ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 492 จงใจป้ายน้ำมันหมูบนเสื้อผ้า
บทที่ 492 จงใจป้ายน้ำมันหมูบนเสื้อผ้า
บทที่ 492 จงใจป้ายน้ำมันหมูบนเสื้อผ้า
กุ้ยชุนเจียวไปที่รูหนูและเห็นเศษผ้าอยู่ที่บริเวณปากรู เสื้อผ้าที่หรูหรามากกลับกลายเป็นเครื่องมือสำหรับหนูในการทำรัง
พวกนางค้นหาไปทั่วบ้าน แต่ไม่คิดว่ามันจะไปปรากฏอยู่ในรูหนู
อย่างไรก็ตาม นางเก็บเสื้อผ้าไว้ในกล่องและลงกลอนไว้อย่างดี แล้วมันมาปรากฏในรังหนูได้อย่างไร!
ในบ้านหลังนี้ นอกจากกุ้ยตงเหมยที่อิจฉาเสื้อผ้าของนางในตอนนั้น ใครจะกล้าทำเช่นนี้อีก
สิ่งที่กุ้ยชุนเจียวคิดถึงในตอนนั้นก็คือกุ้ยตงเหมย
ต้องเป็นเพราะกุ้ยตงเหมยรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อเห็นว่าตนไม่ได้ให้ชุดนี้กับนาง นางจึงไม่พอใจ ในเมื่อนางไม่ได้ นางก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ไปเช่นกัน
กุ้ยชุนเจียวโกรธจัด และออกไปเผชิญหน้ากับกุ้ยตงเหมย
แต่เมื่อกุ้ยตงเหมยได้ยินว่าเสื้อผ้าของกุ้ยชุนเจียวปรากฏขึ้นที่ทางเข้าของรูหนู นางก็ปรบมือและหัวเราะอย่างมีความสุข
“ท่านพี่ เสื้อผ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ดูสิว่าท่านยังจะหวงชุดนี้อยู่หรือไม่ ในเมื่อไม่ให้ข้าใส่ แม้แต่สัมผัสก็อย่าได้สัมผัสเลย หึ!” ใบหน้าของกุ้ยตงเหมยเต็มไปด้วยความรังเกียจ และเอ่ยด้วยท่าทางมีความสุข
กุ้ยชุนเจียวโกรธมากจนแทบจะทรุดลง
“เจ้าทำสิ่งนี้หรือ!” กุ้ยชุนเจียวกัดฟันเอ่ยถาม
ดวงตาของกุ้ยชุนเจียวเบิกกว้างและจ้องไปที่กุ้ยตงเหมยอย่างดุดันราวกับว่าหากนางตอบรับเมื่อไร ตนก็จะพุ่งเข้าหานางในทันที
“ข้าเป็นคนทำเอง แต่ข้าไม่ได้โยนมันที่ทางเข้ารูหนู ข้าแค่โยนมันลงบนพื้นแล้วเหยียบด้วยเท้าทั้งสองของข้าเท่านั้น” กุ้ยตงเหมยไม่เคยเห็นพี่สาวของนางโกรธราวกับจะกินคนเช่นนี้มาก่อน หัวใจจึงพลันรู้สึกผิดเล็กน้อย “ใครจะรู้ว่าหนูจะลากมันไป!”
