ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 2221 ตระกูลเหลียงที่ไร้ยางอาย
บทที่ 2221 ตระกูลเหลียงที่ไร้ยางอาย
นอกจากนี้ นางยังได้พบคนตระกูลเหลียง เดิมทีกู้เสี่ยวหวานรู้อยู่แล้วว่าบิดามารดาของเหลียงต้าเปาได้จากไป เหลียงโส่วอี้และภรรยาเองก็อายุมากแล้ว ทั้งยังต้องมาเสียลูกชายและลูกสะใภ้ไปอีก นางจึงรู้สึกสงสารพวกเขามาก
แต่พวกเขากลับตีความการช่วยเหลือของตนเป็นว่านางกำลังขอร้องพวกเขา เริ่มแรกพวกเขาก็พูดความจริงและยังคิดว่ากู้เสี่ยวหวานกลัวจึงเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับนาง
ห้าพันตำลึงเงินหรือ? ตระกูลเหลียงช่างโลภมากจริง ๆ!
พวกเขาคิดว่าเงินของตนพัดมากับสายลมหรืออย่างไร!
กู้เสี่ยวหวานแสยะยิ้ม ความจริงแล้วนางมีแผนการอยู่ในใจ และพูดด้วยความลำบากใจ “เหลียงซือ บอกตามตรงว่าร้านค้าทั้งหมดไม่ใช่ของข้าแต่เพียงผู้เดียว ข้ายังมีผู้ร่วมทุนด้วยมากมาย หากจะให้ต้าเปามาดูแล เรื่องนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจคนเดียว ข้าจะต้องถามความเห็นทุกคนก่อน!”
“ดีดีดี ดีเลย เช่นนั้นเจ้าก็ไปถามเถอะ ข้าจะรอคำตอบ!” เหลียงซือตาเป็นประกาย
“เสี่ยวหวาน…” ครั้นกู้ฟางสี่ได้ยินก็รู้สึกกังวล
กู้เสี่ยวหวานโบกมือบอกกู้ฟางสี่ว่าไม่เป็นไร เมื่อเห็นหลานสาวไม่อธิบายอะไรจึงกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ
เหลียงซือเห็นเพียงกู้เสี่ยวหวานโบกมือเบา ๆ กู้ฟางสี่ก็หยุดพูดจึงยิ้มออกมาทันที
จวนนี้เป็นของกู้เสี่ยวหวาน และกู้ฟางสี่เป็นเพียงผู้อาศัย ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรทั้งนั้น!
กู้เสี่ยวหวานรับผิดชอบดูแลเรื่องในจวน ตราบใดที่นางตัดสินใจแล้ว ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ!
กู้เสี่ยวหวานเห็นรอยยิ้มพอใจบริเวณมุมปากของเหลียงซือก็กระตุกยิ้ม “เหลียงซือ ท่านต้องการเงินห้าพันตำลึงเงินใช่หรือไม่? ควาจริงแล้วเงินนี้ก็ไม่ใช่เงินจำนวนมากเท่าไหร่ แต่ท่านก็รู้ว่าปกติแล้วไม่มีใครพกเงินมากมายขนาดนั้นหรอก เช่นนั้นข้าจะให้เงินห้าสิบตำลึงเงินแก่ท่านก่อน ถ้าอยู่อย่างอดออมก็สามารถใช้ได้ถึงสามวัน หลังจากสามวัน ถ้าข้ามีเงิน ข้าจะส่งไปให้ใหม่!”
เมื่อเหลียงซือได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานจะให้เงินตนเองเพียงห้าสิบตำลึงเงิน ก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย หากแต่ก็ไม่อาจคัดค้านได้ นางบอกว่าครอบครัวไม่มีเงิน ดังนั้นหากตัวเองตื้อมากกว่านี้ กู้เสี่ยวหวานอาจรู้สึกรังเกียจ
“ข้าเอาตามที่เสี่ยวหวานคิด ข้ารู้ถึงความยากลำบากของเจ้า ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าช่วยข้า ในอนาคตข้าจะไม่มารบกวนเจ้าอีกอย่างแน่นอน ลุงของเจ้าเคยเป็นหัวหน้าหมู่บ้านและตอนนี้เจ้าก็เป็นองค์หญิง ทุกคนล้วนรักในศักดิ์ตัวเองใช่หรือไม่ การพูดเรื่องเก่า ๆ เหล่านั้นอีกก็เหมือนเป็นการลดศักดิ์ศรีตนเอง โดยเฉพาะเจ้า เสี่ยวหวาน ตอนนี้เจ้าเป็นองค์หญิงแล้ว สถานะของเจ้าตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อน เจ้ามีทั้งเงินและสถานะ เรื่องในอดีตผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเสีย! ในอนาคตถ้าต้าเปาสามารถตั้งตัวได้ เขาก็จะสามารถช่วยเจ้าได้ เจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ?”
คำพูดของเหลียงซือราวกับกำลังขมขู่ตนเองว่า ถ้าเจ้าไม่ตกลง ข้าจะเปิดโปงทุกสิ่งที่เจ้าขอให้ข้าพูดและทำก่อนหน้านี้
“ท่านป้าพูดถูกจริง ๆ” หลังจากกู้เสี่ยวหวานฟังจบก็พยักหน้า
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเชื่อฟังที่ตนเองพูดขนาดนี้ เหลียงซือก็เก็บเงินห้าสิบตำลึงเงินไปอย่างมีความสุข
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่อาจั่ว ทันใดนั้นหญิงสาวก็เข้าใจทันที และไปส่งหลียงซือที่ประตูสวนชิง ระหว่างทางนั้นเหลียงซือนั้นร่าเริงมาก
เมื่อเหลียงซือเห็นว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากกู้เสี่ยวหวาน และสาวใช้ข้างกายกู้เสี่ยวหวานที่มาส่งนางด้วยตนเอง ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานจะหวาดกลัวในสิ่งที่ตัวเองพูดเมื่อครู่
เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังกุมความลับของกู้เสี่ยวหวานไว้ เหลียงซือรู้สึกภูมิใจหาสิ่งใดเปรียบ อีกฝ่ายเป็นถึงองค์หญิงมันเพียงพอให้พวกตนอยู่อย่างสบายโดยไม่ต้องทำอะไรทั้งชีวิตแล้ว นอกจากนี้พวกตนกุมความลับขององค์หญิงเอาไว้อีกด้วย!
เมื่อมองจากสถานการณ์ในวันนี้แล้ว เงินห้าพันตำลึงและตำแหน่งในกิจการของนาง กู้เสี่ยวหวานคงตกลงอย่างเต็มใจ ตอนพวกเขามาถึงเมืองหลวงครั้งแรก พวกเขาหมายจะประจบประแจงครอบครัวใหญ่ พวกเขาเคยสมรู้ร่วมคิดกันมาก่อน พวกเขาต่างทำสิ่งเลวร้ายมากมาย!
การมาร่วมมือกับกู้เสี่ยวหวานถือเป็นการช่วยตระกูลเหลียง วันที่ดีของพวกเขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า!
ตอนเหลียงซือออกจากจวน ยังไม่ลืมหันไปขอบคุณอาจั่ว “องค์หญิงของเจ้าเป็นคนใจดี เปรียบดังพระโพธิสัตว์กลับชาติมาเกิด ครอบครัวของเรามองนางเป็นคนดีมาตลอด! และข้าก็มองไม่ผิด มองไม่ผิดจริง ๆ!”
“สิ่งที่เหลียงซือพูดถูกต้อง คุณหนูของข้านั้นเป็นคนใจดี!” อาจั่วยิ้ม
เหลียงซือเห็นว่าอาจั่วยิ้มให้ตนเองและแสดงท่าทีเคารพ จึงรู้สึกภูมิใจมากราวกับว่าสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนรับใช้ของตนเอง
นางเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและมองไปที่สวนชิง
สวนชิงนี้ใหญ่โตจริง ๆ!
มีน้ำตกเล็ก ๆ ดอกไม้และต้นไม้ล้ำค่านับไม่ถ้วน ศาลาแปดเหลี่ยม สิ่งของในห้องกู้เสี่ยวหวานล้วนแต่เป็นของล้ำค่าที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน
จะดีแค่ไหนถ้านางได้อาศัยอยู่ในจวนหลังนี้!
เหลียงซือมองสวนชิงด้วยความอิจฉาก่อนจะสบเข้ากับสายตาของอาจั่ว สายตาเต็มไปด้วยความโลภและความปรารถนาจนทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็น
……
ตอนนี้กู้ฟางสี่กำลังโกรธเป็นอย่างมาก “นางเป็นอะไร? เหลียงต้าเปาเป็นโคลนที่ฉาบไม่ติดผนัง*[1] ช่วยเสี่ยวหวานอย่างนั้นหรือ? ข้าอยากจะทุบ ข้าไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายแบบนี้มาก่อนเลย!”
กู้เสี่ยวหวานเห็นว่ากู้ฟางสี่โกรธจนแทบจะกระอักเลือด จึงรีบปลอบโยน “ท่านอา ท่านอย่าโกรธไปเลย ข้าว่ามันไม่คุ้มที่จะโกรธ!”
“ไม่โกรธหรือ? ข้าจะไม่โกรธได้อย่างไร? สมองของตระกูลเหลียงคงมีปัญหากระมัง ตอนนั้นเขากับครอบครัวใหญ่ทำอะไรกับพวกเราไว้มากมาย ทั้งยังเอาเรื่องนี้มาบังคับเจ้าอีก ทำไมถึงไร้ยางอายขนาดนี้?”
เมื่อเห็นกู้ฟางสี่ปกป้องตัวเองอย่างกล้าหาญ ก็พบว่าตอนนี้ท่านอาของตนไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้และขี้อายเหมือนตอนที่เพิ่งพากลับมาจากบ้านของสามีอีกต่อไป
ท่านอาเปลี่ยนไปมาก!
แต่มันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่กู้เสี่ยวหวานหวังว่าจะได้เห็น! การที่ผู้หญิงขี้อายและขี้ขลาดเกินไปนั้นไม่ดีนัก หากพวกนางมีความกล้าหาญที่จะไล่ตามความสุขของตนเองจะดีกว่ามาก
และเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ท่านอากลายเป็นคนที่กู้เสี่ยวหวานต้องการให้เป็น
[1] คนไร้ความสามารถ