ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 437 ไล่กู้ซินเถา
บทที่ 437 ไล่กู้ซินเถา
บทที่ 437 ไล่กู้ซินเถา
ฉินเย่จือกำหมัดแน่น การที่เขาไม่ทำร้ายผู้หญิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ไล่นางออกไป
ฉินเย่จือไม่ได้มองกู้ซินเถาเลยแม้แต่น้อย เขาเดินวนรอบกู้ซินเถา และก่อนจากไป เขาทิ้งประโยคที่เย็นชาไว้ “หนิงผิงไล่ออกไป!”
“ตกลง!” กู้หนิงผิงตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิด เมื่อมองไปที่กู้ซินเถา รอยยิ้มเมื่อครู่ก็หายไปในทันที “จะไปหรือไม่ไป ถ้าไม่ไปก็อย่ามาโทษข้าที่ต้องไล่”
เมื่อเห็นว่าฉินเย่จือจากไปโดยไม่หันกลับมา กู้ซินเถาก็รู้สึกเป็นกังวลและต้องการเดินตามเขาไปทันที หากแต่กู้หนิงผิงมาขวางทางกู้ซินเถาเอาไว้
ใบหน้าของกู้ซินเถามืดลงในทันที และเสียงของนางก็เปลี่ยนไป “กู้หนิงผิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้านะ!”
“เป็นลูกพี่ลูกน้องแล้วอย่างไร ที่นี่คือบ้านของข้า เมื่อเจ้ามาที่บ้านของข้า เจ้าก็ควรต้องถามว่าเต็มเราใจหรือไม่!”
“พี่สาวของเจ้าให้ข้าเข้าไป!” กู้ซินเถากล่าวอย่างชั่วร้าย ดวงตาของนางพยายามจับจ้องไปทางที่ฉินเย่จือเดินไป แต่ในครัวเล็ก ๆ นางกลับมองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด
นางได้ยินแต่เสียงของกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือจากข้างใน ทั้งสองคนกำลังพูดคุยและส่งหัวเราะคิกคัก เมื่อครู่ฉินเย่จือยังคงเย็นชาอยู่เลย แต่ในขณะนี้เขากลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
“แต่ตอนนี้ต้องถามข้าแล้ว” กู้หนิงผิงกล่าวอย่างดุดัน “รีบไปเร็ว อย่าบังคับให้ข้าผลักเจ้าออกไป”
กู้ซินเถามองไปที่กู้หนิงผิง และรู้ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่น
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู้หนิงผิงในช่วงนี้ เขาแข็งแรงพอ ๆ กับลูกวัว กู้ซินเถาจึงรู้สึกกลัวเล็กน้อย นางถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่เต็มใจ
กู้หนิงผิงรีบก้าวไปข้างหน้าทันที ในขณะที่กู้ซินเถาถูกบังคับให้ก้าวถอยหลังไปครั้งแล้วครั้งเล่า และในไม่ช้านางก็อยู่นอกลาน เมื่อเห็นนางออกไป กู้หนิงผิงก็กระแทกประตูลานบ้านปิดอย่างไร้ความปรานี และเกือบจะกระแทกโดนกู้ซินเถา
กู้ซินเถาถอยหลังสองก้าวด้วยความกลัวและกรีดร้อง “กู้หนิงผิง เจ้าอยากตายหรือ!”
ด้วยท่าทางที่ดุร้ายเช่นนี้ ไม่เหมือนท่าทางเมื่อครู่ที่ดูนุ่มนวลเลยสักนิด
เมื่อเห็นใบหน้าโกรธเคืองของกู้ซินเถา กู้หนิงผิงก็ทำหน้าพึงพอใจ แล้วจูงมือกู้เสี่ยวอี้ไปที่ห้องครัวอย่างอารมณ์ดี
ทันใดนั้น ก็เหลือเพียงกู้ซินเถาอยู่เพียงลำพังในลานบ้าน
ไม่ใช่สิ เหลือเพียงลานบ้านที่มีกู้ซินเถาอยู่ภายนอก
ใบหน้าของกู้ซินเถาซีดเผือดด้วยความโกรธ นางกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาของนางคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ นางกัดฟันและพ่นลมหายใจ กู้เสี่ยวหวานรอข้าก่อนเถอะ
จากนั้นนางก็ออกจากบ้านของกู้เสี่ยวหวานไปอย่างโกรธจัด ใบหน้าของนางซีดไปตลอดทาง
กลับมาที่บ้าน เฉาซื่อกำลังทานอาหารเย็นกับกู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสี เมื่อเห็นเฉาซื่อและคนอื่น ๆ ทานอาหารกันอย่างมีความสุข แต่พวกเขากลับไม่รอให้นางกลับทานอาหารเย็นด้วย เมื่อมองดูถ้วยและจานที่เลอะเทอะบนโต๊ะ อาหารดี ๆ บางจานแทบจะไม่เหลือ กู้ซินเถาก็กรีดร้องด้วยความไม่พอใจ “ท่านอาสาม ท่านแม่ของข้าให้เงินท่าน แต่ท่านกลับไม่รอข้า หรือท่านอยากจะให้ข้ากินของเหลืออย่างนั้นหรือ?”
