ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 524 ในที่สุดก็ถึงบ้าน
บทที่ 524 ในที่สุดก็ถึงบ้าน
บทที่ 524 ในที่สุดก็ถึงบ้าน
ในที่สุดฉือโถวกับกู้หนิงผิงก็พบกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือในสภาพที่ไม่น่ามอง
เสื้อผ้าของฉินเย่จือเปรอะเปื้อนจนมองไม่เห็นสีเดิมของเสื้อผ้าอีกต่อไป เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งมีคราบเลือดเกาะเกรอะกรัง
ครั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอีกครั้ง ผมยุ่งเหยิงแผ่สยายกลางแผ่นหลัง แม้ว่าจะอยู่อยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่โชคดีที่ร่างกายของนางไร้ซึ้งแผลบาด
เมื่อเห็นว่าพี่สาวและอาจารย์ของตนเองอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาดแผลทั่วร่างของฉืนเย่จือ
กู้หนิงผิงตกใจจนแทบสะดุ้ง “ท่านพี่ อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับพวกท่าน?!”
ดวงตาของฉินเย่จือทั้งสองข้างปิดสนิท อาศัยการประคองของกู้เสี่ยวหวานในการเดิน คราวนี้เขาก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย สติเฮือกสุดท้ายบ่งบอกว่าคนผู้นั้นคือกู้หนิงผิง ตอนนั้นเองหัวใจของเขาก็ผ่อนปรนลง
ความคิดที่จะประคับประคองร่างไม่ให้ตนเองล้มลงได้มลายหายไปในทันใด
บาดแผลฉกรรณ์จากคมเขี้ยวของหมาป่าที่ฉีกขย้ำเขา ความเจ็บปวดได้แทรกซึมทั่วอณูขุมขนของฉินเย่จือ!
ในที่สุด ฉินเย่จือก็หมดสติ เขาซบลงบนไหล่ของกู้เสี่ยวหวานอย่างไร้เรี่ยวแรง
ครั้นเห็นฉินเย่จือเป็นหมดสติลงต่อหน้าต่อหน้า กู้เสี่ยวหวานพลันตื่นตระหนก ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พี่ใหญ่ฉิน พี่ใหญ่ฉิน…เร็วเข้า เร็วเข้า พวกเรารีบกลับบ้าน รีบกลับบ้านกันเถอะ พี่ใหญ่ฉินหมดสติไปแล้ว!”
เมื่อเห็นใบหน้าหวาดวิตกกังวลของกู้เสี่ยวหวาน และได้ยินว่าได้ยินว่าฉินเย่จือหมดสติไปแล้ว ฉือโถวไม่กล้าแม้แต่จะล่าช้า รีบแยกฉินเย่จือจากกู้เสี่ยวหวานแล้วแบกเขาขึ้นหลังตนเองอย่างฉับไว
กู้หนิงผิงพยุงกู้เสี่ยวหวาน ทั้งสี่คนรีบลงจากเขาด้วยความเร็วรี่
เมื่อพวกเขามาถึงหมู่บ้านอู๋ซี มีคนบังเอิญเห็นฉินเย่จือสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนหลังของฉือโถ่ว เสื้อผ้าบนร่างกายของเค้าขาดวิ่น เกรงว่าจะถูกหมาป่าฉีกกระชาก
ดูเหมือนว่ามีหมาป่าอยู่บนภูเขาลูกนี้จริง ๆ!
ใครบางคนถอนหายใจ และกระซิบแผ่วเบา “เจ้าเห็นหรือไม่ เด็กหนุ่มที่เสี่ยวหวานรับมาเลี้ยงถูกหมาป่าขย้ำมีสภาพเป็นอย่างไร จิ๊ ๆ ดูเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาสิ ถูกหมาป่าขย้ำเสียกลายเป็นเช่นนี้แล้ว”
“ใช่ ๆ ข้าเห็นพวกเขาตั้งแต่อยู่ตรงโน้น!” เสียงซุบซิบดังขึ้นอีกหนึ่งเสียง “จิ๊ ๆ โชคดีเสียเหลือเกิน แม้ว่าจะถูกหมาป่าขย้ำมาขนาดนี้ยังมีชีวิตรอดกลับมาได้!”
“ไม่ใช่หรอกระมัง!” หนึ่งในนั้นพูดดูถูกเหยียดหยาม “มีชีวิตรอดกลับมาแล้วอย่างไร บางทีอาจจะช่วยชีวิตเอาไว้ไม่ได้ก็ได้!”
กู้เสี่ยวหวานที่เดินเข้ามาได้ยินเสียงนี้เข้าพอดี
ประโยคนี้ราวกับเป็นเครื่องเตือนใจของกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกหงุดหงิดจนเดินต่อไปไม่ได้ หากยืนไม่อยู่ก็คงจะทรุดลงกับพื้นไปเสียแล้ว
สภาพของกู้เสี่ยวหวานในเวลานี้ทำให้กู้หนิงผิงหวาดกลัว
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานไร้ซึ่งอารมณ์ แต่ความหวาดกลัวและทำอะไรไม่ถูกในดวงตาเหล่านั้นได้ฉายชัดอยู่ในหัวใจของกู้หนิงผิง
เขาไม่เคยเห็นพี่สาวของตนเป็นแบบนี้มาก่อน และเสียสติจนอยู่ในสภาพนี้
กู้หนิงผิงที่จ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างระมัดระวัง ครั้นเห็นร่างกายนางสั่นไปทั้งร่าง จึงเกรงว่าว่าพี่สาวของตนจะล้มลง จึงรีบประคองนางเอาไว้แล้วกล่าวอย่างทุกข์ใจ “ท่านพี่ ท่านอย่าเป็นอะไรไปนะ!”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินคำพูดของกู้หนิงผิง สติก็พลันหวนคืนกลับมา ความกลัวในใจของนางถูกระงับไว้
ใช่ นางจะเป็นอะไรไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
ฉินเย่จือได้รับบาดเจ็บแบบนี้ ครอบครัวไร้ซึ่งผู้ใหญ่ดูแลจะล้มลงไม่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง พี่ใหญ่ฉินจะทำอย่างไร!
นางห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด!
กู้เสี่ยวหวานจิกเล็บลงบนแขนของตนเองด้วยแรงมหาศาล ความเจ็บปวดปลุกให้นางได้สติฟื้นคืนกลับมา
นางดึงกู้หนิงผิงและกล่าวว่า “หนิงผิง รีบไปเชิญหมอหม่ามาที่บ้านของเรา เขาบอกว่าพี่ใหญ่ฉินถูกหมาป่ากัด ให้เขานำยามาด้วย!”
“ขอรับ!” ในที่สุดกู้หนิงผิงก็รู้สึกตัวเมื่อได้ยิน กู้เสี่ยวหวานกลับมามีสติอีกครั้ง ครั้นกู้หนิงผิงเห็นว่าพี่สาวออกคำสั่ง จึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านรีบกลับบ้านเร็วเข้า ป้าจางรออยู่ที่บ้าน ส่วนข้าจะไปหาหมอหม่าเดี๋ยวนี้”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า และกู้หนิงผิงก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ฉือโถวรีบวิ่งไปที่บ้านกู้โดยมีฉินเย่จืออยู่บนหลัง
กู้เสี่ยวหวานขบริมฝีปากแน่น ช่วยประคองฉินเย่จือจากด้านหลัง และเดินไปตามทางอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเมื่อวานนี้ฝนตกตลอดบ่าย เส้นทางเฉอะแฉะ เกิดเป็นหลุมเป็นบ่อที่มีระดับความลึกแตกต่างกันไป
ชายกระโปรงของกู้เสี่ยวหวานจมลงไปในโคลน เสื้อผ้าของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน
เวลานี้กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น นางทำได้เพียงแค่ก้มหน้าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แม้ว่านางจะเหยียบย่ำลงบ่อโคลน แต่กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป
สิ่งที่นางสนใจในตอนนี้คือรีบกลับบ้าน เชิญหมอมาที่บ้านและดูแลฉินเย่จือให้ดี
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ฉินเย่จือได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นเพราะนาง!
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานสงบนิ่ง หากหัวใจของนางสั่นไหวอย่างรุนแรง
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านก็เห็นป้าจางและกู้เสี่ยวอี้รอพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ กลับมาในที่สุด ป้าจางกุลีกุจอเข้ามาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฉินเย่จือนอนแน่นิ่งอยู่บนหลังของฉือโถว “ตายแล้ว! เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? เด็กคนนี้บาดเจ็บได้อย่างไร!”
ยังไม่ทันที่กู้เสี่ยวหวานจะได้ปริปากพูด นางก็เดินตามฉือโถวเข้าไปในห้องและวางฉินเย่จือลงบนเตียง
ในขณะนี้กู้หนิงผิงก็พาหมอม่ามาถึงบ้าน
“ช้าลงหน่อย กระดูกของข้าจะถูกเจ้าหักอยู่แล้ว” หมอหม่าบ่นพึมพำไม่หยุด
“ท่านหมอหม่า เร็วเข้าเถอะ ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย!” กู้หนิงผิงเร่งเร้า
สีหน้าตกใจของกู้เสี่ยวหวานตอนนี้ทำให้กู้หนิงผิงตกใจจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ที่เสียเลือดไปมาก ไหนจะมีบาดแผลฉกรรณ์ทั้งตัว ความลึกของบาดแผลแตกต่างกัน เมื่อกู้หนิงผิงได้เห็นสภาพร่างกายอาจารย์ของตนเอง กู้หนิงผิงมีเพียงความคิดเดียวในหัวใจของเขาว่าจะต้องรีบรักษาอาจารย์ของเขาให้เร็วที่สุด
หมอหม่ายังคงบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุด แต่กู้หนิงผิงไม่ฟังเขาเลยแม้แต่น้อย และยังคงลากเขาวิ่งเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเท้าของกู้เสี่ยวหวานก้าวพ้นประตูบ้านเข้ามา กู้หหนิงผิงก็ลากหมอหม่าเข้ามาในบ้านทันที
“ท่านป้าจาง รีบนำน้ำร้อนมาเร็วเข้า!” ครั้นเห็นหมอหม่ามาถึงแล้ว หัวใจของนางนิ่งสงบและผ่อนคลายลง