ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2207 มีคนจำนวนมากต้องการฆ่านาง
บทที่ 2207 มีคนจำนวนมากต้องการฆ่านาง
“คืนนี้คุณหนูไปส่งของให้ซูจือเยว่ แต่ระหว่างทางกลับจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเจอหินก้อนใหญ่กลางถนน นายน้อยซูกับข้าช่วยกันย้ายมันออกไป ทำให้การเดินทางล่าช้า เมื่อมาถึงประตูเมืองอวี๋ส่าวเหลียงพยายามตรวจสอบรถม้าของเรา ยิ่งทำให้ล่าช้าขึ้นไปอีก” โค่วไห่รายงาน
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ ถ้าข้าไปไม่ทัน คุณหนูของพวกเจ้าจะถูกขังอยู่นอกเมือง หลังจากที่ประตูเมืองปิดแล้ว แม้ว่าฮ่องเต้จะมาด้วยตัวเองก็ไม่อาจทำให้ประตูเมืองเปิดได้”
“ข้าน้อยรู้ถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้ว มันเป็นเพราะพวกข้าไม่รอบคอบเอง!” โค่วไห่และอาจั่วกล่าวขึ้นพร้อมกัน
“พวกเจ้ารู้ไหมว่าอวี๋ส่าวเหลียงไปที่ไหนหลังจากนั้น” ฉินเย่จือไม่สบายใจเมื่อนึกถึงข่าวที่ได้รับ
อาจั่วและโค่วไห่มองหน้ากัน แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้อยู่แล้ว
“อวี๋ส่าวเหลียงไปหาซ่งฉีเหิงที่จวนตระกูลซ่ง และซ่งฉีเหิงไปหาหมิงอ๋องที่จวนหมิงอ๋อง ตอนนี้พวกเจ้าคิดว่าอวี๋ส่าวเหลียงสงสัยแค่เรื่องทะเบียนบ้านปลอมหรือ?”
เสียงของฉินเย่จือทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยความโกรธ อาจเป็นเพราะเขาเป็นคนที่เหนือกว่ามาโดยตลอด น้ำเสียงของเขาจึงเต็มไปด้วยความเกรงขาม
โค่วไห่และอาจั่วไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับจวนตระกูลซ่งและจวนหมิงอ๋อง ดังนั้นคืนนี้…
“นอกเมือง… ” ฉินเย่จือไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเขาได้ยินรายงาน เลือดก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย
ถ้าเขาช้าไปครึ่งก้าว แม้ว่าฮ่องเต้ก็อาจจะไม่เปิดประตูให้นางและปล่อยให้นางเข้ามาได้ และหากปล่อยให้นางอยู่นอกเมืองต่อไปก็อาจจะทำให้นางเจออันตรายได้
เมื่อโค่วไห่และอาจั่วได้ยินดังนั้น พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ และเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนอกเมือง
“นายท่าน ข้าน้อยคนนี้สมควรตาย พวกเราละเลยในหน้าที่ ได้โปรดลงโทษข้าเถอะ” โค่วไห่และอาจั่วกล่าวพร้อมกัน
ร่องรอยแห่งความหวาดกลัวก่อตัวขึ้นในหัวใจ เวลานั้นหากนายท่านมาไม่ทัน คาดว่าคืนนี้อาจเกิดการนองเลือดขึ้น
ฉินเย่จือหลับตาและระงับความกลัว ความโกรธนั้นท่วมท้นอยู่ในอก กู้เสี่ยวหวานเป็นสมบัติล้ำค่าของเขา เขาจะไม่มีวันปล่อยให้นางได้รับบาดเจ็บแน่นอน
“พวกเจ้าปกป้องคุณหนูให้ดี ช่วงนี้ข้าคงไม่ได้กลับมาเท่าไร!” เขาต้องจัดการกับเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายกับนางอีก
อาจั่วและโค่วไห่รีบพยักหน้ารับทราบ เมื่อเห็นฉินเย่จือลุกขึ้นแล้ว ก่อนจะออกไปยังไม่ลืมเอ่ยว่า “บอกคุณหนูว่าพรุ่งนี้ข้าจะไม่อยู่”
ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาตอบสนอง ร่างของเขาก็ทะยานหายไปในความมืด
เมื่อเห็นว่าฉินเย่จือจากไปแล้ว อาจั่วก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นด้วยความตกใจ แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นเล็กน้อย
นางเคยเป็นองครักษ์ทมิฬและเคยเห็นคนตายมามากมาย แต่ตอนนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อนึกถึงคุณหนูที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น ก็รู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
คุณหนูของนางมีจิตใจบริสุทธิ์ จะปล่อยให้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไร
คืนนั้นกู้เสี่ยวหวานนอนหลับไม่สนิททั้งคืน
