ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 456 ซื้อฉินเย่จือด้วยเงิน
บทที่ 456 ซื้อฉินเย่จือด้วยเงิน
บทที่ 456 ซื้อฉินเย่จือด้วยเงิน
แต่มาคราวนี้ หลังฟังจากคำพูดของกู้เสี่ยวหวานแล้ว นางก็เก็บสีหน้าไม่อยู่ แต่เมื่อคิดว่าวันนี้นางมาขอร้องกู้เสี่ยวหวาน นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากระงับความโกรธลงไปลึก ๆ ขณะกล่าวเสียงอ่อนโยนด้วยรอยยิ้มหวาน “เสี่ยวหวาน วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อมาหาเจ้า! เปิดประตูหน่อยสิ!”
กู้ซินเถาผู้นี้เป็นคนอย่างไรกัน? พวกนางยังไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดนี้!
กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างโกรธเคือง “พวกเราสองคนมีเรื่องอะไรให้คุยกันหรือ?”
หลังจากพูดแล้วนางก็โบกมืออย่างไม่อดทน “ไปซะ อย่ามาที่นี่อีก ข้าจะกวาดพื้น ถ้าข้าทำกระโปรงของเจ้าเปื้อนขึ้นมา อย่ามาตำหนิข้าก็แล้วกัน!”
ท่าทีของกู้เสี่ยวหวานชัดเจนยิ่ง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยการปฏิเสธและคัดค้าน
กู้ซินเถากัดฟันแล้วเขย่งปล่ายเท้า เมื่อเห็นว่าในลานนั้นไม่มีใบไม้แม้แต่ใบเดียว นางก็อดที่จะรู้สึกโกรธไม่ได้ แต่นางไม่กล้าที่จะโพล่งออกไป นางจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างเขินอายให้กับกู้เสี่ยวหวาน “รอก่อน รอก่อน ใช่! ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้าจริง ๆ!”
ในวันธรรมดา กู้ซินเถาคงด่าและสะบัดหน้าหนีไปแล้ว แต่เพื่อที่จะได้ฉินเย่จือมาครอบครอง นางทำได้เพียงแค่อดทน
เมื่อคิดว่าในอนาคตหลังนางได้ฉินเย่จือมา นางจะสามารถแสดงพลังต่อหน้ากู้เสี่ยวหวานได้ ถ้าในวันนี้นางนำตัวฉินเย่จือออกไปได้จริง ๆ นางไม่เชื่อว่าฉินเย่จือจะยังไม่แยแสกับนาง
เมื่อคิดถึงว่าในอนาคตฉินเย่จือจะยิ้มให้ตัวเองและทักทายนางอย่างอบอุ่น กู้ซินเถาก็รู้สึกภาคภูมิใจ
กู้ซินเถาไม่สนใจความรังเกียจในแววตาของกู้เสี่ยวหวาน เวลานี้รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็สดใสยิ่งขึ้น ก่อนนางจะหัวเราะออกมาเหมือนดอกไม้ และพูดเบา ๆ กับ กู้เสี่ยวหวานว่า “เสี่ยวหวาน ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกันขนาดนั้นเลย?”
หลังจากอยู่กับเจียงหย่วนเป็นเวลานาน กู้ซินเถาก็ได้รู้จักสำนวนบางส่วน เวลานี้ สถานการณ์เหมาะสมพอดี สำนวนเคร่งครัดใส่กันน่าจะดีที่สุด
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย กู้ซินเถาก็กล่าวต่อว่า “เสี่ยวหวาน พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และพวกเราก็มีสายเลือดเดียวกันครึ่งหนึ่ง! วันนี้ข้ามาหาเจ้าทั้งที ไม่ว่าอย่างไรก็น่าจะยอมให้ข้าเข้าไปสักหน่อย จริงไหม?”
พี่สาวน้องสาว? สายเลือดเดียวกันครึ่งหนึ่ง?
กู้เสี่ยวหวานมองทะลุแผนการของกู้ซินเถามานานแล้ว ไม่ใช่มาเพื่อฉินเย่จือหรอกหรือ? เกิดอันใดขึ้น? เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่วันนี้ในขณะที่ฉินเย่จือไม่อยู่?
ดวงตาของกู้ซินเถาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง ซึ่งนางไม่รู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายคิดเล่นลูกไม้ใดอยู่!
กู้เสี่ยวหวานเดินเข้าไปหากู้ซินเถาอย่างเกียจคร้าน นางกอดอกโดยไม่แสดงสีหน้า และมองไปที่กู้ซินเถาด้วยแววตาเย็นชา
กู้เสี่ยวอี้ที่ตื่นจากการงีบหลับก็ลุกขึ้นพลางขยี้ตาที่ง่วงงุน แล้วเดินออกมายืนอยู่ข้าง ๆ กู้เสี่ยวหวาน
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ขยับ กู้ซินเถาก็รู้ว่าครั้งนี้นางจะไม่เปิดประตูจึงตัดสินใจพูดตรงนี้เลย!
กู้ซินเถาควักถุงเงินจากตัวแล้วเทของข้างในออกมา
แท่งเงินสองแท่ง
กู้ซินเถาวางแท่งเงินลงในฝ่ามือ แล้วยื่นออกไปให้กู้เสี่ยวหวานพลางกล่าวว่า “เอ้า เสี่ยวหวาน นี่เป็นเงินยี่สิบตำลึง ข้าจะซื้อฉินเย่จือ”
เงินยี่สิบตำลึง? ต้องการใช้มันเพื่อซื้อฉินเย่จือ?
ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเย็นเยียบลง กู้ซินเถารู้หรือไม่ว่านางกำลังทำอะไรอยู่!
