ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 485 ดูเหมือนจะใจเต้นจริง ๆ
บทที่ 485 ดูเหมือนจะใจเต้นจริง ๆ
บทที่ 485 ดูเหมือนจะใจเต้นจริง ๆ
จากนั้นไม่นาน สวีเฉิงเจ๋อก็วิ่งไปหาฮูหยินสวี เอ่ยถามกระวนกระวาย “ท่านแม่ พวกเสี่ยวหวานล่ะขอรับ?” สายตาสาดส่องไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนก
สายตาฮูหยินมองไปยังทิศทางที่พวกกู้เสี่ยวหวานจากไป “เฮ้อ ออกไปนานจนไม่เห็นเงาแล้ว เหตุใดไม่รู้จักกลับมาให้เร็วกว่านี้”
ครั้นสวีเฉิงเจ๋อได้ยินก็พลันรู้สึกหดหู่
ฮูหยินสวีมองท่าทางตื่นตะลึงของบุตรชาย หัวใจพลันกระวนกระวาย เอ่ยถามอย่างฉับไว “เฉิงเจ๋อ เจ้าเป็นอันใด?”
สวีเฉิงเจ๋อโบกมือพัลวันพลางเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว “เปล่าขอรับ เมื่อครู่เพียงแค่วิ่งเร็วไปหน่อย จึงเหนื่อยเล็กน้อยขอรับ!”
“เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ได้มีเรื่องอันใด แล้วจะรีบไปเพื่ออะไร!” สวีฮูหยินตำหนิ
หากแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “หิวแล้วใช่หรือไม่ ข้าสั่งให้ครัวเล็กเตรียมของอร่อยไว้แล้ว ไปกันเถิด!”
ฮูหยินสวีรู้ว่าลูกชายของตนเองให้ใจกับครอบครัวกู้เสี่ยวหวาน แต่เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดไปในทางนั้นมาก่อน
กระทั่งวันนี้มีความคิดอยากได้กู้เสี่ยวหวานมาเป็นสะใภ้ แต่เมื่อมองไปที่ฉินเย่จือก็เข้าใจอะไรบ้างอย่างได้ นางคงไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไรมาก
สวีเฉิงเจ๋อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง หากแต่สายตาของเขายังคงจ้องมองไปยังทิศทางที่กู้เสี่ยวหวานและคนอื่นจากไป
ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานจะยังออกไปได้ไม่ไกลเท่าไร
ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปที่ร้านผ้าจี๋เสียง พี่ฝูสรรเสริญกู้เสี่ยวอี้จนแทบจะตัวลอยขึ้นฟ้าให้กู้เสี่ยวหวานฟัง
พูดตามตรง เด็กคนนี้ปราดเปรื่อง ฉลาด มีฝีมือในการออกแบบ ความคิดเป็นเลิศ ปักสิ่งนี้ได้สวยงามและละเอียดอ่อน หากเรียนต่ออีกปีครึ่ง เกรงว่าจะเปิดร้านเองได้
กู้เสี่ยวหวานมีความสุขยิ่งนักเมื่อได้ยิน หากมันสามารถเป็นไปได้ เมื่อถึงเวลานั้น กู้เสี่ยวอี้มีใจรัก ไม่ว่าจะออกเรือนกับผู้ใด นางก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้ลมหายใจของสามี นั่นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก
พี่ฝูมอบหมายงานให้กู้เสี่ยวอี้เพิ่มเติมเล็กน้อย แล้วปล่อยให้พวกเขากลับบ้าน
ระหว่างทางกลับบ้าน กู้เสี่ยวอี้งีบหลับไปอีกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้าน พวกเขารู้สึกสบายและผ่อนคลายมาก เมื่อเห็นว่าใกล้จะค่ำแล้ว เขาจึงไปที่ห้องครัวเพื่อเอาทำอาหารอีกสองจาน ทุกคนกินอย่างอิ่มหน่ำสำราญ จากนั้นอาบน้ำชำระร่างกาย ปีนขึ้นไปบนเตียงเตาแล้วพูดคุยกัน
กู้เสี่ยวหวานเล่าให้ทุกคนฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่ฝาน กู้หนิงอันและกู้หนิงผิงกำลังรู้สึกพลิกผันอย่างตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ถ้าพี่สาวของพวกเขาสามารถลงทุนได้จริง ๆ จากนี้ไป ตราบใดที่ร้านจิ่นฝูขายอาหารจานนี้ได้ พี่สาวของพวกเขาก็จะมีรายได้!
พวกเขาต่างความสุขและตื่นเต้น พูดคุยกันเป็นเวลานาน แต่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กน้อย ไม่นานก็ผล็อยหลับไปในที่สุด
และมีเพียงฉินเย่จือเท่านั้นที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
เขานึกถึงการปรากฏตัวของเฉาซื่อเมื่อวันก่อน จึงครุ่นคิดในหัวอย่างหนัก ในเวลานั้น เมื่อเฉาซื่อเห็นใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวของกู้เสี่ยวหวาน นางไม่ได้มองไปที่กู้เสี่ยวหวาน แต่ราวกับว่านางเห็นคนอื่นผ่านกู้เสี่ยวหวาน
ต้องมีผีอยู่ในใจของเฉาซื่อ
และบ่ายวันนี้ที่หน้าหอหนังสืออวี้ ฮูหยินสวีเล่าเรื่องหนึ่งขึ้นมาและต้องการมอบผ้าผืนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวให้กู้เสี่ยวหวาน
เว้นเสียแต่จะเป็นคนโง่ก็คงไม่สามารถคิดได้ว่าฮูหยินสวีกำลังสื่อถึงอะไร แต่นี่คือความหมายของฮูหยินสวีงและสวีเฉิงเจ๋อ!