กู้ซินเถามองไปที่เฉาซื่อด้วยท่าทางไม่พอใจ
วันนี้เฉาซื่อได้เงินมาสามตำลึงเงินจากซุนซื่อ นางรีบไปตลาดเพื่อซื้อเนื้อแล้วกลับมาทำหมูผัดซอสแดงทานกับลูกสองคนอย่างมีความสุขก่อนที่กู้ซินเถาจะกลับมา
เฉาซื่อและเด็กทั้งสองทานกันเต็มปากเต็มคำ เมื่อเฉาซื่อเห็นว่ากู้ซินเถาโกรธ นางไม่สนใจที่จะเช็ดปากและยืนขึ้นจับมือกู้ซินเถาด้วยปากที่มันเยิ้ม กู้ซินเถากลัวว่ามือที่มันเยิ้มของนางจะทำให้ชุดของตนเปื้อน ดังนั้นนางจึงรีบถอยหลังสองก้าวและมองไปที่เฉาซื่อด้วยความรังเกียจ
กู้ถิงถิงเงยหน้าขึ้น เห็นรูปลักษณ์ของกู้ซินเถาและกล่าวอย่างอิจฉา “ว้าว พี่ซินเถา พี่สวยมาก!”
เมื่อกู้ซินเถาได้ยินกู้ถิงถิงชมเชยตน นางจึงพ่นลมหายใจอย่างภาคภูมิใจ นั่งลงและไม่ได้เอาเรื่องเฉาซื่อที่ไม่รอนางกลับมาทานอาหารเย็นด้วย
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถากลับมาช้ามาก เฉาซื่อก็มีสีหน้ามืดมนอีกครั้งและเอ่ยถามว่า “ซินเถา เจ้าไปที่ไหนมา? ทำไมถึงดูไม่มีความสุขนัก!”
เฉาซื่อไม่ได้เป็นห่วงกู้ซินเถาจริง ๆ แต่รู้สึกว่าเมื่อคนอื่นไม่มีความสุข ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ทำให้นางมีความสุข
ในตอนแรกกู้ซินเถาไม่ต้องการพูดอะไร แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เฉาซื่อก็อยู่ในหมู่บ้านอู๋ซีมาเป็นเวลานาน และนางต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับคนผู้นั้น ดังนั้นนางจึงเอ่ยถามเฉาซื่อ
เมื่อเฉาซื่อได้ยินว่ากู้ซินเถากำลังพูดถึงฉินเย่จือ นางก็ยิ้มอย่างมีความหมายไปที่กู้ซินเถา “โอ้ เจ้าถามถึงเขานี่เอง!”
ความหมายไม่ชัดเจน กู้ซินเถาเห็นรอยยิ้มของเฉาซื่อเช่นนั้นก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ท่านอารู้อะไรก็บอกข้าเถอะ!”
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถากระวนกระวายเล็กน้อย เฉาซื่อก็รู้สึกพึงพอใจมาก และกล่าวอย่างข้องใจ “ไม่ใช่ว่าข้าพูดไม่ได้ แต่ว่าเจ้าก็รู้ดีว่าช่วงนี้อาสามของเจ้าไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน และครอบครัวก็ไม่มีแม้แต่เงินจะกินข้าว เจ้าดูสิ…”
ทันทีที่กู้ซินเถาได้ยินว่าเฉากำลังรีดไถตน นางก็ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจทันที “ท่านหมายความว่าอย่างไร? เช้านี้แม่ของข้าไม่ได้ให้เงินสามตำลึงเงินไปแล้วหรือ!”
“เงินสามตำลึงเงิน มันเป็นเงินสำหรับเจ้าเพื่อกินและดื่ม!” เฉาซื่อแสร้งทำเป็นคับข้องใจและกล่าวว่า “เจ้าไม่ได้อยากรู้เรื่องของคนผู้นั้นหรือ ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างที่ข้ารู้ เพียงแค่เจ้าต้องให้ของบางอยางมาเป็นค่าเสียเวลา”
“เฉาซินเหลียน…” กู้ซินเถาโกรธมากเมื่อเห็นท่าทีโลภมากของเฉาซื่อ “ถ้าท่านไม่พูด คนในหมู่บ้านจะเป็นคนพูด!”
“เช่นนั้นก็ไปถามสิ!” เฉาซินเหลียนกล่าวอย่างดูถูก แล้วกล่าวประโยคหนึ่งซึ่งทำให้กู้ซินเถาสูญเสียความเย่อหยิ่งของนางในตอนนั้นไปทันที
“เจ้าเป็นผู้หญิงนะ หากไปถามเรื่องชายผู้นั้น เจ้าคิดว่าคนในหมู่บ้านจะคิดอย่างไรกับเจ้า! หึ…” เฉาซินเหลียนไม่อยากฟังเหตุผลของกู้ซินเถา ดังนั้นนางจึงเก็บจานและตะเกียบไป
กู้ซินเถารีบคว้าตัวเฉาซื่อเอาไว้ และกล่าวด้วยรอยยิ้มขอโทษ “ท่านอา อย่าเพิ่งโกรธเลย มานั่งก่อน ข้าจะให้!”
หลังจากกลล่าวจบ นางก็หยิบเงินเล็กน้อยออกมาจากผ้าคาดเอวแล้วยื่นให้เฉาซื่อ “ท่านอา ข้ามีเงินเหลืออยู่เพียงแค่นี้ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วใช่หรือไม่!”
“ถึงจะน้อยไปเสียหน่อย แต่เจ้าเป็นหลานสาวของข้า เท่านี้ก็เท่านี้!” เฉาซินเหลียนรู้สึกยินดีเพราะได้เปรียบคนอื่น นางรับเงินทั้งหมดมา
กู้ซินเถากัดฟันกรอดอย่างโกรธจัดและหวังว่านางจะรีบไปข้างหน้าและกัดเฉาซินเหลียนสักที