ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 277 พูดให้ร้าย
บทที่ 277 พูดให้ร้าย
เมื่อเรื่องที่ดีเช่นนี้ไปถึงหูของกุ้ยซื่อ มันก็กลายเป็นเรื่องใส่ร้ายชื่อเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อคิดดูแล้วก็พลันรู้สึกว่ากุ้ยซื่อผู้นี้นั้นน่ารังเกียจยิ่งนัก
ป้าจางรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบของกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานกลับเข้าไปในบ้าน บอกกู้หนิงอันและกู้เสี่ยวอี้เพื่อขอให้พวกเขาไปพักอยู่ที่บ้านของป้าจางหนึ่งคืน และบอกว่าพี่ฉือโถวมีอะไรสนุก ๆ ให้ทั้งสองคนเล่นกัน
กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ไม่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และติดตามป้าจางไปอย่างมีความสุข
กู้เสี่ยวหวานอยู่บ้านคนเดียวเพื่อรอเผชิญหน้ากับบรรยากาศบ้าคลั่งที่อาจปะทุขึ้นในวันพรุ่งนี้
ในเช้าวันรุ่งขึ้นกู้เสี่ยวหวานก็ลุกขึ้น ล้างหน้า กินอาหารเช้า และหลังจากที่นางทำความสะอาดแล้วก็มีเสียงเคาะมาจากประตู
กู้เสี่ยวหวานพ่นลมอย่างเย็นชา เช็ดมือที่เปียกของนางให้สะอาด จัดระเบียบกระโปรงของนาง และเปิดประตูพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นสูง
หัวหน้าหมู่บ้านอู๋ซียืนอยู่หน้าประตู
สีหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมืดมนราวกับว่าเขากำลังจะอารมณ์เสีย ในตอนที่กู้เสี่ยวหวานออกมาจากบ้าน ดวงตาที่ขุ่นมัวก็จ้องไปที่กู้เสี่ยวหวาน แต่นางไม่ได้มองเขาเลยและยืดตัวตรง ยืนอยู่ในลานบ้าน มองดูคนเจ็ดสิบหรือแปดสิบคนที่มารวมกันที่ประตู คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้สูงอายุในหมู่บ้านที่กำลังมองดูตนเองด้วยความขุ่นเคือง
กู้เสี่ยวหวานหัวเราะเยาะในใจ แต่นางแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง และมองดูคนพวกนั้นที่ประตูอย่างไร้เดียงสาและกล่าวอย่างโกรธเคือง “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ทุกคน เหตุใดถึงมาที่นี่กัน?”
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพ่นลมอย่างเย็นชาราวกับว่าเขากำลังขุ่นเคือง ชี้นิ้วสั่นระริกไปที่กู้เสี่ยวหวาน และตะโกนเสียงดัง “สาวน้อยจากตระกูลกู้ เจ้าทำให้หมู่บ้านอู๋ซีแห่งนี้ขายหน้าไปหมดแล้ว”
กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นประหลาดใจราวกับว่าคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเป็นเหมือนเป็นเรื่องที่น่าตกใจ กู้เสี่ยวหวานตะลึงและหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็มีคำพูดสองสามคำก็ออกมาจากปากของนาง “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท่านพูดอะไรน่ะเจ้าคะ?”
แววตาดูตื่นตระหนกตกใจ
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานและกล่าวว่า “รีบเปิดประตู จะให้พวกข้าพูดกับเจ้าผ่านกำแพงลานบ้านอย่างนั้นหรือ? ”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง กู้เสี่ยวหวานก็พูดว่า “โอ้” แล้วนางก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตู หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงรู้สึกโล่งใจมากเมื่อเห็นท่าทางเร่งรีบของนาง หึ กู้เสี่ยวหวาน เจ้าก็มีวันที่หวาดกลัวเช่นนี้ด้วยสินะ!
กู้เสี่ยวหวานรีบเชิญทุกคนเข้าไปที่ลานบ้าน แต่ไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปในบ้าน “ขอโทษจริง ๆ บ้านของข้าเล็กเกินไปที่จะรองรับคนจำนวนมาก นอกจากนี้หนิงผิงและเสี่ยวอี้ก็ไปเล่นแต่เช้าตรู่ ข้าเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่บ้านเพียงผู้เดียว จึงไม่ค่อยสะดวก ข้าจึงอยากรบกวบให้ทุกคนยืนอยู่ในลานนี้”
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็โกรธจนเคราของเขากำลังจะยกขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา ครั้งนี้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า มาดูกันว่าเจ้าจะพูดอะไรอีก
กู้เสี่ยวหวานพาพวกเขาไปที่ลานบ้าน แล้วยืนอยู่ข้าง ๆ กะพริบตามองไปที่ผู้คนรอบ ๆ ตัวราวกับไม่รู้เจตนาของพวกเขา และไม่ได้ริเริ่มที่จะพูด หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงรู้สึกราวกับใกล้จะตาย
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าไม่รู้ความผิดของตนอย่างนั้นหรือ?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่สนใจมากนัก และเอ่ยถามกู้เสี่ยวหวานโดยตรง
กู้เสี่ยวหวานยังคงดูตื่นตระหนก และดูเหมือนว่านางจะตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เด็กหญิงตื่นตระหนกเล็กน้อย และเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก “เหลียง…เหลียง…หัวหน้า ท่าน…พูด…อะไร…ท่านหมายถึงอะไร?”
คำพูดติดอ่าง แต่อย่างน้อยก็จบประโยคหนึ่งประโยค เมื่อคนรอบข้างเห็นท่าทางเช่นนั้น พวกเขาเดาว่าสาวน้อยผู้นี้ต้องกลัวและรู้สึกผิดเล็กน้อย เดิมทีวันนี้ทุกคนก็ไม่ได้อยากมาที่นี่เท่าไรนัก แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงบอกว่ากู้เสี่ยวหวานได้ทำลายชื่อเสียงของหมู่บ้านอู๋ซี ถ้าไม่ลงโทษนาง ถึงเวลานั้นลูกหลานของหมู่บ้านอู๋ซีจะเสียหาย คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงค่อนข้างจริงจัง คนเฒ่าคนแก่พวกนี้ทุกคนล้วนมีลูกและหลานในครอบครัว ด้วยคำพูดจากหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ทุกคนจึงมารวมตัวที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน
คำพูดของเขานั้นไร้ความปรานี โดยบอกว่าแค่ต้องการสั่งสอนกู้เสี่ยวหวาน สิ่งที่เขาพูดทำให้คนอยากตบหน้าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง แต่เขาก็ยังเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นจะไม่มาก็ไม่ได้
ดังนั้น คนอายุมากกว่าหกสิบปีในหมู่บ้านจึงมาที่นี่
กู้เสี่ยวหวานฉงนงงงวย เอียงศีรษะแล้วถาม “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ข้าอายุแค่เก้าขวบ ข้าจะทำเรื่องน่าละอายเช่นนั้นได้อย่างไร?”
“อายุแค่เก้าขวบอย่างนั้นหรือ?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงสูดจมูกอย่างเย็นชา “เพิ่งจะเก้าขวบแต่กลับเรียนรู้ที่จะคบกับผู้ชายแล้ว เมื่อโตขึ้นจะมีนิสัยอย่างไร”
“คบผู้ชาย?” ขณะที่กู้เสี่ยวหวานทวนคำเหล่านี้ช้า ๆ ทันใดนั้น กุ้ยซื่อและสตรีสองสามคนก็เดินมา
“โอ้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท่านลุงทุกคน พวกท่านมาแล้ว!” กุ้ยซื่อยิ้ม แล้วชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานและกล่าวว่า “สาวน้อยผู้นี้ บลา ๆ … ไอหยา… บลา ๆ”
กุ้ยซื่อไม่ได้กล่าวออกมาทุกคำ แต่เมื่อมองดูความรังเกียจของนาง ดูเหมือนว่านางจะไม่ชอบกู้เสี่ยวหวานมากนัก
“กุ้ยซื่อ บอกมาว่ากู้เสี่ยวหวานทำอะไร?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าว
กุ้ยซื่อพยักหน้าแล้วเล่าเกี่ยวกับการพบปะของกู้เสี่ยวหวานกับหลี่ฝานและเสี่ยวเซิ่งจื่อในวันนั้น แต่สิ่งที่นางเล่านั้นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นอย่างแท้จริง นางบอกว่ากู้เสี่ยวหวาน หลี่ฝานและเสี่ยวเซิ่งจื่ออยู่ในห้องโดยที่ประตูปิดอยู่ เมื่อนางออกมา กู้เสี่ยวหวานก็ได้พูดคุยและหัวเราะกับเสี่ยวเซิ่งจื่ออย่างรักใคร่
กู้เสี่ยวหวานได้ยินกุ้ยซื่อพูดเกินจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น แต่ยังคงมองกุ้ยซื่อด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แต่ถ้ามองอย่างระมัดระวังจะพบว่ามีแสงเย็นวาบในดวงตาของกู้เสี่ยวหวาน
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้ายังจะพูดอะไรได้อีก!” หลังจากกุ้ยซื่อพูดจบ เคราของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ยกขึ้นอีกครั้ง เขาชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานและกล่าวอย่างโกรธเคือง
กู้เสี่ยวหวานส่ายหน้า “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท่านคิดว่าข้านัดพบกับคนรักเป็นการส่วนตัวเพราะฟังจากคำพูดของกุ้ยซื่อด้านเดียวอย่างนั้นหรือ?”
กู้เสี่ยวหวานไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นอ่อนแอ นางจ้องไปที่กุ้ยซื่อและพูดทีละคำ แสงเย็นวาบในดวงตาของนางทำให้กุ้ยซื่อตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ กุ้ยซื่อตัวสั่นระริก นี่ก็เกือบเดือนสี่แล้ว ทำไมยังรู้สึกหนาวอยู่! กุ้ยซื่อพึมพำ เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน นางจึงรีบถอยกลับและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฝูงชนทันที
สาวน้อยผู้นี้อายุไม่มาก แต่ทำไมแววตานางดุร้ายเช่นนี้ ราวกับว่าตอนนี้นางกำลังจะกลืนกินตนเองอย่างไรอย่างนั้น