ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 42 ขายโสมคน
บทที่ 42 ขายโสมคน
บทที่ 42 ขายโสมคน
ท่านหมอพานลูบเคราไปมา เอ่ยขึ้นเคล้ารอยยิ้ม “ไม่เป็นไร เข้ามาคุยกันเถอะ”
หลังจากพูดจบก็แหวกม่านเดินเข้าไปข้างใน กู้เสี่ยวหวานและกู้หนิงผิงตามหลังท่านหมอพานเข้าไปข้างในอย่างเชื่องช้า เบื้องหลังผ้าม่านเป็นทางทะลุถึงกันเส้นหนึ่ง ทั้งสองด้านคือห้องแต่ละห้อง ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้น่าจะเป็นสถานที่ที่ท่านหมอเอาไว้รักษาคนไข้
และเมื่อเดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็เลี้ยวโค้งไปอีกทางหนึ่ง มีประตูบานหนึ่งอยู่ตรงหน้า ท่านหมอพานเปิดประตูออกมา หลังจากนั้นก็ยืนอยู่ด้านข้างทำมือเชิญกู้เสี่ยวหวานและกู้หนิงผิงให้เข้าไป
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้เห็น ก็รู้สึกว่าท่านหมอพานคนนี้แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่กลับไม่อาศัยความอาวุโสนี้ทำตัวข่มผู้น้อย ช่างน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่เร่งรีบเข้าไป แต่ค้อมกายด้วยท่าทางสุภาพ กู้เสี่ยวหวานจึงเอ่ยขึ้นมา “ท่านหมอพาน เชิญท่านก่อน!”
ท่านหมอพานเห็นกู้เสี่ยวหวานที่อายุน้อยแต่รู้จักมารยาทเช่นนี้ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และไม่เกรงใจกับกู้เสี่ยวหวานอีก พร้อมกับสาวเท้าเดินเข้าไปในห้อง
กู้เสี่ยวหวานเดินตามหลังท่านหมอพานเข้าไป เมื่อเข้าไปในห้องก็รู้สึกว่าภายในนั้นอบอุ่นกว่าด้านนอกอยู่มาก ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่ถ่านไฟภายในห้องถูกจุดขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะลอบพองแก้ม
หอการแพทย์แห่งนี้มีเงินมากจริง ๆ ดูเหมือนว่าโสมคนรากนี้น่าจะสามารถขายได้ราคาสูง
หลังจากที่เข้ามาแล้ว ท่านหมอพานก็ไม่ได้เริ่มพูดเรื่องโสมของกู้เสี่ยวหวานขึ้นมาในทันที ชาติปางก่อนกู้เสี่ยวหวานก็ถือว่ามีชีวิตมาเนิ่นนาน ไม่เคยเห็นหมูวิ่ง แต่ก็เคยกินเนื้อหมู เมื่อเห็นท่านหมอพานดื่มน้ำชาอย่างไม่รีบร้อน และไม่เห็นวี่แววที่จะเริ่มพูดก่อนเลยสักนิด นางจึงถือโอกาสสงบจิตสงบใจลง และชื่นชมสิ่งของที่จัดรายเรียงไว้ภายในห้องอย่างถี่ถ้วน
ห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่ดีที่สุดที่กู้เสี่ยวหวานได้เห็นหลังจากเดินทางทะลุมิติมายุคโบราณ!