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้ขยับเขยื้อน สีหน้าของนางก็เย็นชายิ่งขึ้น โดยคิดว่ากู้เสี่ยวหวานคิดว่าเงินที่นางให้ไม่พอ นางจึงหยิบแท่งเงินออกจากแขนเสื้อของนางและพูดอย่างไม่พอใจว่า “นี่เป็นเงินสามสิบตำลึง น่าจะพอซื้อทาสได้สักสามคน เจ้าสามารถใช้เงินนี้ซื้อทาสด้วยตัวเองได้ ส่วนฉินเย่จือก็ขายให้ข้าซะ!”
“กู้ซินเถา เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” กู้เสี่ยวหวานระงับความโกรธในใจของนาง ขณะพูดลอดไรฟัน
“ข้าบอกว่าข้าต้องการซื้อฉินเย่จือ เพื่อที่ฉินเย่จือจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในครอบครัวที่ยากจนของเจ้า!” กู้ซินเถาพูดเสียงดังราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้
“ถ้าเจ้าต้องการซื้อแรงงานระยะยาวก็ไปที่ตลาดเอง อย่ามาหาข้า ที่นี่ข้าไม่มีให้!” กู้เสี่ยวหวานหันหลังกลับและกำลังจะเข้าบ้าน กู้ซินเถาผู้นี้ช่างไร้เหตุผลจริง ๆ
“กู้เสี่ยวหวาน อย่าไร้ยางอายนัก!” กู้ซินเถาเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานหันกลับไปก็เอ่ยเสียงดัง คิดจะเล่นตัวให้นางจ่ายเพิ่มรึ?
แค่คนงานระยะยาวเพียงคนเดียว กับเงินสามสิบตำลึงที่ซื้อทาสได้ถึงสามคน
ฉินเย่จือคนเดียวสามารถเทียบได้กับคนสามคนรึ? เงินแค่สามสิบตำลึงก็พอแล้ว
“…”
กู้เสี่ยวหวานตัวแข็งทื่อ แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความรังเกียจและโทสะ
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าเพียงให้ข้าวหนึ่งชามแก่เขา แต่ข้าใช้เงินสามสิบตำลึงเพื่อแลกตัวเขา! พี่ฉินปฏิเสธที่จะไปที่บ้านของข้า จะต้องเป็นเพราะมีสัญญาขายตัวอยู่ที่เจ้า ข้าจะเอาเงินสามสิบตำลึงแลกกับพี่ฉิน เจ้าเอาสัญญาขายตัวของพี่ชายฉินออกมาได้แล้ว” กู้ซินเถากล่าวอย่างตื่นเต้น
กู้ซินเถาคิดว่าฉินเย่จือปฏิเสธที่จะไปกับนาง มันต้องเป็นเพราะกู้เสี่ยวหวานใช้วิธีการบางอย่างในการควบคุมเขา ทำให้ฉินเย่จือไม่กล้าเคลื่อนไหว ตราบใดที่นางซื้อสัญญาของฉินเย่จือมา พี่ชายฉินก็จะเป็นอิสระและสามารถไปกับนางได้
“สัญญาขายตัว?” กู้เสี่ยวหวานขบฟัน ดวงตาดั่งเมล็ดซิ่งเบิกกว้างราวกับว่านางกำลังจะกลืนกู้ซินเถาทั้งเป็น
กู้ซินเถาคิดว่านางกำลังถือสัญญาขายตัวของฉินเย่จือไว้? เป็นไปได้หรือไม่ที่นางคิดว่าฉินเย่จือไม่สนใจนาง เพราะนางมีเครื่องมือควบคุมฉินเย่จืออยู่ในมือของนาง?
กู้ซินเถาผู้นี้ช่างจินตนาการเกินไปแล้ว!
ช่างเป็นแมลงสาบที่ไม่สามารถทุบตีให้ตายได้จริง ๆ ทั้งยังมีแต่ความคิดอะไรก็ไม่รู้
กู้ซินเถาไม่สนใจสายตากินคนของกู้เสี่ยวหวาน และพูดกับตัวเองว่า “กู้เสี่ยวหวาน พี่ฉินไม่ใช่คนธรรมดา เจ้าทำร้ายเขาแบบนี้ อย่าคิดว่าข้าวหนึ่งชามจะเก็บเขาไว้ได้ คนอย่างเขาไปที่ไหนย่อมไปได้ดี”
ในทุกประโยค ทุกถ้อยคำ ดูเหมือนว่ากู้ซินเถากำลังคิดเพื่อฉินเย่จือ ทุกคำต่างต่อว่ากู้เสี่ยวหวานที่กักขังชายหนุ่มรูปงามที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ไว้ที่บ้านเพื่อขุดหน่อไม้ ผ่าฟืน ตักน้ำ และทำเรื่องต่ำต้อยอย่างการทำนาเช่นนี้ให้นาง ซึ่งเป็นการกลบฝังผู้คนอย่างสมบูรณ์
กู้ซินเถาจริงจังราวกับว่าในวันนี้นางตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องได้รับสัญญาขายตัวของฉินเย่จือและพาตัวฉินเย่จือออกไปให้ได้
“เจ้าไปเอาความมั่นใจเช่นนี้มาจากไหน ถึงคิดว่าฉินเย่จือจะไปกับเจ้าแน่ ๆ น่ะ!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ
กู้ซินเถาช่างอวดดีเกินไปแล้ว!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โอ๊ย กู้ซินเถา เธอคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะยอมหรือยังไง ตื้อไม่เลิกจริง ๆ นะคะเนี่ย
ไหหม่า (海馬)