ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 36 เจอของล้ำค่า
บทที่ 36 เจอของล้ำค่า
บทที่ 36 เจอของล้ำค่า
ทว่านางก็ต้องรู้สึกเสียใจเล็กน้อยมองเมื่อดูต้นกล้าเขียวชอุ่มที่เจ้าไก่ป่าเพิ่งเขี่ยออกมา ดูเหมือนจะมีผลของมันติดอยู่ ซึ่งมันเป็นผลไม้สีแดงสดชนิดหนึ่ง
กู้หนิงอันพบเป็นคนแรก จึงรู้สึกแปลกใจ “เอ๋? มันคืออะไรขอรับ?”
กู้เสี่ยวหวานจ้องมองผลไม้สีแดง อาการหดหู่ใจพลันหายไป รุดหน้าขึ้นสามก้าว ลูบผลไม้สีแดงสดและใบสีเขียวอย่างตื่นเต้น ตื่นเต้นจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
นี่มันคือย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย![1]
กู้หนิงอันมองไปท่าทางตื่นเต้นของพี่สาวตน จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ท่านพี่รู้จักมันหรือ?”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ใช่เพียงแค่รู้ แต่ว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดีเชียวล่ะ
นี่คือโสม โสมชั้นยอดแห่งยุคปัจจุบัน หนึ่งต้นสามารถขายได้หลายหมื่นหยวน!
“นี่คือโสมที่ท่านป้าจางพูดถึง!” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยอย่างดีใจ
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตร มีเพื่อนร่วมงานที่เชี่ยวชาญเรื่องการปลูกโสม อ้างอิงตามที่พวกเขากล่าวว่า โสมที่ถูกคนเพาะเลี้ยงเรียกว่า ‘โสมสวน’ โสมตามป่าเรียกว่า ‘โสมภูเขา’ ส่วนที่เติบโตตามธรรมชาติในป่าเรียกว่า ‘โสมป่า’ และกู้เสี่ยวหวานพบว่าโสมอันนี้คือโสมป่า!
“จริงหรือ?” กู้หนิงอันตื่นเต้น ปรากฏว่านี่คือสิ่งที่พวกเขากล่าวว่าโรงหมอรับซื้อในราคาสูง และพวกเขาก็พบมันแล้วในวันนี้
“ท่านพี่ โรงหมอในเมืองจะซื้อโสมนี่จริง ๆ ใช่ไหมขอรับ?” กู้หนิงอันครุ่นคิดแต่ยังไม่วางใจ สิ่งนี้เหมือนกับผักป่าในป่า นอกจากผลสีแดงด้านบนแล้ว กลับดูธรรมดาสามัญ หากถูกปกคลุมด้วยหญ้ารกเรื้อก็ยากที่จะถูกคนพบเจอ แล้วของแบบนี้จะขายได้ราคาสูงได้จริงหรือ?
“แน่นอน!” กู้เสี่ยวหวานตอบพลางหยิบเคียวออกมาจากตะกร้า ถอนวัชพืชรอบ ๆ และลงมือขุดอย่างระมัดระวัง
กู้เสี่ยวหวานขุดอย่างระมัดระวัง ขุดได้สักพักก็ขุดโสมออกมาได้โดยไม่ทำลายรากแม้แต่น้อย โสมนี้เป็นโสมที่ดีที่สุด แวบแรกที่ขุดขึ้นมามันก็มีรูปร่างเหมือนคน!
