ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2196 ตระกูลซูล่มสลาย
บทที่ 2196 ตระกูลซูล่มสลาย
ลูกสาวของตระกูลซูหายตัวไป และลูกชายกำลังจะยกเลิกงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“คุณหนู ท่านใจเย็นก่อนเถอะ ข้าได้ยินมาว่ายังไม่มีประกาศจากทางราชสำนัก และไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะทำสำเร็จหรือไม่!” อาจั่วพูดอย่างรีบร้อน
ซูจือเยว่เคยช่วยคุณหนู ซูเผยอันเองก็ช่วยกู้หนิงอันแก้ไขปัญหา คุณหนูเป็นคนรู้คุณคน นางจะต้องช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน!
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่าง
ตระกูลซูกำลังหันปลายดาบมาที่ตนเอง!
ซูจือเยว่หมั้นหมายกับซูหมิ่นแล้ว จู่ ๆ ทำไมถึงเปลี่ยนใจขึ้นมา สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ซูหมิ่นเสียหน้า แต่ยังจะสร้างความโกรธเคืองให้หมิงอ๋อง และอาจทำให้ฮ่องเต้และไทเฮากริ้วได้
สุดท้ายแล้ว แต่งงานครั้งก็เป็นราชโองการจากฮ่องเต้!
“เจ้าไปหาสาเหตุของเรื่องนี้เสีย หากทางราชสำนักมีประกาศอะไรให้รีบกลับมาบอกข้าทันที!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเป็นกังวล
หลังจากอาจั่วจากไป กู้เสี่ยวหวานได้แต่เดินวนไปวนมาในห้องด้วยความประหม่า
ตระกูลซูเคยช่วยนางไว้ ตอนนี้ตระกูลซูกำลังเกิดปัญหา นางไม่สามารถมองดูเฉย ๆ ได้
ขณะเดียวกันในวังหลวง ซูจือเยว่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นมานานกว่าครึ่งชั่วยาม จนขาเริ่มมีอาการชาขึ้นมา แต่เขาก็ยังคุกเข่าต่อไปอย่างดื้อรั้น
ซูเทียนซื่อไม่แม้แต่จะปรายตามองอีกฝ่าย และยังคงอ่านฎีกาอย่างตั้งใจ ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเลย
อีกด้านหนึ่งขันทีฉีก้มหน้างุด เขาไม่ได้สบตาหรือแม้แต่จะขยับเขยื้อน ชั่วขณะหนึ่งทั่วทั้งตำหนักไม่มีเสียงใดเลยนอกจากเสียงพลิกหน้ากระดาษ และเสียงลมหายใจ
ไม่รู้ว่าซูจือเยว่คุกเข่านานแค่ไหน กระทั่งเวลาผ่านไปก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนจากข้างนอกซึ่งทำลายความเงียบสงบลง
“เสด็จพี่ฮ่องเต้ เสด็จพี่ฮ่องเต้ เสด็จพี่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้หมิ่นเอ๋อร์ ฮือ…”
ซูจือเยว่ขมวดคิ้วมุ่น เขาก้มหน้าลงตลอดเวลา ทำให้ไม่เห็นสีหน้าของผู้ที่นั่งอยู่เบื้องบน
ในไม่ช้ากู้เสี่ยวหวานก็ได้ข่าวว่าตระกูลซูล่มสลาย
ซูจือเยว่ยกเลิกงานแต่งงานก่อนวันงานสามวัน ซึ่งไม่เพียงทำลายศักดิ์ศรีของราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังทำลายชื่อเสียงของราชวงศ์ด้วย
ซูจือเยว่ขัดขืนต่อราชโองการ
อีกทั้งหมิงอ๋องยังเป็นพระญาติของฮ่องเต้ การที่ซูจือเยว่ฝ่าฝืนราชโองการของฮ่องเต้ ก็เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติจวนหมิงอ๋อง
ซูจือเยว่กำลังทำให้ทั้งสองฝ่ายขุ่นเคือง
ตอนแรกได้ยินว่าฮ่องเต้ไม่เห็นด้วย ต่อมาซูจือเยว่ยังคุกเข่าด้วยความดื้อรั้น และยังกล่าวว่าเขายินดีที่จะละทิ้งสถานะและความมั่งคั่งทั้งหมด
ฮ่องเต้เดือดดาลยิ่งนัก ดังนั้นเขาจึงปลดตำแหน่งทั้งหมดของซูเผยอันทันที และสั่งให้ตระกูลซูออกจากเมืองหลวงทันที
ซูเผยอันและลูกชายของเขาถูกทหารพาตัวกลับไป หลังจากกลับมาถึงจวนตระกูลลซู พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่จะเข้าไป และฮูหยินซูก็ถูกพาตัวออกไป
คนรับใช้ทั้งหมดถูกไล่ออก ทั้งสามคนถูกพาตัวไปที่ประตูเมือง และถูก ‘ส่ง’ ออกไป