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนยังคงชัดเจนอยู่ในใจ
ก้อนหินขนาดใหญ่ การสอบสวน การปิดประตูเมือง และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทำให้ความคิดของนางสับสนยุ่งเหยิง ก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด
แม้แต่ในฝันก็ยังทำให้นางตื่นตระหนก
ท่ามกลางภูเขาสูงตระหง่านมีสตรีในชุดสีขาวกำลังวิ่งหนีตาย ด้านหลังมีชายฉกรรจ์ถือดาบวิ่งไล่ตามมา “จับนางไว้ จับนางไว้ เมื่อจับนางได้เราจะรวยกันทั้งหมด”
มีชายที่แข็งแกร่งหน้าตาดุร้ายมากกว่าสิบคนวิ่งไล่ตามนางมา ทุกย่างก้าวของพวกเขาล้วนกดดันนาง นางวิ่งหนีตายท่ามความตื่นตระหนกและในที่สุดนางก็มาถึงหน้าผา ไม่มีทางให้นางได้ไปต่อ ดูเหมือนนางจะหมดหนทางรอดเสียแล้ว
คนเหล่านั้นถือดาบก้าวเข้ามาหานางด้วยรอยยิ้มน่ากลัว หญิงสาวถอยหลังจนไม่มีที่ให้ไปต่อ
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกกระวนกระวายใจ ใบหน้าที่แสดงความเกลียดชังของคนเหล่านั้นจึงดูชัดเจนราวกับว่านางได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของคนที่ถูกไล่ล่าได้อย่างชัดเจน แต่ทำไมตนถึงได้หวาดกลัวมากขนาดนี้
ราวกับว่าคนที่ถูกต้อนจนมุมคือตัวนาง!
ความรู้สึกเหมือนจริงเช่นนี้ทำให้กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วแน่น หากกระโดดลงไป คนพวกนี้ก็จะตัวนางไม่ได้ แต่นางเองก็คง…
จะกระโดดหรือไม่กระโดด?
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว นางควรกระโดดหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางจะได้ตอบสนอง ผู้หญิงในชุดขาวในความฝันก็กระโดดข้ามร่างของนางแล้วกระโดดลงหน้าผาไป
ความรู้สึกนั้นเสมือนจริงมาก ร่างกายของกู้เสี่ยวหวานดูเหมือนกำลังถูกเหยียบ กายของนางสั่นเทาก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“คุณหนู…” อาจั่วที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงกรีดร้องก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ นางยกผ้าสีดำที่คลุมไข่มุกราตรีออก ทำให้ภายในห้องเกิดแสงสว่างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับไปหากู้เสี่ยวหวาน ทันใดร่างกายของนางก็ต้องแข็งทื่อ
แสงของไข่มุกที่ส่องสว่างนั้นสว่างมากจนสามารถเห็นดวงตาของกู้เสี่ยวหวานได้ชัดเจน
นางหันกลับมาและเห็นอย่างชัดเจนว่ามีบางสิ่งที่แวบผ่านในดวงตาของคุณหนู และแสงนั้นมีสีแดง
แต่เมื่อมองอย่างตั้งใจอีกครั้งก็พบว่ามันปกติ ราวกับว่านางตาฝาดไป
กู้เสี่ยวหวานนั่งอยู่บนเตียงไม่พูดไม่จา อาจั่วจึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเหมือนสูญเสียการควบคุมไปแล้ว จึงรีบเข้าไปปลอบนาง “คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรไป? ละเมอหรือเจ้าค่ะ”
กู้เสี่ยวหวานไม่พูดอะไร ก้มหน้าลงและรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
มันเป็นฝันร้าย แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงขนาดนี้? ความกลัวและความสิ้นหวังแบบนั้นราวกับว่านางประสบกับมันด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกของคุณหนู อาจั่วก็รู้สึกราวกับว่ามีใครมาบีบหัวใจอย่างแรง และคำถามที่เพิ่งพูดไปก็แล่นเข้ามาในความคิดของนางทันที
คืนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น หัวใจของนางจึงเกิดความอ่อนแอเป็นธรรมดา เกรงว่าคุณหนูคงกำลังคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และหลับไป
อาจั่วรู้สึกผิดอย่างมาก นางคิดเพียงว่ากู้เสี่ยวหวานหวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ดังนั้นนางจึงลูบหลังกู้เสี่ยวหวานเบา ๆ และพูดว่า “คุณหนูไม่ต้องกลัว อาจั่วอยู่ที่นี่ อาจั่วจะปกป้องท่านอย่างแน่นอน!”