กู้เสี่ยวหวานระงับความตื่นเต้นในใจ ตอนนี้นางตกอยู่ในอาการดีใจจนเนื้อเต้น โสมเก่าหัวนี้มีอายุอย่างน้อยหลายร้อยปี สถานที่แห่งนี้คือภูเขาลึกที่ชาวบ้านเรียกกัน นอกจากนี้คาดว่ายังถูกเจ้าไก่ป่าหลอกหลอน ทำให้ทุกคนล้วนไม่กล้าเข้ามา รอบด้านยังปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่น เต็มไปด้วยมูลจากไก่ป่า โสมป่ารากนี้ถึงเติบโตได้ยาวนาน
“ท่านพี่ โสมนี้มันขายได้จริงหรือขอรับ?” กู้หนิงอันยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
กู้เสี่ยวหวานหยิบผ้าผืนหนึ่งออกมา วางโสมลงตะกร้าอย่างระมัดระวังและตอบว่า “แน่นอน โสมคือราชาของสมุนไพรทั้งหมด ‘คัมภีร์เสินหนงเปิ๋นเฉ่าจิง’[2] กล่าวว่าโสมมีสรรพคุณซ่อมแซมอวัยวะภายในทั้งห้า ทำให้จิตใจสงบ อารมณ์ไม่อ่อนไหว ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตใจแจ่มชื่น หากใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้อายุยืน!”
กู้หนิงอันตกตะลึงเมื่อได้ฟัง โสมนี้มีสรรพคุณมากขนาดนี้เลยหรือ?
“ท่านรู้เยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?” กู้หนิงอันโพล่งถาม
กู้เสี่ยวหวานตกตะลึง ลอบสบถคำหยาบในใจ โธ่ นี่มันกี่รอบแล้วนะที่นางเผยไต๋ออกมาตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่
“โอ้ ท่านพ่อเคยบอกเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้! ตอนนั้นเจ้ายังเด็กเลยยังไม่รู้เรื่อง!” กู้เสี่ยวหวานอ้างไปเรื่อย กู้หนิงอันส่งเสียงร้องอ่อหนึ่งเสียง และเชื่ออย่างสนิทใจ
ครั้นเห็นกู้หนิงอันเชื่อแล้ว นางจึงลอบถอนหายใจเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าถ้าพบเจอปัญหาที่ยากจะอธิบายก็ให้บอกเช่นนี้ ตอนนี้พวกเขายังเด็ก คงยังจำอะไรไม่ได้
กู้เสี่ยวหวานมองไก่ป่าและโสมในตะกร้าอย่างมีความสุข ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ดังนั้นนางจึงวางแผนสำรวจรอบ ๆ อีกครั้ง
แต่น่าเสียดาย หลังจากพวกเขาทั้งสองค้นหาอยู่ราวหนึ่งเค่อก็ไม่พบโสมเลยแม้แต่รากเดียว กู้เสี่ยวหวานจึงเข้าใจได้อย่างดีว่าท้ายที่สุดแล้วโสมนี้ไม่อาจเทียบได้กับวัชพืชที่เติบโตอย่างไม่ตั้งใจที่เติบโตเต็มพื้นที่
มันเป็นของหายาก!
การเข้าภูเขามาครั้งนี้กู้เสี่ยวหวานพบโสมเก่าซึ่งมีอายุหลายร้อยปีที่มีรูปร่างคล้ายคน แถมยังจับไก่ป่าได้หนึ่งตัว นับได้ว่าประสบความสำเร็จแล้ว
กู้เสี่ยวหวานเงยหน้ามองท้องฟ้า เวลานี้ยังเช้าอยู่ นางจึงมองไปรอบ ๆ ทุกแห่งหนล้วนมีแต่ต้นไม้ และยังเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ
กู้เสี่ยวหวานวางแผนจะเข้าไปให้ลึกกว่านี้อีกสักหน่อย นางไม่กล้าไปทางอ้อม จึงเดินตรงไปข้างหน้าแทน เมื่อผ่านสองระยะห่างสองช่วงต้นไม้จึงใช้เคียวบากทำสัญลักษณ์สะดุดตาบนต้นไม้
กู้เสี่ยวหวานเข้ามานานขนาดนี้ก็ยังไม่เจอสัตว์ป่าอย่างที่ชาวบ้านเล่าลือ เหตุใดถึงไม่มีชาวบ้านในหมู่บ้านเข้ามาแล้วออกไปได้เล่า นางจึงเดาว่าเป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้หนาแน่น จนทำให้ผู้คนที่เข้ามาหลงทางและออกไปไม่ได้
นางกังวลกับผลลัพธ์นี้ ดังนั้นจึงทิ้งสัญลักษณ์ไว้ หากเดินต่อไปแล้วยังไม่เจอสิ่งใด นางก็จะตัดสินใจกลับไปตามเส้นทางที่ทำสัญลักษณ์เอาไว้
หลังจากเดินต่ออีกครึ่งชั่วยาม จู่ ๆ กู้เสี่ยวหวานก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลแผ่วเบา
กู้เสี่ยวหวานพากู้หนิงอันเดินอ้อมต้นไม้ใหญ่ สายตาพลันเป็นประกายยามเห็นสายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงราวสิบกว่าหมี่[3] ตกกระทบพื้นผิวทะเลสาบเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่พร้อมไอน้ำกระจายฟุ้ง
สระน้ำนี้มีขนาดใหญ่ ภายใต้แสงแดดสาดส่อง ผิวน้ำก็เปล่งประกายระยิบระยับ
“ว้าว…” กู้หนิงอันไม่เคยเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้มาก่อน ดวงตาพลันเบิกกว้าง
“นี่คือน้ำตก!” กู้เสี่ยวหวานรู้ว่ากู้หนิงอันต้องไม่เคยเห็นมาก่อน จึงพูดให้ฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์ หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “เมื่อก่อนท่านพ่อเล่านิทานให้ข้าฟัง ท่านพ่อบอกว่ามีน้ำชนิดหนึ่งไหลลงมาจากภูเขาสูงหลายร้อยหมี่[3] จึงเรียกว่าน้ำตก”
สายน้ำตกลงสู่แอ่งน้ำลึกจนเกิดเสียงดังสนั่น หยาดน้ำตกกระทบจนเกิดคลื่นหมอก ช่างเป็นฉากที่สวยงามนัก กู้หนิงอันที่เกิดจนโตขนาดนี้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ดวงตาจึงเบิกกว้างไม่กะพริบ
นี่คือสวรรค์จริงๆ! กู้เสี่ยวหวานรู้สึกทึ่งกับผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติ
น้ำที่นี่ไหลไปตามสายน้ำ บางทีลำธารในหมู่บ้านอาจจะมีต้นสายมาจากที่นี่
ทันใดนั้นดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเป็นประกาย มีน้ำก็ต้องมีปลา!
สระน้ำลึกมีปลาหลากหลายอาศัยอยู่ ซึ่งปลาเหล่านี้ค่อนข้างตัวใหญ่ และมีรสชาติสดใหม่
………………………………………………………………………………………………………………………..
[1] 踏破铁鞋无觅处,得来全不费工夫 tàpò tiě xié wú mì chù, dé lái quán bù fèi gōngfū ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย หมายถึง พยายามหาแทบตายดันไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจกลับได้มาง่าย ๆ อย่างคาดไม่ถึง
[2] 《神农本草经》ตำราเสินหนงเปิ๋นเฉ่าจิง เป็นตำราภาษาจีนเกี่ยวกับการเกษตรและพืชสมุนไพรซึ่งเชื่อกันว่าสืบทอดมาจากเฉินหนง ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราว 2,800 ปีก่อนคริสตกาล นักวิจัยเชื่อว่าข้อความเหล่านี้เป็นการรวบรวมประเพณีที่ถ่ายทอดด้วยปากเปล่า ซึ่งเขียนขึ้นระหว่างประมาณ ค.ศ. 200 ถึง 250 ต้นฉบับดั้งเดิมไม่ปรากฏอยู่แล้ว ประกอบด้วยสามเล่มที่มี 365 รายการซึ่งเกี่ยวกับเครื่องยารวมทั้งคำอธิบาย กล่าวได้ว่าเป็นตำรายาที่เก่าแก่ที่สุดของจีน
[3] 米 หมี่ เป็นหน่วยวัด เท่ากับเมตร
สารจากผู้แปล
ว้าว เจอของดีในป่าหลายอย่างเลยเสี่ยวหวาน หลังจากนี้จะเจอของดีอะไรอีกไหมนะ
ไหหม่า(海馬)