ฉินเย่จือมองออกมานานแล้ว ฮูหยินสวีมีความคิดอื่นต่อกู้เสี่ยวหวาน สายตาของนางยามมองกู้เสี่ยวหวาน มันบ่งบอกทุกอย่าง
เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮูหยินสวีต้องการกู้เสี่ยวหวานไปเป็นลูกสะใภ้ ดังนั้นนางจึงใช้ผ้าผืนนั้นเพื่อทดสอบ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเย่จือก็สะดุ้งโหยงและหันไปทางที่กู้เสี่ยวหวานที่กำลังนอนหลับอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจ
ยามมองจากตรงนี้ เห็นได้เพียงเส้นผมสีดำขลับของกู้เสี่ยวหวาน และไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของกู้เสี่ยวหวานได้
ฉินเย่จือหดหู่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าเด็กหญิงตัวน้อยของเขากำลังถูกคนอื่นจ้องมอง
ฉินเย่จือกังวลและหดหู่เล็กน้อย ทำไมลูกแมวตัวนี้ตัวเล็กจัง!
ฉินเย่จือมองกู้เสี่ยวหวาน แววตาเปี่ยมไปด้วยความรักอันลึกซึ้งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนดังเช่นหมึกหนาที่ไม่สามารถละลายได้
คำคืนนั้นเงียบสนิท
กู้ซินเถากลับบ้านอย่างอกสั่นขวัญหาย
ซุนซื่อกำลังเตรียมอาหารเย็น ครั้นเห็นกู้ซินเถากลับมาด้วยใบหน้าผิดหวังก็พลันตระหนกตกใจอีกครั้ง เพราะคิดว่ากู้ซินเถาคงคิดถึงเรื่องของเจียงหย่วนขึ้นมาอีกครั้ง จึงรีบเบี่ยงประเด็นอย่างรวดเร็วโดยหวังว่าจะทำให้กู้ซินเถามีความสุข
ทว่าในใจสาปแช่งเจียงหย่วนไม่หยุด
นอกจากนี้ยังตำหนิตัวเองที่ส่งกู้ซินเถาไปเพื่อเย้าแหย่เจียงหย่วน
จะรู้ได้อย่างไรว่าตระกูลมั่งคั่งเช่นนี้จะหายหน้าหายตาไปไหน ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว
ในหัวใจของกู้ซินเถาซึมเศร้าอย่างไม่อาจพรรณนา ความรู้สึกไม่สบาย ซึมเศร้า ความโกรธ และความลังเลใจ!
อารมณ์นับไม่ถ้วนหมุนวนอยู่ในหัวใจ ราวกับหัวใจถูกบดขยี้จนมีทั้งความเจ็บปวด ความโกรธ และความเศร้าของนาง
กู้ซินเถาไม่เคยคิดว่านางจะได้พบกับฉินเย่จืออีกครั้งในตอนบ่ายของวันแรกที่นางกลับมา
นางคิดว่ามันเป็นโชคชะตา แต่…
แต่เพราะการปรากฏตัวของกู้เสี่ยวหวาน ไม่ว่าชะตากรรมจะถูกลิขิตมาอย่างไร มันก็แค่เรื่องโกหก เรื่องโกหก!
“ฮือ…” กู้ซินเถาเอาผ้าคลุมมาปิดหน้า น้ำตาไหลพราก กลั้นน้ำตาไม่อยู่อีกต่อไป หยาดน้ำใสหลั่งรินเปรอะเปื้อนทั่วใบหน้า
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำให้ร่างกายของซุนซื่อสั่นสะท้านราวกับผีสิง
“ซินเถา ซินเถา…”
ซุนซื่อไม่ได้เอ่ยเอื้อนสิ่งใด ก่อนหน้านี้ตนยังสามารถแก้ต่างให้เจียงหย่วนได้ ให้กู้ซินเถารู้ว่าหัวใจของเจียงหย่วนยังอยู่กับนาง ทว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนาน เจียงหย่วนก็ยังไม่กลับมา ความมั่นใจของซุนซื่อหดหายไปหมด!
“ซินเถา เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ พรุ่งนี้ข้าจะไปตระกูลเจียง ไปถามข่าวคราวของเจียงหย่วนให้เจ้าดีหรือไม่?” หัวใจของซุนซือเป็นทุกข์ ลูกสาวที่ตนเองประคบประหงมราวกับแก้วตาดวงใด คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้อื่นโยนไปโยนมาราวกับผ้าเช็ดหน้าไร้ค่าผืนหนึ่ง
นางจะยอมได้อย่างไร
“ฮือ ฮือ…” กู้ซินเถาร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ตอบคำถามของซุนซื่อ
กู้ซินเถาไม่ได้ร้องไห้เพราะเจียงหย่วน นางร้องเพราะฉินเย่จือต่างหาก แต่จะเอ่ยออกไปได้อย่างไร