดึงกลับมา ทำให้ร่างของชายคนนั้นหงายหลังล้มลงกับพื้นเสียงดังจนเขาต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
พ่อค้าที่อยู่ข้าง ๆ เห็นสิ่งนี้ก็ตำหนิขึ้น “เจ้ามาจากไหนกัน ท่านแม่ของเขาตายแล้วจึงทุกข์ใจมาก เขาอยากตายเจ้าจะไปขวางเขาทำไม ทุกคนหยุดคนคนนี้ไว้ เขาเป็นลูกกตัญญู อย่าปล่อยให้เขาถูกคนเหล่านี้ทำลาย!” เขารีบลุกขึ้นทันทีและวิ่งเข้าไปกอดเอวอาโม่ และเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็รีบเข้ามากอดอาโม่ไว้เช่นกัน
อาโม่ไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้เข้ามาใกล้ตนเอง เขาใช้วิชาตัวเบาและทะยานไปที่อื่นราวกับนกนางแอ่น จนทำให้คนเหล่านั้นไม่ทันตั้งตัวและล้มลงบนพื้น
“ลูกกตัญญูหรือ? พูดได้เต็มปากว่าแสดงความกตัญญู ไม่ได้ยินเรื่องเมื่อครู่กันหรือ ผู้ชายคนนี้มีภรรยาแล้ว หากเขาแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่ที่ตายไปแล้ว แต่ไม่สนใจภรรยาและลูก ข้าอยากจะถามจริง ๆ ว่าภรรยาและลูกของเขาจะทำอย่างไร หรือแค่ตั้งใจที่จะใช้ความตายของผู้บริสุทธิ์มาทำให้เรื่องนี้แย่ลง?” น้ำเสียงของอาโม่ทุ้มต่ำแต่กลับทรงพลัง
เขามองไปรอบ ๆ และจับต้นตอของคนก่อปัญหาไว้อย่างรวดเร็ว คนเหล่านั้นคอยปลุกระดมให้ทุกคนเห็นด้วยและริเริ่มทำตาม
คุณหนูพูดถูก ตราบใดที่หัวหน้าของพวกเขาถูกจัดการก็จะจัดการคนอื่นง่ายขึ้นมาก ในขณะนี้กู้เสี่ยวหวานกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เงียบ ๆ พลางมองหญิงสาวที่ตัวสั่นเทาตรงหน้า
“คนที่จะฆ่าตัวตายคือสามีของเจ้าหรือ?” กู้เสี่ยวหวานถาม
“ใช่ สามีของข้าเอง…” หญิงคนนั้นพูดน้ำเสียงสั่นเครือ และมองมาที่กู้เสี่ยวหวานด้วยท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย
“ประโยคที่เจ้าตะโกนเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร” กู้เสี่ยวหวานจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูเด็ก แต่กลิ่นอายรอบตัวนางทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนก!