ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 253 สามีภรรยาทะเลาะกัน
บทที่ 253 สามีภรรยาทะเลาะกัน
บทที่ 253 สามีภรรยาทะเลาะกัน
ในใจของเฉาซื่อนั้นนึกเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนชี้นกเป็นก ชี้ไม้เป็นไม้ เมื่อขอให้กู้ฉวนโซ่วไปทิศตะวันตก เขาจะกล้าไปทิศตะวันออกได้อย่างไร
แต่เสียใจแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ เฉาซื่อสะสมบางอย่างมาเกือบสิบปี เมื่อจะต้องนำออกไปก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เพื่อปิดปากของเฉาฮุย นางจึงทำได้เพียงเท่านี้
เฉาซื่อมองดูสิ่งของในมืออย่างไม่เต็มใจ และเมื่อนางกำลังจะดูให้ดี ประตูก็ถูกเคาะ และถูกเปิดออกฉับพลัน
เฉาซื่อตกใจและรีบจัดของบนโต๊ะทันที แต่ก็สายเกินไปแล้ว ดวงตาของกู้ฉวนโซ่วเป็นประกายเพราะเขาได้เห็นสิ่งต่าง ๆ บนโต๊ะแล้ว
เขาถือเหยือกเหล้าอยู่ในมือ เดินโซเซ เหยียบพื้นเหมือนเหยียบผ้าฝ้าย ร่างกายโซไปเซมา เมื่อมองดูเครื่องประดับทองและเงินบนโต๊ะ พลันคลี่ยิ้ม “ว้าว ไม่คิดว่าในบ้านยังมีของดีขนาดนี้อยู่”
หลังจากได้ยินคำพูดของกู้ฉวนโซ่ว เฉาซื่อก็รีบเก็บของและตะโกนเสียงดัง “ของพวกนี้เป็นของข้า”
เมื่อกู้ฉวนลู่ได้ยินสิ่งนี้ ก็ยกเหยือกเหล้าขึ้นมาและกล่าวอย่างไม่พอใจ “ของเจ้า? ทุกอย่างในบ้านนี้เป็นของข้า!”
เมื่อพูดจบก็เดินมาข้างหน้าเพื่อแย่งมัน เฉาซื่อจะยอมให้กู้ฉวนโซ่วแย่งของไปได้อย่างไร
แม้ว่ากู้ฉวนโซ่วจะเป็นชายร่างใหญ่ แต่เนื่องจากเขาดื่มเหล้ามากเกินไป เฉาซื่อจึงตัดสินใจดึงของออกจากมือของกู้ฉวนโซ่ว แต่เขาจะยอมได้อย่างไร เขาโยนเหยือกเหล้าทิ้งแล้วเดินมาข้างหน้า ทั้งสองคนจึงยื้อแย่งสิ่งของกันอยู่นาน
เมื่อกู้ฉวนโซ่วเห็นว่าเฉาซื่อไม่ยอมปล่อยมือ เขาจึงตวาดลั่น “นังสารเลว ปล่อย!” แม้ว่ากู้ฉวนโซ่วจะดื่มมามาก แต่สิ่งล่อใจอย่างทองคำทำให้กู้ฉวนโซ่วได้สติขึ้นมา
“ไม่ มันเป็นของข้า!” เฉาซื่อปกป้องสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของนางอย่างแน่นหนา แม้ว่ากู้ฉวนโซ่วจะตบหลังของตนเอง นางก็ไม่ยอมปล่อยของในมือไป
ในวันนี้เฉาซื่อเหลือเพียงแค่สิ่งของในมือนี้เท่านั้น สมบัติและเงินทั้งหมดถูกกู้ฉวนโซ่วเอาไปหมดแล้ว นอกจากอาหารแล้ว กู้ฉวนโซ่วก็ไม่ได้ให้อะไรกับนางอีกเลย นี่ไม่ใช่การให้นางดื่มลมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ*[1]อย่างนั้นหรือ?
เฉาซื่อเคยเป็นคนที่มีเงินเป็นของตัวเองและใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ตอนนี้เมื่อเห็นว่านางไม่มีเงินแม้แต่ตำลึงเงินเดียว มันก็เป็นชีวิตที่น่าสังเวช เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉาซื่อก็ไม่สามารถให้กู้ฉวนโซ่วเอาของตนเองไปได้
เมื่อได้ยินปากของกู้ฉวนโซ่วเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าและเรื่องไร้สาระ เฉาซื่อจึงกล่าวว่า “สามี เจ้ามองผิดแล้ว นี่เป็นเครื่องประดับที่ไร้ค่าของข้า!”
กู้ฉวนโซ่วไม่เชื่อ เมื่อสักครู่ที่เขาเข้ามา แม้ว่าเขาจะเมาและตาพร่ามัว แต่ก็ยังมองเห็นสร้อยข้อมือทองคำขนาดใหญ่ได้ชัดเจน “นังสารเลว กล้าโกหกข้าอย่างนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นทอง”
เฉาซื่อพูดไม่ออก หากแต่ยังโกหกต่อไป “สามี เจ้ามองผิดไปจริง ๆ นี่เป็นสิ่งไร้ค่า ทองแดง มันคือทองแดง!”
อย่างไรกู้ฉวนโซ่วก็ไม่เชื่อ เขาดึงมือของเฉาซื่อและบิดอย่างแรง เฉาซื่อได้รับความเจ็บปวดจึงร้องไห้ออกมา เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนโซ่วเป็นบ้าไปแล้ว นางจึงตบไปที่หน้าของเขา
“สารเลว เจ้ากล้าตีข้าอย่างนั้นหรือ!” กู้ฉวนโซ่วถูกเฉาซื่อตบอย่างแรง และด้วยแรงตบของเฉาซื่อจึงทำให้เขากลับมามีสติ และจ้องมองที่เฉาซื่อราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉาซื่อเห็นกู้ฉวนโซ่วมองนางเช่นนี้ เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนโซ่วเป็นเช่นนี้ เฉาซื่อก็กลัวตัวสั่นเล็กน้อยและผงะถอยหลังไป
แต่กู้ฉวนโซ่วจะปล่อยให้เฉาซื่อหนีไปได้อย่างไร เมื่อเห็นเฉาซื่อกำลังก้าวถอยหลัง เขาจึงเหยียดขาออกไป เฉาซื่อที่ไม่ทันระมัดระวังจึงสะดุดล้มลงกับพื้น และลุกขึ้นไม่ได้เพราะความเจ็บปวด สิ่งที่อยู่ในมือของนางจึงกระเด็นและตกลงกับพื้น
เฉาซื่อร้องโอดโอย แต่กู้ฉวนโซ่วก็ไม่สนใจ พ่นลมหายใจอย่างชั่วร้าย หยิบห่อผ้าขึ้นมา เมื่อเปิดออกก็พบกับสร้อยข้อมือสีเหลืองทองขนาดใหญ่ และเครื่องประดับอื่น ๆ
กู้ฉวนโซ่วรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นเฉาซื่อจ้องเขม็งมาที่เขา จึงขู่ว่า “นังสารเลว ถ้าเจ้ากล้าที่จะซ่อนสิ่งของอีก มาดูกันว่าข้าจะตีเจ้าให้ตายอย่างไร”
เมื่อพูดจบก็นำห่อผ้านั้นเก็บไว้ในอก เมื่อเฉาซื่อเห็นสิ่งของที่นางซ่อนมาสิบกว่าปีถูกกู้ฉวนโซ่วฉวยเอาไปจึงร้องเสียงดัง นางไม่สนใจความเจ็บปวดบนร่างกายของนางอีกต่อไป นางกระโดดไปข้างหน้าเพื่อกอดขาของกู้ฉวนโซ่วไว้ พลางสะอื้นไห้เสียงดัง “สามี นั่นเป็นสินสอดทองหมั้นของข้า”
“ข้าไม่…” เมื่อกู้ฉวนโซ่วได้ยินเฉาซื่อกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นสินสอดทองหมั้นของนาง จึงกล่าวอย่างประชดประชันว่า “สินสอดทองหมั้นอย่างนั้นหรือ ไม่มีใครในหมู่บ้านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าแต่งงานเข้ามาในตระกูลกู้ แต่งานบ้านงานเรือนเจ้ากลับทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง สินสอดทองหมั้นอย่างนั้นหรือ! ไม่อายหรืออย่างไร?”
ในอดีต เมื่อกู้ฉวนโซ่วชอบเฉาซื่อ เขาไม่ได้สนใจว่าเฉาซื่อจะนำสินสอดทองหมั้นมาหรือไม่ แม้ว่าตระกูลกู้จะใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อแต่งเฉาซื่อเข้ามา แต่นางนั้นไม่ได้นำสินสอดทองหมั้นอันมีค่ามาให้ แต่ในเมื่อกู้ฉวนโซ่วชอบ ไม่ว่าเฉาซื่อจะทำอย่างไรเขาก็ไม่ว่า
แต่เวลาได้ผ่านไปแล้ว วันนี้ต่างจากเมื่อก่อน กู้ฉวนโซ่วไม่ได้ชอบเฉาซื่ออีกต่อไป ความเมตตาในอดีตกลายเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว
เมื่อเฉาซื่อได้ยินกู้ฉวนโซ่วเยาะเย้ยตนเอง นางก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และตระหนักได้ว่ากู้ฉวนโซ่วได้ละเลยความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยาไปอย่างสิ้นเชิง
ในขณะที่เฉาซื่อยังมึนงงอยู่ กู้ฉวนโซ่วจึงเหวี่ยงขาเพื่อหวังจะสลัดเฉาซื่อออกไป แต่เฉาซื่อกอดแน่นจนเขาสลัดไม่หลุด เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องทำในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจนาง เขาจับไปที่โต๊ะข้าง ๆ เพื่อพยุงตัว และเตะเฉาซื่ออย่างโหดหี้ยม
เขาเตะนางและกล่าวอย่างโหดร้าย
ผู้ชายนั้นมีความแข็งแกร่งมาก กู้ฉวนโซ่วโกรธมาก ด้วยฤทธิ์เหล้าและการกระทำของเขาก็รุนแรง เฉาซื่อที่ถูกเตะก็ร้องโอดครวญ หากนางไม่ปล่อยก็จะถูกกู้ฉวนโซ่วเตะจนตาย จึงทำได้เพียงปล่อยไป เมื่อเห็นว่าตนเองเป็นอิสระ กู้ฉวนโซ่วก็พ่นลมหายใจเย็นชา และไม่สนใจเฉาซื่อที่นอนขดตัวและร้องโอดโอยอยู่บนพื้นอีกต่อไป
กู้ฉวนโซ่วไม่สนใจ เขารู้เพียงว่าเขามีสิ่งที่ดีอยู่ในกับตัวแล้ว และในใจของเขาไม่รู้ว่าตนมีความสุขมากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงหยิบของที่ต้องการเดินออกไปจากบ้าน และหายไปในความมืด
กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีอยู่ในห้องถัดไป และพวกเขาก็ได้ยินการเคลื่อนไหวในห้องของมารดาเช่นกัน แต่วันปกติพวกเขาได้เห็นมาเยอะแล้วจึงชินชา หลังจากที่กู้ถิงถิงช่วยกู้ซุ่นสีล้างหน้าเสร็จทั้งสองจึงเข้านอน โดยที่ไม่ไปดูเฉาซื่อเลย
*[1] ไม่มีอะไรจะกิน