ในเวลานั้น กุ้ยตงเหมยไม่เพียงแต่จะเหยียบด้วยเท้าของนางเท่านั้น แต่ยังใช้น้ำมันหมูครึ่งโถป้ายลงบนเสื้อผ้าแล้วโยนเสื้อผ้าไว้ใต้เตียง
ในบ้านชนบทแห่งนี้มีหนูจำนวนมาก กุ้ยตงเหมยคิดว่าหนูชอบกินน้ำมัน และหากนางทาเสื้อผ้าด้วยน้ำมัน หนูก็จะมากัดเสื้อผ้าอย่างแน่นอน
แต่ดูเหมือนว่าหนูเหล่านี้จะทรงพลังจริง ๆ จึงทำให้เสื้อผ้าขาดวิ่นเช่นนี้
กุ้ยตงเหมยรู้สึกภาคภูมิใจ แต่นางไม่กล้าแสดงมันบนใบหน้า หากกุ้ยชุนเจียวรู้ว่าตนจงใจใช้น้ำมันหมูเพื่อดึงดูดหนูล่ะก็ กุ้ยชุนเจียวจะไม่มีวันปล่อยตนไปแน่
กุ้ยตงเหมยตอบรับมันเบา ๆ และบอกว่านางเพียงเหยียบด้วยเท้าทั้งสองข้าง หลังจากที่กุ้ยชุนเจียวได้ยิน นางก็รู้สึกว่าร่างกายของนางหมดแรง เซไปมาและล้มลงกับพื้น
นางมองไปที่กุ้ยตงเหมยอย่างไม่พอใจ
นี่เป็นเสื้อผ้าที่ดีชุดเดียวที่นางมี แต่กุ้ยตงเหมยกลับทำลายมันจนพังยับเยิน
กุ้ยชุนเจียวรู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อเลย หากตนจะเกลียดกุ้ยตงเหมย ตนจะโทษนางเรื่องอะไรกันล่ะ?
เดิมทีนางได้สิ่งนี้มาด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม
กุ้ยตงเหมยไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นหัวใจที่แตกสลายของพี่สาว ในใจของนางก็รู้สึกรังเกียจอย่างยิ่ง
กุ้ยชุนเจียวสวยกว่าตนมาก
นางมีใบหน้าเรียวราวเมล็ดแตงโม คิ้วเรียวบาง แม้ว่าดวงตาของนางจะไม่โต แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
กุ้ยตงเหมยทำหน้าบึ้งไม่สนใจกุ้ยชุนเจียว และพูดอย่างไม่กระดากอายว่า “ท่านพี่ใครใช้ให้ท่านตระหนี่ล่ะ ดูสิ แม้แต่หนูก็ทนไม่ไหวเลยต้องมาช่วยข้า!”
ปรากฏว่ากุ้ยตงเหมยไม่พอใจที่ตนเองไม่ได้ให้ชุดนี้กับนาง!
กุ้ยชุนเจียวเสียใจจนสุดจะบรรยาย ด้านหนึ่ง มันเป็นแค่เสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง และในอีกด้านก็คือน้องสาวของตน!
กุ้ยชุนเจียวทำอะไรไม่ถูก นางทำได้เพียงหลับตาลง หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อดับไฟที่คุกรุ่นในใจของนาง
สำหรับกุ้ยตงเหมย กุ้ยชุนเจียวหมดหนทางและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน!
บางครั้งก็ไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าน้องสาวคนนี้คิดอะไรอยู่!
ต่อมากุ้ยตงเหมยเผลอหลุดปากออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจครั้งหนึ่ง
ครั้งนั้นเป็นตอนที่ครอบครัวกำลังเจียวน้ำมันหมู กุ้ยซื่อก็บังเอิญทำน้ำมันหมูหกโดนร่างกายของนางเอง นางเจ็บปวดแสบร้อนจนต้องกัดฟัน
ในเวลานั้น กุ้ยตงเหมยที่อยู่ข้าง ๆ กลับกินกากหมู ในขณะที่กุ้ยชุนเจียวกำลังร้อนรน
ในเวลานั้น เมื่อกุ้ยตงเหมยเห็นความเจ็บปวดของกุ้ยซื่อ นางก็ยังคงพูดว่า “ท่านแม่ โชคดีแล้วที่ไม่กระเซ็นโดนเสื้อผ้าของท่านแม่ พวกหนูมันชอบกินน้ำมันหมูมาก เมื่อถึงเวลานั้นก็อย่าให้มันฉีกเสื้อผ้าของท่านเอาล่ะ”
กุ้ยซื่อไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของกุ้ยชุนเจียวถูกหนูกัดแทะ นางจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าตั้งใจใส่เสื้อผ้าที่ขาด หากถูกหนูกัดจะได้ไม่เสียดาย!” พูดจบนางก็หัวเราะ “ชุนเจียว ที่เจ้ายังไม่พบชุดนั้น ไม่แน่อาจจะโดนหนูลากไปทำรังแล้ว!”
เสื้อผ้าหายไปหลายวัน ค้นในบ้าน นอกบ้าน และทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเสื้อผ้าเลย
แม้แต่รูหนูในบ้านก็หาแล้ว แต่ก็ไม่มี
กุ้ยชุนเจียวและกุ้ยซื่อจึงไม่ได้ตามหามันอีกต่อไป
หายแล้วก็หายไป ถึงแม้จะเป็นทุกข์ หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อกุ้ยชุนเจียวได้ยินคำพูดของกุ้ยตงเหมยในตอนนั้น นางก็นึกถึงสาเหตุที่เสื้อผ้าของตนขาดเป็นชิ้น ๆ และในขณะนั้นน้ำมันหมูครึ่งโถที่บ้านก็หายไป ตอนนั้นนึกว่าถูกหนูกินไปแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหนูไม่ได้ขโมยมันไปกินเลย แต่เป็นกุ้ยตงเหมยที่ป้ายน้ำมันหมูบนเสื้อผ้าของกุ้ยชุนเจียวแล้วโยนมันลงบนพื้น เมื่อหนูเหล่านั้นได้กลิ่น มันจะไม่มากัดกินเสื้อผ้าได้อย่างไร!
กุ้ยชุนเจียวจ้องที่กุ้ยตงเหมยอย่างดุเดือดราวกับว่าต้องการมองทะลุกุ้ยตงเหมย กุ้ยตงเหมยรู้ว่านางเพิ่งพลาดประเด็นนี้ไป
นับตั้งแต่กุ้ยชุนเจียวรู้ว่ากุ้ยตงเหมยโยนเสื้อผ้าของนางลงบนพื้นและถูกหนูลากไป กุ้ยตงเหมยก็คิดว่านางจะบอกให้กุ้ยซื่อและกุ้ยสวิ้นเหอสอนบทเรียนให้ตน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกุ้ยซื่อก็ยังไม่รู้เรื่องนี้
ดูเหมือนว่ากุ้ยชุนเจียวจะไม่ได้บอกกุ้ยซื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
กุ้ยซื่อรู้ว่าเสื้อผ้าของกุ้ยชุนเจียวหายไป แต่ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของกุ้ยชุนเจียวหายไปไหน
เดิมทีกุ้ยตงเหมยคิดว่ากุ้ยชุนเจียวจะบอกกุ้ยซื่อ แต่หลังจากที่รอเป็นเวลานาน กุ้ยซื่อก็ไม่ได้มาตำหนิตน ดูเหมือนว่ากุ้ยชุนเจียวจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของกุ้ยซื่อ กุ้ยตงเหมยก็รู้สึกพึงพอใจมากขึ้นไปอีก
นางเลิกคิ้วขึ้นและเหลือบมองกุ้ยชุนเจียวอย่างเยาะเย้ยด้วยท่าทางราวกับว่า เจ้าสามารถทำอะไรกับข้าได้บ้างล่ะ
ใบหน้าของกุ้ยชุนเจียวมืดลง คิ้วของนางย่นเข้าหากันแน่น เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งของกุ้ยตงเหมย นางก็เกลียดแทบตาย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กุ้ยตงเหมย นั่นพี่สาวของเธอนะ จะเป็นเด็กขี้อิจฉาอะไรขนาดนั้นกัน เด็กแบบนี้น่าโดนลงโทษให้เข็ดว่าไหมคะ?
ไหหม่า (海馬)