บนผนังแขวนภาพที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยปลายพู่กัน ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญท่านใด และไม่รู้ว่าราชวงศ์ชิงของโลกนี้อยู่ระดับเดียวกันกับรัชสมัยใด กู้เสี่ยวหวานไม่เข้าใจมากจริง ๆ เพียงแต่เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว ต่อจากนี้ไปก็จะมีทางหนีทีไล่ในการพยายามและเลียนแบบมากพอแล้ว
โต๊ะและเก้าอี้ที่วางอยู่เหมือนกับว่ามันทำมาจากไม้แดงอย่างละครย้อนยุคในโทรทัศน์ก็ไม่ปาน งดงามและแปลกตาด้วยรูปแบบโบราณ บนเก้าอี้ยังปูด้วยเบาะรองพื้น บนโต๊ะวางกาน้ำชาและถ้วยน้ำชาไว้อย่างประณีต
ครั้งแรกที่เห็นถ้วยน้ำชาสองถ้วยที่วางไว้ นอกจากถ้วยที่ท่านหมอพานดื่มแล้ว ยังมีอีกถ้วยหนึ่ง ฝาถ้วยจงใจคลุมอยู่บนถ้วยน้ำชาเล็กน้อย และยังมีไอความร้อนแพร่กระจายออกมา ราวกับว่าไม่นานก่อนหน้านี้มีคนเคยนั่งอยู่ด้วยกันกับท่านหมอพาน เกรงว่าจะเป็นเพราะท่านหมอพานออกไป แขกท่านนั้นถึงได้จากไป
กู้เสี่ยวหวานกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างเงียบเชียบ
จนกระทั่งท่านหมอพานเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังไม่เริ่มพูดออกมา เดิมทีเขาหมายจะให้สาวน้อยคนนี้เริ่มพูดก่อน เมื่อถึงตอนนั้นตัวเองก็จะกดราคาให้ลดต่ำลงได้ แต่กลับไม่คิดเลยว่าสาวน้อยอายุน้อยคนนี้จะมีความอดทนไม่น้อย! และอดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าสาวน้อยที่มีอายุราวกับเจ็ดแปดปีที่อยู่ตรงหน้าไม่ง่ายเลยที่จะหลอกลวง
แล้วท่านหมอพานก็เป็นฝ่ายเข้าประเด็น “พวกเจ้ามีสมุนไพรล้ำค่าอะไรที่อยากจะนำมาขายหรือ?”
กู้เสี่ยวหวานแสดงความเคารพและพูดขึ้นมา “ท่านคือเจ้าของโรงหมอแห่งนี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ? ท่านสามารถตัดสินใจได้หรือไม่? พูดตามตรงแล้วสมุนไพรที่พวกข้านำมาด้วยครั้งนี้นั้นล้ำค่ามาก เดิมทีถ้าหากนำไปขายในเมืองอื่นหรือไปในสถานที่ที่เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่แล้วก็น่าจะขายได้ราคาไม่น้อยเลย แต่ว่าเป็นเพราะน้องชายและน้องสาวของข้าอายุค่อนข้างน้อย ไม่สะดวกที่จะออกจากบ้าน อีกทั้งข้ายังได้ยินมาว่าโรงหมอหุยซุนกำลังรับซื้อในราคาที่สูง ดังนั้นพวกข้าถึงได้มาที่ร้านล้ำค่าแห่งนี้ คิดว่าจะสามารถช่วยสนองความต้องการของโรงหมอได้ และยังสะดวกต่อน้องสาวและน้องชายของพวกข้าด้วย”
“ข้าเป็นเจ้าของและเป็นหมอของที่นี่ ไม่รู้ว่าจะให้ข้าเรียกพวกเจ้าทั้งสองว่าอย่างไร” ท่านหมอพานถามขึ้นมา
กู้เสี่ยวหวานพูดขึ้นมา “ข้าแซ่กู้ เป็นพี่ใหญ่ของบ้าน และคนนี้คือน้องชายคนที่สามของข้าเจ้าค่ะ”
ท่านหมอพานพึงพอใจพลางพยักหน้า แม่สาวน้อยคนนี้พูดจาละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก แค่พูดสองประโยคออกมาก็ได้รับผลที่ดีจากร้านของพวกเขา และแสดงให้เห็นว่าของที่พวกเขานำมาในครั้งนี้นั้นล้ำค่าเป็นอย่างมาก
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสนใจต่อสมุนไพรที่ถูกเรียกว่า ‘ล้ำค่า’ นั้น ปลายปีที่แล้ว ครอบครัวที่มีตำแหน่งสูงและมีอำนาจทุก ๆ ครอบครัวจะมาซื้อสมุนไพรล้ำค่าอย่างโจ่งแจ้ง แต่ช่วงนี้สุมนไพรล้ำค่านี้ขาดแคลนมาก
โดยเฉพาะในเมืองหลวง ท่ามกลางผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ที่ยุ่งวุ่นวายกับการเข้าสังคม ก็หาโสมคนล้ำค่า เห็ดหลินจือ เขากวาง อุ้งเท้าหมี และอื่น ๆ ได้ไม่มากนัก