ซูหมางยังคงทนไม่ได้ที่จะเห็นอดีตขุนนางอยู่ในสภาพน่าหดหู่เช่นนี้
“ใต้เท้าซู ฮ่องเต้สั่งให้ท่านออกจากเมืองหลวงทันที เพราะพวกท่านปฏิเสธงานแต่งงาน และยอมสละชื่อเสียงและความมั่งคั่งทั้งหมดโดยสมัครใจ เช่นนั้นในตอนนี้พวกท่านก็ไปเสียเถอะ ใต้เท้าซูและข้าจะเป็นสหายร่วมงานกัน แม้ว่าความสัมพันธ์ไม่ลึกซึ้งนัก แต่ถือว่ารู้จักกัน ต่อจากนี้ไปท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ย่างเท้าเข้ามาในเมืองหลวงอีก ไม่เช่นนั้น…อย่าโทษที่ข้าต้องโหดร้าย!” ซูหมางกล่าวอย่างหนักแน่น
ฮูหยินซูซึ่งถูกพาตัวออกจากจวนตระกูลซูอยู่ในอาการตกใจ
จนกระทั่งซูหมางเดินจากไป ซูจือเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็เข้ามาพยุงนาง จากนั้นฮูหยินซูก็จับมือของซูจือเยว่ และถามเสียงดังว่า “เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พวกเราจะถูกไล่ออกมาได้อย่างไร? เยว่เอ๋อร์ล่ะ? ตอนนี้เรื่องเยว่เอ๋อร์จะทำอย่างไร? ไม่ ข้าจะไปหานาง!”
ฮูหยินซูสะบัดมือของซูจือเยว่ออก และตรงไปที่ประตูเมือง ขนาดที่นางกำลังก้าวถึงประตูเมืองแต่ทันใดนั้นทหารเฝ้าเมืองสองคนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้านาง
“ให้ข้าเข้าไป ให้ข้าเข้าไป ข้าจะไปตามหาลูกสาวของข้า ข้าจะไปหาลูกสาวของข้า!” ซูจือเยว่รีบวิ่งเข้ามา ด้านหน้ามีทหารสองคนยืนขวางอยู่ ฮูหยินซูดูเหมือนจะเสียสติไป และเริ่มอาละวาดไปทั่ว
ซูจือเยว่กลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับมารดา ดังนั้นจึงกอดนางเอาไว้แน่น “ท่านแม่…”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เราไม่ได้ตกลงที่จะกลับบ้านเกิดหรือ? สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? จวนของเราล่ะ? เยว่เอ๋อร์ของเราอยู่ที่ไหน?” ฮูหยินซูราวกับเสียสติไปแล้ว
ใบหน้าของซูเผยอันซีดเซียวราวกับเผชิญหน้ากับความตาย “ฮูหยิน เรา…ไม่มีจวนแล้ว!”
“ไม่มีจวน? จะไม่มีจวนได้อย่างไร? เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือ? สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” ฮูหยินซูแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน และยังเอาแต่โวยวายเสียดัง
มีผู้คนมากมายบริเวณเมือง เมื่อได้ยินการเอ็ดตะโรก็มาดูเรื่องสนุกที่กำลังเกิดขึ้น
ฮูหยินซูราวกับเสียสติไปแล้ว ตอนนี้นางคุกเข่าหมดสภาพอยู่บนพื้น ถ้าไม่ใช่การแต่งกายอันเรียบร้อยและหรูหราของนาง ทุกคนคงคิดว่านางเป็นหญิงเสียสติไปแล้ว
เมื่อเห็นท่านแม่ของตัวมีอาการเจ็บปวดรวดร้าว หัวใจของซูจือเยว่ก็รู้สึกเจ็บปวดไปหมด เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียใจขนาดนี้ เสียใจที่ตนเองยอมยกเลิกการแต่งงาน
เราไม่มีจวนอีกต่อไป แม้แต่น้องสาวก็หาตัวไม่เจอ หัวใจของมารดาเหมือนจะแตกสลาย มันคือสิ่งที่เขาต้องการงั้นหรือ?
มีคนจำนวนมากอยู่ที่นี่ และซูเผยอันที่อดกลั้นมาตลอดก็เริ่มส่งเสียงสะอื้น “ฮูหยิน…”
“ข้าต้องการลูกสาวของข้า ข้าต้องการลูกสาวของข้า… เยว่เอ๋อร์ เยว่เอ๋อร์…” ฮูหยินซูกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
ซูเผยอันกลัวว่าสิ่งที่นางพูดจะสร้างความสงสัยให้กับทุกคน แม้ว่าเยว่เอ๋อร์จะกลับมา ชื่อเสียงนางก็เสียหายไปแล้ว
ซูจือเยว่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ จากนั้นฮูหยินซูก็หมดสติไป
โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนกัน?