ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 477 กลับมาพร้อมชัยชนะ
บทที่ 477 กลับมาพร้อมชัยชนะ
บทที่ 477 กลับมาพร้อมชัยชนะ
กู้เสี่ยวหวานเพียงแค่หยอกล้อ แต่นางสัมผัสได้ว่าความอึดอัดในหัวใจของนางถูกกวาดออกไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานย่อมรู้ถึงความตั้งใจของฉินเย่จือที่อยากสนับสนุนนาง และไม่ต้องการให้นางเป็นกังวล หัวใจนางรู้สึกอบอุ่นและอดพยักหน้าไม่ได้
ฉินเย่จือทั้งประหลาดใจและยินดี ดวงตาของเขาสว่างไสวราวกับดวงดาว
ราวกับมองทะลุผ่านหัวใจของกู้เสี่ยวหวาน ดวงตาสีดำคู่นั้นมองดูแล้วมันช่างธรรมดา แต่ขณะเดียวกันก็นุ่มนวลเหมือนสายน้ำและเต็มไปด้วยความฉลาดเฉลียว
ทั้งสองมองหน้ากัน แต่กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ความรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อไม่กี่วันก่อนย้อนกลับอีกครั้ง แก้มของนางร้อนผ่าวราวกับไฟแผดเผา และนางเกรงว่ามันคงเปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานรีบก้มศีรษะลง ไม่กล้ามองฉินเย่จืออีก และพูดอย่างเขินอายว่า “ไปกัน ไปกันเถอะ ข้าเกรงว่าหนิงผิงกับเสี่ยวอี้จะเป็นห่วงพวกเราแล้ว!”
พูดจบ นางก็วิ่งหนีไปโดยไม่เหลียวหลัง
แต่ฉินเย่จือไม่พลาดความประหลาดใจในแววตาของกู้เสี่ยวหวานเมื่อครู่
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความคิดบางอย่าง
ฉินเย่จือคลี่ยิ้ม
จากนั้นเขาก็เดินตามหลังกู้เสี่ยวหวานไปอย่างใกล้ชิด และกลับมาถึงบ้านหลังจากนั้นไม่นาน
ก่อนถึงลานบ้านก็เห็นกู้หนิงผิงเดินไปมา
ทั้งยังได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของกู้เสี่ยวอี้ “ท่านพี่หยุดเดินไปรอบ ๆ เสียที ตาข้าลายหมดแล้ว”
กู้หนิงผิงปรบมือเข้าหากันและพูดอย่างกังวลว่า “ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านพี่และอาจารย์ของข้าถึงได้หายไปนานแล้วยังไม่กลับมาสักที!”
“อ๊ะ พี่ชายกับพี่สาวกลับมาแล้ว” กู้เสี่ยวอี้มองออกไปเห็นกู้เสี่ยวหวานกับฉินเย่จือกำลังมาจึงรีบตะโกนอย่างมีความสุข
กู้หนิงผิงหันไปมองและเห็นว่าพี่สาวของตนเองกับฉินเย่จือกลับมาแล้ว เขาจึงตะโกนอย่างมีความสุขและวิ่งไปเปิดประตูลาน “ท่านพี่ ท่านอาจารย์ พวกท่านกลับมาแล้ว”
กู้หนิงผิงถามอย่างกังวล “ท่านพี่ ทำไมหัวหน้าหมู่บ้านถึงขอให้ท่านไปที่บ้านเก่าของตระกูลกู้ล่ะ กู้ซินเถาได้ทำให้ท่านไปอับอายอีกหรือไม่? นางทำอะไรกับท่านหรือเปล่า?”
กู้เสี่ยวหวานยิ้มเมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายของกู้หนิงผิง ก่อนจะกล่าวว่า “เด็กโง่ จะเกิดอะไรขึ้นได้ อาจารย์ของเจ้าก็อยู่เคียงข้างข้า เฉาซื่อกับกู้ซินเถาจะเข้ามาใกล้ข้าได้อย่างไร!”
คำพูดนางล้วนมีเหตุผล ท่านอาจารย์รู้จักศิลปะการต่อสู้!
ถึงกู้ซินเถากับเฉาซื่อคิดจะทำอะไร อาจารย์ก็สามารถปกป้องพี่สาวของเขา แล้วนางจะถูกทำร้ายได้อย่างไร
คิดแล้วเขาก็อดยินดีไม่ได้ “ดีมาก ดีมาก มีท่านอาจารย์อยู่เคียงข้างท่านพี่ ข้าก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว”
กู้เสี่ยวหวานกลอกตามองเขาและพูดอย่างโกรธเคือง “โอ้ ใครพูดก่อนหน้านี้ว่าเขาต้องการปกป้องพี่สาวของเขา เกิดอะไรขึ้น เขาเปลี่ยนใจอีกแล้วหรือ?”
กู้หนิงผิงฟังพี่สาวของเขาล้อเลียนแล้วก็พลันมีสีหน้าเขินอาย เขาพูดอย่างเก้อเขิน “ท่านพี่ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แน่นอนว่าข้าต้องการปกป้องพี่สาวของข้า! ข้าแค่โล่งอกที่ท่านอาจารย์คอยอยู่เคียงข้างปกป้องท่าน! ท่านอาจไม่รู้ แต่ศิลปะการต่อสู้ของท่านอาจารย์ของข้าเก่งกาจยิ่ง!”
กู้หนิงผิงกล่าวอย่างลึกลับพลางมองไปที่ฉินเย่จือด้วยสีหน้าชื่นชม “ท่านพี่ คงจะดีหากข้าสามารถเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ได้ครึ่งหนึ่งของท่านอาจารย์”
ไม่ไกลนัก อาโม่ที่แอบปกป้องตระกูลกู้แทบตกจากต้นไม้อีกรอบ
เด็กคนนี้โลภเกินไปแล้ว
ถึงกับอยากเรียนศิลปะการต่อสู้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของนายน้อย
ถ้าอีกฝ่ายเรียนรู้ฝีมือของนายน้อยได้ครึ่งหนึ่ง เกรงว่าเขาจะมิอาจเอาชนะเจ้าเด็กคนนี้ได้งั้นหรือ? ไม่ดี ไม่ดี!
อาโม่บ่นในใจ วันหน้าเมื่อนายน้อยสอนเด็กคนนี้ให้ฝึก เขาจะต้องเรียนรู้สักหน่อย เขาจะปล่อยให้เด็กน้อยนี้มาเทียบตัวเองไม่ได้
เมื่อได้ยินว่ากู้หนิงผิงมีความทะเยอทะยานมาก ฉินเย่จือก็กล่าวด้วยความโล่งใจว่า “ตราบเท่าที่เจ้าเต็มใจที่จะทนต่อความยากลำบาก อาจารย์จะสอนเจ้าทุกอย่าง!”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินคำพูดของฉินเย่จือ กระแสน้ำอุ่นก็ไหลเข้ามาในหัวใจของนาง ความคิดของเขาที่ปฏิบัติต่อกู้เสี่ยวหวานและครอบครัวอย่างไม่มีเงื่อนไข ความเมตตาเช่นนี้กระทั่งผู้ที่อยู่ด้วยกันมานานกว่าสิบปีหรือมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ทำไม่ได้!
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก เมื่อเผชิญหน้ากับฉินเย่จือ ความรู้สึกในใจของนางเพิ่มพูนกว่าเมื่อก่อน “ขอบคุณเจ้าสำหรับเรื่องหนิงผิง ข้าต้องรบกวนเจ้าเรื่องนี้แล้ว อีกทั้งเรื่องของข้า…”
กู้เสี่ยวหวานนึกเขินอายเมื่อพูดถึงตัวเอง
ที่บ้านเก่าของตระกูลกู้ ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะฉินเย่จือลงมือ กู้ซินเถาที่เหมือนคนบ้าจะต้องลงมือแน่
ส่วนเฉาซื่อ ในตอนนั้นที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน เฉาซื่อก็เคยนั่งคร่อมและทุบตีนาง แต่คราวนี้ แม้เฉาซื่อจะได้รับความเดือดร้อนมากมาย แต่ก็ไม่กล้าทำร้ายนางเพราะหวาดกลัวฉินเย่จือ
กู้เสี่ยวหวานโล่งใจ และเต็มไปด้วยความยินดีที่นางตัดสินใจเก็บฉินเย่จือไว้ตั้งแต่แรก
เมื่อได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือก็ยิ้ม “ไม่เป็นอะไร ถึงเจ้าให้ข้าปีนภูเขาดาบหรือลุยทะเลเพลิง ข้าก็ยินดีจะทำเช่นกัน!”
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานได้ยินเช่นนี้นางก็กระตุกยิ้ม
กู้เสี่ยวอี้ได้ยินก็พลันถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านพี่ มีภูเขาที่สร้างจากดาบด้วยหรือ?”
เมื่อทุกคนได้ยินก็พากันหัวเราะลั่น และทั้งลานก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“ท่านพี่ ท่านอาจารย์ เข้าบ้านกันเถอะ! ข้าเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว ข้ากำลังรอให้ท่านกลับมาพร้อมชัยชนะและดื่มฉลอง!”
กู้เสี่ยวหวานกุมท้องของนางและพูดว่า “อย่าพูดอีกเลย หลังจากวุ่นอยู่นาน ตอนนี้ข้าหิวยิ่งนัก!”
“ตกลง ไปกินข้าวกันก่อน!” กู้หนิงผิงกล่าวแล้วก็เดินเข้าไปในห้องหลัก
กู้เสี่ยวหวานก็เดินเข้ามาเช่นกัน เมื่อนางอยู่ที่ประตูห้องหลัก กู้เสี่ยวหวานก็เจอปัญหา
ดูเหมือนว่าฉินเย่จือจะต่อสู้กับนาง ทั้งสองยืนอยู่ที่ประตู เจ้าเชิญข้า ข้าเชิญเจ้า แต่ไม่มีใครยอมใคร
“เจ้าไปก่อน!”
“ไม่ เจ้าไปก่อน!”
ทั้งสองตกลงกัน กู้เสี่ยวหวานยกเท้าขึ้นเพื่อเข้าไป ฉินเย่จือก็เพิ่งยกเท้าเข้าไปเช่นกัน แต่เข้าไปในประตูได้แค่ครึ่งตัว ทั้งสองก็พลันติด กู้เสี่ยวหวานทำอะไรไม่ถูกและทำได้เพียงถอยกลับ ฉินเย่จือเองก็ถอยกลับไปเช่นกัน
ทั้งสองยืนอยู่ข้างประตูข้างหนึ่ง เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า
“ท่านพี่ ท่านมายืนที่ประตูทำไมกัน?” กู้หนิงผิงวางภาชนะและตะเกียบบนโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นว่าพี่สาวและอาจารย์ของเขาไม่ได้เข้ามา เขาจึงรีบมองไปที่ประตู ก่อนเห็นพี่สาวของเขาจ้องมองไปที่ท่านอาจารย์ด้วยตากลมโต
ในทางกลับกัน อาจารย์มองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยท่าทางสบาย ๆ คิ้วและดวงตาของเขาโค้งลง