ครั้งนี้เบื้องบนบอกไว้อย่างชัดเจน ว่าต้องรวบรวมโสมคนกับเห็ดหลินจือเหล่านี้
ซึ่งตอนนี้มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่ไม่ได้ส่งออกไป เบื้องบนก็ให้เวลาอย่างจำกัด ไม่ว่าราคาจะสูงมากเท่าไรก็ตาม ก็ไม่มีชาวไร่ชาวนานำมาขายเลย
ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างกดดัน ก็มีคนเดินเข้ามาพอดี
ไม่ว่าอย่างไรท่านหมอพานก็จะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป แม้ว่าตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าสมุนไพรล้ำค่าที่แม่สาวน้อยคนนี้บอกมาคืออะไร แต่ว่าเขาจะไม่พลาดโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอน
และด้วยเหตุนี้เขาจึงพูดขึ้นมา “แม่นางน้อยกู้ ไม่ว่าสมุนไพรล้ำค่าที่พวกเจ้านำมาคืออะไร ต่อให้เป็นตับมังกรบินที่อยู่บนฟ้าหรือน้ำดีหงส์ที่อยู่เหนือผืนดิน ข้าก็จะรับไว้” หลังจากรับปากเช่นนี้แล้ว ท่านหมอพานถึงได้ถามขึ้นมา “แม่นางน้อยกู้ ตอนนี้ให้ข้าได้ดูสมุนไพรที่เจ้าบอกได้หรือไม่?”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า และปลดกระบุงสะพายหลังออกมาจากด้านหลัง หยิบโสมคนที่ห่อด้วยผ้าไม่กี่ชั้นออกมาจากข้างใน สองมือยื่นให้ท่านหมอพานดู
“นี่คือ…”
โสมคนนั้นมีรูปร่างเป็นรูปคน รากฝอยยังอยู่ดีทั้งหมด พูดได้ว่าเป็นของเลอค่า
หลังจากที่ท่านหมอพานมองโสมคนนั้นอย่างใกล้ชิด ดวงตาก็เปล่งประกายออกมา เขาลุกขึ้นพรวดและเดินไปตรงหน้ากู้เสี่ยวหวาน สายตาก็จ้องมองโสมคนนั้น และมีท่าทางไม่อยากจะเชื่อออกมาเล็กน้อย
“ข้าเกรงว่าโสมคนนี้จะมีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว?!” ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงโสมคนที่มีอายุพันปีแล้ว แม้แต่โสมคนอายุร้อยปีก็หาได้ยากยิ่ง ในที่สุดครั้งนี้ก็มีคนนำโสมคนหลายร้อยปีมาขายให้กับศูนย์การแพทย์ของพวกเขา
ท่านหมอพานระงับความตื่นเต้นเอาไว้ภายในใจ โสมคนนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอสินค้าคุณภาพดีได้อย่างง่ายดายขนาดนี้!
แม้ว่าท่านหมอพานจะปกปิดอาการได้ดี แต่กู้เสี่ยวหวานก็ไม่พลาดความตื่นเต้นดีใจที่แสดงออกมาชั่วพริบตาหนึ่งภายในดวงตาของท่านหมอพาน และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าการมาในครั้งนี้จะมาถูกที่แล้ว
เมื่อท่านหมอพานได้เห็นครั้งแรกก็รู้ราคาของสิ่งนี้แล้ว ลูกจ้างคนนั้นตัดสินไม่ได้อย่างแน่นอน มิน่าเล่า แม่สาวน้อยคนนี้ถึงได้ต้องการเรียกคนที่ควบคุมดูแลงานนี้มา แม้นางจะอายุยังน้อย แต่ก็มีความคิดเฉียบแหลมและละเอียดถี่ถ้วน จึงอดไม่ได้ที่จะมองกู้เสี่ยวหวานใหม่
แม้จะสวมชุดไม่ค่อยน่ามองเท่าไรนัก ทั่วทั้งร่างเรียกได้ว่าขาดรุ่งริ่ง แต่ในเรื่องน้ำใจและจิตใจนั้นยอดเยี่ยมและโดดเด่นกว่าใคร ดวงตาคู่นั้นช่างสว่างไสวเป็นประกายเหลือเกิน
“ไม่เลวเลย โสมคนต้นนี้เกรงว่าจะมีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว” ท่านหมอพานพูดตามความจริง เขาไม่ได้เห็นโสมคนที่มีอายุยืนยาวขนาดนี้มานานแล้ว “แม่สาวน้อย เจ้าอยากจะได้เงินเท่าไร?”
…………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
มาขายถูกที่แล้วค่ะ อยากได้เท่าไหร่เสนอออกไปเลยค่ะไม่ต้องเขียม
ไหหม่า(海馬)